Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : HMPRO ตั้งเป้าปี 62 รายได้ทะลุ 7 หมื่นลบ.

3,207

HotNews : HMPRO ตั้งเป้าปี 62 รายได้ทะลุ 7 หมื่นลบ.

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (8 มีนาคม 2562) HMPRO คาดรายได้ปี 62 โตกว่า 5% ทะลุ 7 หมื่นลบ. จากปีก่อนที่ 6.6 หมื่นลบ.  ด้าน 3 กูรูส่องหุ้น  HMPRO นำโดย KGI คาดปีนี้รายได้ HMPRO โต 13.7%-SSG จะเพิ่มขึ้นเป็น 3.5% ด้านแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เชียร์ซื้อ HMPRO ส่วน เทพหุ้นเสือเหลือง แนะTrading Buy HMPRO  เป้า 17.20 บาท

 

นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เปิดเผยว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้รวมเติบโตปี 2562 เติบโตเกิน 5% โดยคาดว่ารายได้จะทะลุ 70,000 ล้านบาท จากที่ก่อนที่มีรายได้รวม 66,000 บาท โดยในปี 2562 บริษัทฯ มีกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับสภาพการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป โดยการมุ่งเน้นเรื่อง Customer Centric พัฒนาพันธมิตรทางธุรกิจในการพัฒนารูปแบบนวัตกรรมของสินค้าบริการ พร้อมพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายให้หลากหลาย ผ่านแบรนด์โฮมโปรและเมกาโฮม ซึ่งในปีนี้บริษัทวางแผนเปิดสาขาเพิ่ม 9 สาขา แบ่งเป็นโฮมโปรสโตร์ 3 สาขา ขณะที่จะย้ายสาขาในห้างสรรพสินค้ามาเปิดเป็นโฮมโปรสโตร์ 1สาขา และเปิดโฮมโปรเอส 6 สาขา

 

ทั้งนี้ในปี 2561 บริษัทฯ เปิดสาขาโฮมโปรเพิ่ม 1 แห่ง ที่กัลปพฤกษ์ และ โฮมโปสเอส จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ (1) สาขาพาซิโอ กาญจนภิเษก (2) สาขาบิ๊กซี บางนา (3) สาขามาร์เก็ตเพลส นางลิ้นจี่ (4) สาขาเสนาเฟส เจริญนคร และ (5) สาขาเกตเวย์ แอท บางซื่อ สำหรับเมกา โฮมและโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซียยังไม่มีการเปิดสาขาใหม่ในปี 2561 แต่ได้มุ่งเน้นปรับปรุงประสิทธิภาพ โดย ณ สิ้นปี บริษัทฯ มีสาขาโฮมโปร 82 สาขา และโฮมโปรเอส 8 สาขา เมกา โฮม 12 สาขา และ โฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย 6 สาขา

 

สำหรับปี 62 บริษัทฯ มองว่าภาวะทางเศรษฐกิจจะยังไม่ฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากหนี้สินครัวเรือนมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นและผลปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ ทำให้กำลังการซื้อของผู้บริโภคอาจจะยังชะลอตัว

 




นอกจากนี้ ลาสุดบริษัทฯ จับมือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เพื่อเปิดตัว 3 บัตรใหม่ ได้แก่ 1.บัตรเครดิตกรุงศรี โฮมโปร คอร์ปอเรท การ์ด (Krungsri HomePro Corporate Credit Card), 2.บัตรโฮมโปร เฟิร์สช้อยส์ (HomePro First Choice) และ 3.บัตรเมกาโฮม เฟิร์สช้อยส์ (MegaHome First Choice) และปรับปรุง 1 บัตรเดิมที่มี เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในกลุ่มไลฟ์สไตล์ คือบัตรเครดิต โฮมโปร วีซ่า แพลทินัม (HomePro Visa Platinum Credit Card) ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสมาชิกโฮมโปร วีซ่า แพลทินัม จำนวนกว่า 500,000 ราย

 

