Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : DDD โชว์แผนปี 2019

2,743

HotNews:  DDD  โชว์แผนปี 2019

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 11  มกราคม  2562) DDD ลั่นปี 62 ลุยขยายฐานลูกค้าในประเทศ ลดความเสี่ยงพึ่งพิงนักท่องเที่ยวต่างชาติ- แย้มกลางปี 62 ออกแบรนด์ใหม่ เล็งบุกตลาดเวียดนาม ,อินโดนีเซีย ,ไต้หวัน หลังลุยฟิลิปปินส์ผลตอบรับดี คาดปีนี้ดันส่วนรายได้ตปท. แตะ 25-30% วางงบการตลาด-ส่งเสริมการขายปี 62 ไว้ราว 30% ของรายได้รวม มองแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น กระทบไม่มาก เหตุเงินกู้น้อย

 

นายปิยวัชร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD เปิดเผยกับสำนักข่าวหุ้นอินไซด์ ถึงแผนการขยายธุรกิจในปี 2562 ว่า บริษัทฯ จะเน้นสร้างฐานลูกค้าในประเทศไทยให้แข็งแกร่ง โดยจะมีการกระจายการขายสินค้าไปยังต่างจังหวัดมากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงการพึ่งพิงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนแผนการขยายธุรกิจต่างประเทศบริษัทฯ มีแผนขยายตลาดในประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยสนใจขยายตลาดในประเทศเวียดนาม ,อินโดนีเซีย ,ใต้หวัน หลังจากปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ขยายตลาดในประเทศฟิลิปปินส์ ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งผลตอบรับดีมาก โดยปีนี้ (2562) เบื้องต้นบริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายในฟิลิปปินส์ไว้ประมาณ 100-120 ล้านบาท ประกอบกับบริษัทฯ มีแผนออกแบรนด์ใหม่ นอกจากแบรนด์สเนลไวท์ โดยคาดว่าจะเปิดตัวได้ในช่วงกลางปี 2562

 


"ปีนี้เป็นปีที่เราอยากจะสร้างฐานในประเทศให้มั่นคง จากที่ผ่านมาที่เราทำใน Modern Trade ได้ดีพอสมควร แต่สิ่งที่ยังขาดไปคือร้านค้าแบบดั้งเดิม ร้านค้าโชว์ห่วย ร้านค้าตามต่างจังหวัดการกระจายยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ปีนี้จึงเป็นปีที่เราตั้งใจทำตรงนี้ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ที่เราทำอย่างนี้เพราะที่ผ่านมาเรามีการพึ่งพึงนักท่องเที่ยวต่างชาติพอสมควร ถ้าเกิดเราสามารถสร้างฐานผู้บริโภคในประเทศไทยได้มากขึ้น ผมเชื่อว่าสุดท้ายเราจะความเสี่ยงเรื่องการพึ่งพึงนักท่องเที่ยวได้พอสมควร" นายปิยวัชร กล่าว

 

ทั้งนี้สัดส่วนรายได้ ต่างประเทศ ณ สิ้นไตรมาส 3/2561 อยู่ที่ประมาณ 20% ทั้งปีคาดว่าจะใกล้เคียงกันหรือต่ำกว่านี้นิดหน่อย ขณะที่ปีนี้จะเป็นปีที่บริษัทฯได้รับประโยชน์จากฟิลิปปินส์เต็มปีจึงคาดว่าส่วนรายได้จากต่างประเทศน่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 25-30%

 

 

นายปิยวัชร กล่าวเพิ่มเติมถึงแผนการรุกตลาดต่างประเทศว่า ช่วงเดือนกันยายน ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เข้าไปเปิดตลาดในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งผลตอบรับถือว่าดีมากๆ ทุกๆ เดือนทำได้ตามเป้า หรือว่าเกินเป้าด้วยในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ปีนี้เป้าหมายแรกคือทำให้ฟิลิปปินส์สามารถยั่งยืนอยู่ต่อไปได้ โดยอยากให้ยอดขายใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ขั้นต่ำมองไว้ที่ฟิลิปปินส์ประมาณ 100-120 ล้านบาท แต่ถ้าหากสามาถทำได้ดีขึ้นก็อาจจะมี Upside จาก 120 ล้านบาท

 

 

นอกจากฟิลิปปินส์ ยังมองหาตลาดใหม่ในอาเซียน โดยสนใจประเทศเวียดนาม , อินโดนีเซีย , ไต้หวัน ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่มีการเติบโตสูง ส่วนรูปแบบการลงทุนบริษัทฯ มองไว้ 2 รูปแบบทั้งการร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์ โดยถ้ายังหาพาร์ทเนอร์ไม่ได้ก็จะเป็นการส่งขายเป็น Distribution ไปก่อน แต่ถ้าเจอพาร์ทเนอร์ที่ดีอย่างที่ฟิลิปปินส์ บริษัทฯ ก็มีแผนจะเข้าไปร่วมทุนกัน(JV)

