Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

119

 

 

 

Market Wrap-Up

· SET วันที่ 22 ก.ค.68 ปิด -16.38 จุด อยู่ที่ 1,191.75 จุด มูลค่าการซื้อขาย 49,095 ลบ. สถาบันขาย 2,277 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 338 ลบ. รายย่อยซื้อ 795 ลบ. และต่างชาติซื้อ 1,821 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 432 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น SCB,CPALL,DELTA,ADVANC,BBL และยอดขายหุ้น KBANK,BDMS,BH,TRUE,CRC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,301 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ HKCE01,KBANK,HMPRO โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 1,419 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 121,025 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 724 ลบ.

· ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA+0.40%, S&P500 +0.06%, Nasdaq -0.39% ได้แรงหนุนจากกลุ่มบริการสุขภาพ +1.9%, อสังหาฯ +1.78% ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยี -1.08%, บริการสื่อสาร -0.31% โดยนักลงทุนยังรอผลการเจรจาการค้าก่อนเส้นตายวันที่ 1 ส.ค. ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.41% จากความกังวลสหรัฐขู่จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้ายุโรปในอัตรา 30% หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงก่อนเส้นตายวันที่ 1 ส.ค.

· Market View

· ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA +0.4%,S&P500 +0.06% ได้แรงหนุนจากคาดการณ์กำไรจากธุรกิจ Ai ยังขยายตัวได้ดี และรอรายงานกำไร Q2/68 ของกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐในช่วงค่ำวันนี้ คือ Tesla, Alphabet ขณะที่ผลการเจรจาการค้านั้นสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงกับญี่ปุ่นที่จะเก็บภาษีในอัตรา 15%,ฟิลิปปินส์เก็บที 19% และยังรอผลการเจรจากับอินเดีย ส่วนการเจรจาข้อตกลงการค้ากับจีนนั้น ทาง รมว.คลังสหรัฐ & จีนจะมีนัดหารือกันที่สวีเดนในสัปดาห์หน้า ก่อนจะถึงเส้นตายวันที่ 12 ส.ค. ทางด้านถ้อยแถลงของ ปธ.เฟดวานนี้ในหัวข้อเงินกองทุนของธนาคารขนาดใหญ่นั้น ไม่ได้มีการส่งสัญญาณที่เกี่ยวกับแนวโน้มดอกเบี้ยของสหรัฐ ก่อนการประชุมเฟดวันที่ 29 – 30 ก.ค. ซึ่งตลาดคาดจะยังคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25 – 4.5๔

· ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลง นำโดยดัชนี DAX เยอรมัน -1.09% จากความกังวลสหรัฐขู่เก็บภาษีนำเข้าสินค้ายุโรปในอัตรา 30% หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ก่อนวันที่ 1 ส.ค. ขณะทีทางอียูก็เตรียมออกมาตรการเพื่อตอบโต้กลับสหรัฐ ส่วนรายงานกำไร Q2/68 ของ บจ.ใน Stoxx600 นั้น ทาง LSEG คาดจะหดตัวราว -0.3% เทียบกับค่าเฉลี่ย +3% YoY ซึ่งเป็นปัจจัยลบกดดันดัชนีหุ้นยุโรป สัปดาห์นี้วันพฤหัสติดตามผลการประชุม ECB คาดคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2% และ PMI ภาคการผลิต & บริการยูโรโซน เบื้องต้น ก.ค.

· ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ NIX +2.0% หลังสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่น โดยสหรัฐจะเก็บภาษีตอบโต้ญี่ปุ่นในอัตรา 15% แลกกับทางญี่ปุ่นจะเปิดตลาดรถยนต์, ข้าว และสินค้าเกษตรอื่น ๆ รวมถึงการลงทุนในสหรัฐมูลค่า 5.5 แสน ล.ดอลลาร์ เช่นเดียวกับฟิลิปปินส์ที่สามารถบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐ โดยสหรัฐจะเก็บภาษีตอบโต้ฟิลิปปินส์ในอัตรา 19% แลกกับฟิลิปปินส์เปิดตลาดให้กับสหรัฐในอัตรา 0%

