Market Wrap-Up
- SET วันที่ 20 พ.ย.68 ปิด +9.64 จุด อยู่ที่ 1,281.81 จุด มูลค่าการซื้อขาย 33,440 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 778 ลบ. ต่างชาติซื้อ 358 ลบ. สถาบันขาย 398 ลบ. และรายย่อยขาย 737 บาท NVDR มียอดซื้อสุทธิ 1 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น TTB,AOT,TCAP,KBANK,ADVANC และยอดขายหุ้น DELTA,BDMS,PTTEP,SCB,COM7 มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,171 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ CNSEMI23,CNROBOAI23,CHG โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 15,594 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 69,844 สัญญา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 1,821 ลบ.
Market View
- DJIA -0.84%, S&P500 -1.56%, Nasdaq -2.15% จากแรงขายกลุ่มเทค ฯ -66%, สินค้าฟุ่มเฟือย -1.73% โดย Nvidia -3.2% หลังช่วงเปิดตลาด +5% ตอบรับกำไรไตรมาส 3 ที่ดีกว่าคาด แต่นักลงทุนยังกังวลต่อภาวะฟองสบู่ เนื่องจากเม็ดเงินลงทุน Nvidia & OpenAI อาจเป็นหมุนเม็ดเงินในกลุ่มพันธมิตรเดียวกันเท่านั้น ส่วนรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ก.ย. เพิ่มขึ้น 119,000 สูงกว่าคาดที่ 53,000 ตำแหน่ง แต่อัตราว่างงาน ก.ย. ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.4% & ส.ค.ที่ 4.3% ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของผู้มีส่วนร่วมในตลาดแรงงานมากกว่าการเพิ่มขึ้นของตัวเลขเลิกจ้างงาน ซึ่งบ่งชี้ภาวะตลาดแรงงานสหรัฐยังไม่มีสัญญาณอ่อนตัว ดังนั้น CME FedWatch ชี้มีโอกาส 39.1% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในการประชุม ธ.ค. เป็นอีกปัจจัยที่กดดันหุ้นกลุ่ม Growth ส่วนค่ำวันนี้ติดตาม PMI ภาคผลิต & บริการสหรัฐ พ.ย./ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ พ.ย.
- Stoxx600 ยุโรป +40% ได้แรงหนุนจากกลุ่มป้องกันประเทศ +1.3% หลังวันก่อนปรับลดลงรับข่าวสหรัฐพยายามกดดันให้ยูเครนยุติสงครามกับรัสเซีย ส่วนกลุ่มธนาคาร +0.8% นำโดย BNP Paribas +4.4% จากคาดการณ์ CET1 ของธนาคารจะปรับขึ้นอยู่ที่ 13% ภายในปี 2570 ขณะที่กลุ่มเทค ฯ +0.1% จากความไม่แน่ใจว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยหรือไม่ในการประชุม ธ.ค. ข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยูโรโซน พ.ย.ทรงตัวที่ -14.2 ส่วนค่ำวันนี้ติดตาม PMI ภาคผลิต & บริการยูโรโซน พ.ย.