 


"ช่วงครึ่งปีแรกเราทำได้ดีพอสมควร แต่ว่าครึ่งปีหลังเราได้รับผลกระทบค่อนข้างเยอะ อันดับแรกคือเรื่องนักท่องเที่ยว โดยตั้งแต่ไตรมาส 3 - ไตรมาส 4 จำนวนนักท่องเที่ยวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ค่อนข้างเยอะ ซึ่งทำให้หลายๆ ธุรกิจได้รับผลกระทบมากๆ เลยของเรายอดขายส่วนหนึ่งก็หายไป อีกส่วนหนึ่งคือกรณีคือกรณีเมจิกสกิน ทำให้ไตรมาส 3 - ไตรมาส 4 เรามี Negative Impact จากเรื่องต่างๆ เหล่านี้ โดยยอมรับว่าปี 2561 เป็นปีที่เราสะดุด เป็นปีแรกที่เราทำธุรกิจมา พอเราสะดุดไม่ใช่แค่วาเราเสียใจอย่างเดียว แต่เราก็ต้องเรียนรู้ด้วย อย่างที่ผมเรียนไปว่าในประเทศเราไม่ได้รู้สึกว่าเราแข็งแกร่ง

 

ปีนี้เป็นปีที่เราได้รับบทเรียนจากปีที่แล้ว จึงอยากสร้างฐานให้แข็งแกร่งมากขึ้น การกระจายไปต่างจังหวัดต้องทำให้ดีขึ้น อีกอย่างเราเข้าใจในข้อจำกัดของแบรนด์สเนลไวท์ ที่มีอยู่แค่แบรนด์เดียว ซึ่งแบรนด์สเนลไวท์ เป็น Premium mass เราคาจะค่อนข้างสูงกว่า Mass ทั่วไป โดยถ้าเราอยากจะเจาะตลาดในประเทศได้ เราต้องมีแบรนด์ที่เป็น Fighting แบรนด์ เป็นแบรด์ที่เจาะตลาด Mass มากยิ่งขึ้น ปีนี้จะเป็นปีที่เราได้เห็นกันว่าเราจะมีแบรนด์ใหม่ออกมา น่าจะเห็นในช่วงกลางปีนี้ครับ" นายปิยวัชร กล่าว

 


ด้านงบลงทุนปี 2562 บริษัทฯ คาดว่าจะใช้งบลงทุนด้านการตลาดและส่งเสริมการขาย ไว้ประมาณ 30% ของรายได้รวม โดยจะเน้นกระตุ้นการซื้อมากขึ้น ด้วยการออกโปรโมชั่นต่างๆ สร้างจุดขายต่างๆ การจัดวาง จะทำให้มากขึ้น ขณะเดียวกันการก็จะทำให้ผู้บริโภทมีการจำจำสินค้าของบริษัทฯ มากยิ่งขึ้น

 


"ปีนี้เป็นปีที่เราจะใช้งบลงทุนด้านการตลาดให้คุ้มค่ามากที่สุด ที่ผ่านมาจะเห็นว่าเราใช้งบโฆษณาค่อนข้างเยอะ เพราะเรามาจากแบรนด์ที่คนไม่รู้จักมาก่อนสร้างจนให้คนรู้จักทั้งประเทศแล้วในปัจจุบัน ซึ่งพอคนรู้จักแล้วทำยังไงให้คนซื้อ สิ่งที่มันจะต่างออกไปคือเมื่อก่อนเราลงทุนค่าสื่อโฆษณาค่อนข้างเยอะ แต่ตอนนี้จะเปลี่ยนไป สื่อโฆษณายังมีอยู่แต่จะเป็นในลักษณะการ Remind ให้คนยังจำได้ ยังคิดถึงเราอยู่ และจะมากระตุ้นการซื้อมากขึ้น โดยการออกโปรโมชั่นต่างๆ จุดขายต่างๆ การจัดวาง จะทำให้มากขึ้น ค่าใช้จ่ายลงทุนก็จะมาอยู่ที่ส่วนนี้ยิ่งขึ้น โดยเรามองไว้สัก30% รวมงบการตลาดและส่งเสริมการขายครับ" นายปิยวัชร กล่าว

 