· SET วานนี้ -1.36% ปริมาณการซื้อขาย 4.9 หมื่น ลบ. สถาบันขาย 2,277 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 338 ลบ. ต่างชาติซื้อ 1,821 ลบ. และรายย่อยซื้อ 795 ลบ. โดยดัชนีถูกแรงขายจากกลุ่มไฟแนนท์, ค้าปลีก, ขนส่ง, ปิโตรเคมี และอิเล็ก ฯ หลังสัปดาห์ก่อนหุ้นกลุ่มเหล่านี้ปรับขึ้น ตอบรับความหวังผู้แทนการค้าไทยจะสามารถเจรจาข้อตกลงกับสหรัฐ เพื่อลดอัตราภาษีจากระดับ 36% ลงมาใกล้เคียงกับเวียดนาม, มาเลเซีย กอปรกับช่วงบ่ายดัชนีถูกแรงขาย Sell on Fact หลัง ครม.มีมติแต่งตั้งนายวิทัย รัตนากร เป็นผู้ว่า ธปท.ท่านใหม่ตามคาดการณ์ ซึ่งดัชนีได้ปรับขึ้นตอบรับปัจจัยบวกของนโยบายการเงินผ่อนคลายของท่านไปบ้างแล้ว ขณะที่ รมว.คลังคุณพิชัย เผยจะส่งข้อเสนอทางการค้าครั้งสุดท้ายให้กับสหรัฐพิจารณาในวันนี้ ซึ่งบ่งชี้ทางสหรัฐยังไม่พอใจกับข้อเสนอที่ 2 ที่เสนอไปในสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้ตลาดกลับมากังวลต่อประเด็นภาษีทรัมป์อีกครั้ง ประเด็นอื่น ๆ ที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ คือ การเริ่มรายงานกำไร Q2/68 ชองกลุ่ม Real Sector เช่น PTTEP

Daily Strategy

· ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,180 แนวต้าน 1,200 คาดดัชนีทรงตัว หลังสหรัฐบรรลุข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่นได้ โดยยังรอผลการเจรจาข้อตกลงการค้าสหรัฐ – ไทย ก่อนเส้นตายวันที่ 1 ส.ค. แนะนำทยอยซื้อกลุ่มไฟแนนท์ SAWAD,MTC,TIDLOR,KTC,TISCO,KKP / โรงไฟฟ้า GULF,GPSC / กลุ่มอุปโภค CPALL,CBG,OSP ที่คาดจะได้ประโยชน์จากนโยบายผ่อนคลายการเงินของผู้ว่า ธปท.ท่านใหม่

· TFM* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 6.60 บาท) แนวโน้มช่วง 2Q-3Q68 คาดกำไรฟื้นตัว QoQ โดยยอดขายอาหารสัตว์น้ำเพิ่มขึ้นในเดือนเมษายน-พฤษภาคม 68 เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี รับดีมานด์อาหารกุ้ง-ปลากะพง จะเข้าช่วง high season (2Q-3Q) ในปี 68 บริษัทฯ มีงบประมาณลงทุนรวมกว่า 300 ล้านบาท ปรับเปลี่ยนเครื่องจักรลดต้นทุนและขยายกำลังการผลิต นอกจากนี้คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงจากการเจรจาการค้าที่ไทยอาจจะถูกสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ เข้ามาทุ่มตลาด แต่คาดไม่กระทบต่อความต้องการของเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำ (กุ้ง ปลา) ทั้งนี้อิงจาก consensus ตลาดคาดกำไรในปี 68 ที่ 567 ล้านบาท +6%YoY

· KLINIQ (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 35.50 บาท) ประเมินกำไรสุทธิ 2Q68 อยู่ที่ 90ลบ. (+21%YoY , +6%QoQ) แม้มีปัจจัยลบจากการขยายสาขา 5 แห่งใน 2Q68 และปิด L.A.B.X 1 แห่ง(คาดรายการ impairment ราว -2 ลบ.) แต่คาดปัจจัยบวกมีน้ำหนักมากกว่าจากรายได้ +YoY +QoQ ส่วนช่วงที่เหลือปีนี้ 3Q68 คาด จะกดดันจากการเปิดสาขา 4 แห่งรวมถึงสาขาที่เปิดใน 2Q68 ยังไม่ Breakeven แต่ YoYยังจะเห็นกำไรเป็นบวกได้ต่อ ขณะที่ข้ามไป 4Q68 คาดว่าจะมีการเปิดสาขาใหม่แห่งเดียว และรายได้จากสาขาใหม่ดีขึ้นจาก 3Q68 ส่งผลให้เราคาดว่า 4Q68 จะเป็นจุดสูงสุดของปี ปัจจุบัน เราคาดกำไรสุทธิ ปี68 และ ปี69 ของ KLINIQ ที่ 371 ลบ.( +15%YoY) และ 448 ลบ.(+20%YoY)