โดยตั้งเป้าหมายจะมีสมาชิกบัตรเพิ่มเป็น 700,000 รายภายในปี 2562 จากปัจจุบันมีสมาชิก 500,000 ราย และคาดจะมีมูลค่าการใช้จ่ายกว่า 14,000 ล้านบาทต่อปี โดย ปัจจุบันบริษัทมีสมาชิกโฮมการ์ดประมาณ 3.8 ล้านราย มียอดขายจากสมาชิกสูงถึง 92%ขณะที่ปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขายที่จ่ายผ่านบัตรเครดิตประมาณ 65% ซึ่งเป็นลูกค้าที่ใช้บัตรกรุงศรีกว่า 50,000 ราย

 

อนึ่งในปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวมและกำไรสุทธิเป็นจำนวน 66,049.98 ล้านบาท และ 5,612.62 ล้านบาท ตามลำดับ เพิ่มขึ้น 2.83% และ 14.86% จากปีก่อนหน้า

 

 

 

 


KGI คาดปีนี้รายได้ HMPRO โต 13.7% - SSG จะเพิ่มขึ้นเป็น 3.5%

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า คาดว่ารายได้จะโต 13.7% ในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากคาดว่า SSSG จะเพิ่มขึ้นเป็น +3.5% จาก +1.1% ในปี 2561 และจำนวนห้างใหม่เพิ่มขึ้น YoY เราคาดว่า GPM จะยังคงเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 30bps ในปี 2562 product mix ดีขึ้น ทั้งในส่วนของ merchandise และสินค้า private-label ที่จัดซื้อโดยตรง รวมถึงการทำ product assortment planning ที่ดีขึ้น เราคาดว่ากำไรในปี FY62 จะโตได้ถึง 17.7% มากกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 14.5% และโตเป็นอันดับสองของกลุ่ม
คาดว่ารายได้จะโต 13.7% ในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากคาดว่า SSSG จะสูงขึ้น และจำนวนห้างจะเพิ่มขึ้น

 

โดยเราคาดว่า SSSG ในปี FY62 จะอยู่ที่ +3.5% จากปี FY61 ที่ +1.1% เนื่องจากสภาวะการบริโภคดีขึ้น โดบริษัทคาดว่า YTS SSSG น่าจะฟื้นตัวได้อย่างดี และยืนอยู่ในแดนบวกได้เมื่อเทียบกับใน 4Q61 ที่ 1.1% โดยจะได้แรงหนุนจากจำนวนลูกค้าเข้าห้างเพิ่มขึ้น และปัญหามลพิษของอากาศในกรุงเทพ ในขณะเดียวกัน บริษัทก็ตั้งเป้าจะเปิดสาขา HomePro classic อีกสองสามแห่ง (1 -2 แห่งในกรุงเทพ และอีก 1 แห่งในต่างจังหวัด), HomePro S 3-4 แห่ง (ในกรุงเทพ) และ MegaHome 2 แห่ง หลังจากที่ในปี 2561 เปิด HomePro classic หนึ่งแห่ง และ HomePro S ห้าแห่ง

 

 

GPM ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโต


คาดว่า GPM จะยังคงเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 30bps ในปี 2562 product mix ดีขึ้น ทั้งในส่วนของ merchandise และสินค้า private-label ที่จัดซื้อโดยตรง รวมถึงการทำ product assortment planning ที่ดีขึ้น ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนยอดขายสินค้า private label เป็น 20.6% จาก 19.6% ในปี 2562 สำหรับในระยะต่อไป บริษัทคาดว่าจะเพิ่มสัดส่วนยอดขายสินค้า private label ให้สูงขึ้นในระยะยาว ซึ่งจะช่วยให้ GPM เพิ่มขึ้นด้วย การเติบโตของทั้งยอดขาย และ GPM จะช่วยหนุนผลการดำเนินงานในปี 2562

 

คาดว่ากำไรในปี FY62 จะโตได้ถึง 17.7% จาก SSSG ที่ +3.5%, การเพิ่มจำนวนห้าง และ GPM เพิ่มขึ้นเป็น 27.8% ซึ่งเรามองว่ากำไรของบริษัทจะโตได้มากกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 14.5% และโตเป็นอันดับสองรองจาก C.P. All (CPALL.BK/CPALL TB)* ซึ่งเราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักในปี 2562 จะเติบโตอย่างน่าประทับใจที่ 18.2% YoY ยังคงราคาเป้าหมาย DCF ปี 2562 เอาไว้ที่ 16.30 บาท ซึ่งจากราคาปิดล่าสุดยังเหลือ upside ถึงราคาเป้าหมายของเราอีกแค่ 8.7% โดยคิดเป็น PER ปี 62 ที่ 29.9x และ PEG ที่ 1.8x ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 28.3x และ 1.7x ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำถือ
Risks เศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้, สัดส่วนยอดขายสินค้า private brand ต่ำเกินคาด และเปิดร้านใหม่ได้น้อยกว่าที่คาด