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีนิเกอิ +65% ได้แรงหนุนจากกลุ่มอุต ฯ AI หลัง Nvidia รายงานกำไรไตรมาสที่ผ่านมาดีกว่าคาด กอปรหุ้นกลุ่มส่งออกยังได้แรงหนุนจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่า ส่วน Kospi เกาหลีใต้ +1.92% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มผลิตชิป เช่น Samsung Electronics, SK Hynix หลังนักลงทุนคลายความกังวลต่อาภาวะฟองสบู่ในอุต ฯ AI ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.40% จากแรงขายกลุ่มพลังงานใหม่ หลัง ธ.กลางจีนยังคงดอกเบี้ย LPR 1 ปี, 5 ปี ไว้ที่ 3.0%, 3.5% ตามลำดับต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจเช้านี้ CPI ญี่ปุ่น ต.ค.อยู่ที่ 3.0% & ก.ย.2.9% YoY , ตัวเลขส่งออกญี่ปุ่น ต.ค. +3.6% สูงกว่าคาดที่ +1.1% YoY
- SET วานนี้ +76% ปริมาณการซื้อขาย 3.3 หมื่น ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 778 ลบ. ต่างชาติซื้อ 358 ลบ. สถาบันขาย 398 ลบ. และรายย่อยขาย 737 ลบ. ดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มขนส่ง +3.8% นำโดย AOT +5.6%, THAI +4.4% จากคาดการณ์นักท่องเทียวจีนมีโอกาสมาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น หลังจีน & ญี่ปุ่นมีความขัดแย้งต่อประเด็นความเห็นของนายก ฯ ญี่ปุ่นในกรณีไต้หวัน กอปรกับได้จำนวนนักท่องเที่ยวจากยุโรปเข้าไทยเพิ่มขึ้นในช่วง High Season ปลายปี ขณะที่กลุ่มอิเล็ก ฯ +0.88% ปรับขึ้นตามกลุ่มเทค ฯ ในตลาดเอเชียเหนือ หลัง Nvidia รายงานกำไรไตรมาสที่ผ่านมาดีกว่าคาด ส่วนกลุ่ม Domestic Play เช่น ธนาคาร, ไอซีที ก็มีแรงทยอยซื้อสะสม เนื่องเป็นกลุ่มที่มีผันผวนน้อย กอปรกับมีอัตราการจ่ายเงินปันผลปีนี้สูงกว่าระดับ 5% จึงเป็นกลุ่มที่เหมาะกับการพับเงินลงทุน ในช่วงที่ดัชนีหุ้นต่างประเทศยังมีความผันผวนสูง ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ รมว.คลังเผยตั้งเป้าหมายจะปรับขึ้นภาษี VAT จาก 7% เป็น 8.5% ในปี 2571 และขึ้นไปที่ 10% ภายในปี 2573 เพื่อเป็นการรักษาระดับวินัยการเงิน & การคลังในประเทศ
Daily Strategy
- ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,260 – 1,270 แนวต้าน 1,290 คาดดัชนี SET กลับมาผันผวนตามหุ้นกลุ่มเทค ฯ ในตลาดเอเชียเหนือ และรอประเมินข้อมูลเศรษฐกิจก่อนการประชุมเฟดวันที่ 10 ธ.ค. แนะนำทยอยซื้อ CPN,CENTEL,BA,WHAUP คาดกำไร Q4/68 ยังเติบโตดี/ พักเงินในหุ้นกลุ่มที่มีอัตราเงินปันผลสูง เช่น SCB,KTB,TTB,TCAP,ADVANC
- TKS* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมายเฉลี่ย IAA Consensus NA.) บริษัทรายงานกำไร 3Q68 ที่ 87 ล้านบาท +18%QoQ, +625%YoY ฟื้นตัวแรงแม้มีรายการพิเศษ -35 ล้านบาท ที่เกิดจาก PTECH รายได้รวมอยู่ที่ 350 ล้านบาท +6%QoQ, -%YoY ต้นทุนลดลงจากการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ GPM ดีขึ้นอยู่ที่ 36% ประกอบกับการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของ SYNEX ที่ยังโดดเด่น แนวโน้ม 4Q68 คาด YoY พลิกเป็นกำไรเนื่องจากไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนของ PTECH และคาดกำไรของ SYNEX ยังเติบโตขึ้นต่อเนื่อง หากมองข้ามไปปีหน้า คาดมีปัจจัยหนุนต่อหลังถึงกำหนดยุบสภาอย่างช้าในเดือน ม.ค.มีโอกาสได้รับงานพิมพ์เพิ่มเข้ามาในช่วงการเลือกตั้ง
AMATA (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย 20.50 บาท)กำไรสุทธิ 3Q68 อยู่ที่ 1,139 ลบ.(+49%YoY, +714 %QoQ) มีแรงหนุนจากยอดโอนที่ดิน +YoY QoQ ราว 677 ไร่(ไทย-664 ไร่/ เวียดนาม-14ไร่) นอกจากนี้รายได้ค่าเช่าก็เติบโตเช่นกัน ซึ่งจากรายได้ออกมาสูงกว่าคาดส่งผลให้รายได้ชนะ Fixed Cost ส่งผลบวกต่อไปยังมาร์จิ้นโดยรวม ด้านการดำเนินงานช่วง 4Q68 นี้คาดแนวโน้มยังจะเป็นบวกต่อ QoQ ได้ตามฤดูกาลการโอนที่ดินของกลุ่มธุรกิจนิคมฯ ปัจจุบัน ฝ่ายวิเคราะห์คาดกำไรสุทธิปี68 และ 69 ที่ 2,923 ลบ.+18%YoY และ 3,031 ลบ.+4%YoY
Daily Key Factors
Oil Update(-) WTI ธ.ค.-$0.30 อยู่ที่ $59.14 / บาร์เรล, Brent ม.ค. -$0.13 อยู่ที่ $63.38/บาร์เรล หลังสหรัฐพยายามผลักดันข้อตกลงยุติสงครามในยูเครนที่ยาวนานกว่า 3 ปี ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันจากรัสเซียอาจเข้าสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น
Gold Update(-) Comex Gold ธ.ค.-$22.80 อยู่ที่ $4,060.00 /ออนซ์ หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ก.ย. เพิ่มขึ้น 119,000 สูงกว่าคาดจะเพิ่มขึ้น 53,000 ตำแหน่ง บ่งชี้ตลาดแรงงานสหรัฐยังไม่สัญญาณอ่อนตัว ส่งผลให้เฟดอาจจะยังไม่ปรับลดดอกเบี้ยในการประชุม ธ.ค.
Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +212.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +11.03 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +75.83 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +125.61 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ 32.41 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับลดลงอยู่ที่ 4.092 %
(+) ดัชนี BDI วานนี้ +10 อยู่ที่ 2,270
(-) BitCoin เช้านี้ -5.74% อยู่ที่ 87,205 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
17 พ.ย. สภาพัฒน์ แถลงตัวเลข GDP ไตรมาส 3/68 และแนวโน้มปี68
19 พ.ย. ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม
สัปดาห์ที3 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน
ยานยนต์
ต่างประเทศ
19 พ.ย. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ( ต.ค.)
20 พ.ย. US รายงานการประชุมของ FOMC
US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) ( ต.ค.)
21 พ.ย. US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (พ.ย.)
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (พ.ย.)
Theme Strategy
เลือกหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายหลักของรัฐบาลอนุทิน (รัฐบาลระยะสั้น 4 เดือน) เร่งใช้จ่ายในการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบ Quick wins, วงจรดอกเบี้ยโลกเป็นขาลง และ Earning momentum / Seasonal 3Q68-4Q68
(1) ค้าปลีก / บริโภค นโยบายคนละครึ่งพลัส – กระตุ้นกำลังซื้อ, ลดค่าใช้จ่าย CPAXT*, BJC, TNP*, KK*, MOTHER*, ICHI*, CBG*
(2) การเงิน / นอนแบงค์ นโยบายแก้ปัญหาหนี้สิน เพิ่มสภาพคล่อง SME, คาดการณ์ลดดอกเบี้ยนโยบาย MTC*, SAWAD*, TIDLOR*, KTC*, NCAP*, SINGER*, SGC*, FSMART*, AP*, SPALI*, CPN*, DIF*, 3BBIF*
(3) รับเหมาก่อสร้าง เร่งเบิกจ่ายงบประมาณ โครงการก่อสร้างภาครัฐ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน STECON, CK, SEAFCO*, PYLON*
(4) ท่องเที่ยว ฟื้นความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว, มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ AOT, CENTEL*, ERW*
(5) ไอซีที / ดิจิทัล ปราบปรามภัยไซเบอร์, การลงทุนด้าน Digital, Cyber Security, Data Center ADVANC, DELTA*, GULF*, BGRIM*, BCPG*, SECURE*
(6) ด้านสาธารณสุข ศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอและเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งฟรีทุกจังหวัด KTMS*, BIZ* ลดค่ายาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลเอกชน การเปิดเผยราคายาให้ผู้ป่วยมีทางเลือกในซื้อยาเองได้ HL* (เก็งกำไร)
(7) Solar ภาคประชาชน, มาตรการลดหย่อยภาษี Solar rooftop ครัวเรือน / Direct PPA GULF*, GUNKUL*
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio October 2025: WHAUP*, PRM*, BDMS, ADVANC, SHR*, TOP
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Meena Tunlayanitigun
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 033662
Tel 02-829-6999 Ext 2201
Email : meena.tu@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th