 

 

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ส.ค.-$0.99 อยู่ที่ $66.21 / บาร์เรล, Brent ก.ย. -$0.62 อยู่ที่ $68.59/บาร์เรล รอผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับประเทศคู่ค้าสำคัญ ๆ เช่น อียู, อินเดีย ซึ่งจะมีผลต่ออุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก ขณะที่ API รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 577,000 บาร์เรล

 

Gold Update(+) Comex Gold ส.ค.+$37.30 อยู่ที่ $3,443.70 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.47% และ US Bond Yield 10 ปี ปรับลดลงอยู่ที่ 4.356% โดยนักลงทุนยังรอผลการประขุมเฟดในสัปดาห์หน้า

 

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +21.68 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +56.36 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -34.43 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -0.25 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าอยู่ที่ 32.15 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.356 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +19 จุด อยู่ที่ 2,035

(+) BitCoin เช้านี้ +1.48% อยู่ที่ 119,508 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

31 ก.ค.     ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ        

ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

สัปดาห์ที5 สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนี

ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม

 

ต่างประเทศ

22 ก.ค.     US คำกล่าวของนายพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ

23 ก.ค.     US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (มิ.ย.)  

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

24 ก.ค.     EU การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ( ก.ค.)

                EU การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของธนาคารกลางแห่งยุโรป 

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( ก.ค.) 

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( ก.ค.)  17

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

US ยอดขายบ้านใหม่ (มิ.ย.)

 

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, คาดทิศทางดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง,  Earning Play 2Q68, High Season ไตรมาส3, และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Trade War สหรัฐ-จีน ลดความรุนแรงลง    

 

(1) กลุ่มการเงิน คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายลดลงในช่วง 2H68 NCAP*, SINGER* ,SGC* , MTC*, SAWAD*, TIDLOR*

 

(2) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ตามฤดูกาลจากฤดูร้อน GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่ม China Play คาดความตึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และรัฐบาลจีนมีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น SCC* ,SCGP* , PTTGC, IVL*

 

(4) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*, SIS*

 

(5) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC , NSL*

 

(6) กลุ่มส่งออกที่ผันผวนตามประเด็นภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เน้น เก็งกำไร เมื่อมีพัฒนการเชิงบวกของการเจรจาไทย-สหรัฐฯ เช่น DELTA*, CCET*, KCE*, TU, ITC*, ASIAN*, AAI*, COCOCO*

 

(7) กลุ่มร.พ.ที่ไตรมาส 2 เป็น Low Season แต่เข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 เช่น BDMS, SKR, WPH*, PR9*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio May 2025: MONO*, PR9*, IVL*,PTTGC*,GULF*, TIDLOR*

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999 Ext  2201

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ความหวัง By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย เขียวสดใส แรงซื้อหุ้นบิ๊ก แคป หนุนนำ ท่ามกลางนักลงทุน ลุ้นผลเจรจาภาษีระหว่าง..

ATLAS โชว์ศักยภาพผู้นำตลาด LPG ร่วมเวทีเสวนาสร้างธุรกิจยั่งยืนก่อนเข้า SET

ATLAS โชว์ศักยภาพผู้นำตลาด LPG ร่วมเวทีเสวนาสร้างธุรกิจยั่งยืนก่อนเข้า SET

มัลติมีเดีย

TMILL วางกลยุทธ์ ขยายตลาดควบคู่เน้นบริหารต้นทุน ดันมาร์จิ้นสดใส

TMILL วางกลยุทธ์ ขยายตลาดควบคู่เน้นบริหารต้นทุน ดันมาร์จิ้นสดใส

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้