 


แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เชียร์ซื้อ HMPRO 


บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า ปี 2562 ตั้งเป้ายอดขายสาขาเดิมโต 3% ขยับเพิ่มมาร์จิ้นอีก 0.5% หนุนการเติบโตปีนี้ โดยตั้งเป้ายอดขายสาขาเดิมปีนี้เติบโต 3% YoY และรุกขยายสาขาขนาดใหญ่ 2-3 สาขา เป็นสาขาในกรุงเทพ 1-2 สาขา ซึ่งเลือกทำเลที่ยังมีช่องว่างให้เพิ่มยอดขาย ขณะที่สาขาต่างจังหวัดจะทดลองเปิดที่มุกดาหาร ใกล้สะพานมิตรภาพไทยลาว เพื่อรองรับทั้งลูกค้าคนไทยและคนลาว

 

รวมทั้งจะเปิดสาขาขนาดเล็ก Homepro S อีก 3-4 สาขา และปีนี้เริ่มเปิดเพิ่ม Mega Home อีก 2 สาขาใน 4Q62 เพราะได้ปรับปรุงประสิทธิภาพภายในจนเริ่มปีกำไรบ้างแล้วตั้งแต่ปีก่อน แต่มาร์จิ้นยังบางอยู่ ช่วงต้นปี ยังต้องเพิ่มประสิทธิทำกำไร ทั้งเพิ่มสัดส่วนสินค้า Private Brand และหากช่องทางการลดค่าใช้จ่าย รวมถึงปรับเปลี่ยน Product Mix ของ Homepro เพื่อเพิ่มมาร์จิ้นในปีนี้อย่างน้อย 50 bps. ขณะในปีนี้ยังมีการตั้งสำรองเงินชดเชย ฯ ตามพรบ.แรงงานใหม่อีก 70 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มจากฐานปีก่อนเพียง 20 ล้านบาท จึงไม่น่ากังวล โดยรวมจึงคาดกำไรสุทธิในปี 2562 จะเติบโตได้ 16.4%

 

 

ด้วยกลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง จึงคาด HMPRO จะสร้างกำไรให้โต เฉลี่ยปีละ 14-15% อย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งเริ่มเห็นยอดขายสาขาเดิมในเดือนม.ค.-ก.พ. ปีนี้ กลับมาเติบโตแล้ว เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวจากงวด 4Q61 จึงคาดกำไรปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายของบริษัท

 

 

แนะนำ "ซื้อ" จากความสามารถสร้างกำไรให้เติบโตสูงเกิน 14% อย่างสม่ำเสมอ บวกกับราคาเป้าหมายปี 2562 อิงวิธี DCF อยู่ที่ 16.4 บาท มี Upside 9.3% และคาดผลตอบแทนเงินปันผลปี 2562 อีก 2.7% โดยผลตอบแทนเงินปันผลงวด 2H61 อยู่ที่ 1.2% จากการขึ้น XD 19 เม.ย.นี้ ที่หุ้นละ 0.20 บาท

 

 

จำนวนสาขาโฮมโปรในไทยที่มีถึง 82 สาขาทำให้การขยายสาขาค่อนข้างจัดกัด และได้รับความนิยมในเขตรอบกรุงเทพมากกว่าต่างจังหวัด ทำให้แผนการขยายสาขาเพียง 1-3 สาขาต่อปี HMPRO จึงปรับกลยุทธ์มาเปิดสาขาขนาดเล็ก โฮมโปร เอส ในกรุงเทพมากขึ้นปัจจุบันมี 8 สาขา และตั้งเป้าเปิด Homepro S ปีละ 4-5 สาขา ขณะที่ร้านค้าปลีกเมกา โฮม ที่เน้นขายวัสดุก่อสร้างครบวงจรในต่างจังหวัดมีเพียง 12 แห่ง แต่มีคู่แข่งจำนวนมาก จึงยังต้องใช้เวลาปรับปรุงประสิทธิภาพมากกว่าเน้นขยายสาขา และสาขามาเลเซียยังขาดทุนอยู่

 

 

เทพหุ้นเสือเหลือง แนะ Trading Buy HMPRO เป้า 17.20 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า คาดว่า HMPRO จะเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพจากความต้องการซื้อสินค้าปรับปรุงซ่อมแซมบ้านที่ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง คาด SSSG ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ยังมีการเปิดสาขาโฮมโปร และเมกาโฮมกลับมาขยายสาขา ส่วนอัตรากำไรยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงและการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน แนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย (DCF) 17.20 บาท

 

SSSG ใน 2M62 ฟื้นตัวมาที่ประมาณ 3% (จาก -1.2% ใน 4Q61) โดยได้อานิสงส์จากการขายเครื่องฟอกอากาศและสินค้าป้องกันฝุ่น รวมทั้งผลกระทบน้อยลงจากการสร้างรถไฟฟ้าบริเวณสาขาบางแห่ง HMPRO ตั้งเป้า SSSG ปีนี้เพิ่มขึ้นมาที่ 3% จาก -1.1% ในปี 2561 จากการที่กลุ่มลูกค้าหลัก 80% เป็นกลุ่มที่มีบ้านอยู่แล้วซึ่งความต้องการซื้อสินค้าปรับปรุงซ่อมแซมบ้านอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ในปี 2662 จำนวนบ้านในกรุงเทพฯและปริมณฑลคาดจะเพิ่มขึ้น 1.8% เป็น 5.7 ล้านหน่วย และต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น 1% เป็น 20.8 ล้านหน่วย นอกจากนั้น HMPRO จะผลักดันการขายสินค้าแบบ Omni Channel มากขึ้นโดยเชื่อมการขายผ่านหน้าร้านกับการขายออนไลน์

 

คาดว่า HMPRO ยังสามารถเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นและลดสัดส่วนค่าใช้จ่ายลงได้ต่อเนื่อง หลังจากมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานภายในบริษัท และทยอยเพิ่มสัดส่วนสินค้า House brand จาก 18.7% ในปี 2559 มาเป็น 19.6% ในปี 2561 และตั้งเป้าเป็น 20.6% ปีนี้ โดยอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 200 bps จาก 25.5% ในปี 2559 เป็น 27.5% ในปี 2561 ขณะที่สัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขาย ก็ปรับตัวลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2558 ที่ 23.4% เป็น 22.9% ในปี 2561 จากการควบคุมค่าใช้จ่ายและ Economies of scale

 

HMPRO ยังให้ความระมัดระวังในการขยายสาขา โดยในปีนี้จะเปิดสาขาโฮมโปร 1-2 สาขา และ โฮมโปรเอส 3-4 สาขา อีกทั้งจะกลับมาขยายสาขาเมกาโฮม 2 สาขา (หลังจากชะลอเปิดสาขาใน 2 ปีที่ผ่านมา) เนื่องจากมีการปรับ Business model และการบริหารจัดการ รวมทั้งปรับ Product mix ส่วนสาขาในมาเลเซียยังคงไม่เปิดสาขาในปีนี้ เนื่องจากอยู่ระหว่างปรับธุรกิจและการบริหารจัดการ โดยคาดจะมีผลขาดทุนลดลง ความเสี่ยง: Cannibalisation / เศรษฐกิจชะลอตัว / สาขามาเลเซียไม่เป็นไปตามคาด

 

HMPRO

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

SNNP รับรางวัล Supplier ดีเด่นจากแม็คโคร

SNNP รับรางวัล Supplier ดีเด่นจากแม็คโคร

PTG ลงนาม MOU กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคีเครือข่าย ร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูป่าชายเลน

PTG ลงนาม MOU กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคีเครือข่ายร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูป่าชายเลน

เก็งหุ้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อยขี่ไม้กวาดวิเศษ ภาคเช้าที่ผ่านมา หุ้นไทยแกว่งขึ้น ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนการเล่นการเทรดเป็นไปตามแรง...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้