ด้านแนวโน้มดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้น บริษัทฯ มองว่าไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจาก ขณะนี้บริษัทฯ การกู้น้อยมาก โดยเงินกู้ระยะยาวของบริษัทฯ ปัจจุบันมีอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งไม่มากนัก และมีแผนที่จะทำเรื่องคืนในอนาคตด้วย ทำให้มองว่าไม่น่าจะได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าว แต่ในทางกลับกันบริษัทฯ มีการนำเงินไปลงทุน เช่นการลงทุนเงินฝากประจำ ส่งผลให้บริษัทฯ น่าจะได้ดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้นมาด้วย ส่วนเงินบาทที่อาจจะแข็งค่าขึ้นตามทิศทางดอกเบี้ย ส่งผลทั้งในแง่ดีและแง่ลบต่อบริษัทฯ โดยข้อดีคือบริษัทฯ มีการนำเข้าสินค้าเช่น Packaging จากเกาหลีในรูปสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งหากเงินบาทแข็งค่าจะส่งผลให้บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายที่ลดน้อยลง อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีการขายสินค้าไปต่างประเทศเป็นเงินดอลลาร์ ก็จะเป็นผลไม่ดี บริษัทฯ จึงมีการทำการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน มีการทำเฮดจิ้ง

 


"เป้าหมายที่เราเคยวางไว้เราไม่ได้ละทิ้ง เราพยายามจะปรับตัวให้ไปถึงเป้าหมายนั้นให้ได้ ทั้งการเป็น1 ใน3 ของเอเชีย แต่ในระยะใกล้เราอยากเป็น 1 ใน 3 ของประเทศให้ได้ก่อน เชื่อว่าภายใน 5 ปีเราน่าจะทำได้ " นายปิยวัชร กล่าว

 

 


2 เทพหุ้น คาด Q4/61
กำไร DDD ฟื้น


ด้านบริษัทหลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า คงประมาณกำไรสุทธิปี 2018 ที่ 226 ล้านบาท (-35.5%YoY) สำหรับปี 2019 ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ขยายตัว 20% YoY โดยเน้นการทำตลาด Traditional trade และตลาดต่างประเทศจะโฟกัสที่ประเทศฟิลิปปินส์มากขึ้น ทั้งนี้ เราคาดกำไรสุทธิปี 2019 เติบโตก้าวกระโดด 56.6%YoY อยู่ที่ 354 ล้านบาท ส่งผลจาก 1)รายได้ที่ขยายตัวทั้งในและต่างประเทศ เราคาดว่ารายได้จาก Traditional trade จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหลัง DDD ปรับกลยุทธ์ใหม่ และรายได้จากต่างประเทศคาดขยายตัวต่อเนื่อง คาดสัดส่วนรายได้จากฟิลิปปินส์จะเริ่มขยายตัวมากขึ้น โดยทาง DDD ตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 100 ล้านบาท เรามองว่าฟิลิปปินส์เป็นตลาดรองจากจีน ทั้งนี้ผู้บริหารเผยมีแผนขยายตลาดเพิ่มอีก 1 ประเทศในกลุ่ม Southeast Asia 2) คาดจำนวนนักท่องเที่ยวจีนขยายตัว 7%YoY หนุนรายได้จาก King Power โดยสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนอยู่ที่ 15% ของรายได้ในประเทศ

 

คงคำแนะนำ "ถือ" ที่ราคาเป้าหมายไปปี 2019 ที่ 36.00 บาท อิง DCF (WACC 10.9%, TG 2.0%) เรามองว่าราคาที่ปรับตัวลง 26% ใน 1 เดือนที่ผ่านมาได้สะท้อนผลกระทบจากผลการดำเนินงานที่ชะลอตัวใน 3Q18 ไปมากแล้ว คาดเห็นการฟื้นตัวของกำไรใน 4Q18 ดังนั้น เรายังคงคำแนะนำเพียง "ถือ" จนกว่าเราจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน ปัจจุบัน DDD เทรดอยู่ที่ PER 28.5x ถือว่ายังคงไม่น่าสนใจในระยะสั้น สำหรับระยะยาวเรามองว่ายังคงเป็นบริษัทฯที่เติบโตดีต่อเนื่อง

 

ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า แนะนำ "ถือ"  DDD ราคาเป้าหมาย 30 บาท/หุ้น รายงานการขาดทุนสุทธิไตรมาส 3/2561 ที่ 7 แสนบาท พลิกจากกำไรสุทธิ 44 ลบ. ในไตรมาส 3/2560 และ 63 ลบ. ในไตรมาส 2/2561 ซึ่งถือว่าต่ำกว่าที่เราคาดว่าจะมีกำไรเป็นศูนย์ในไตรมาส 3/2561 และต่ำกว่าที่ Bloomberg consensus คาดว่าจะมีกำไรที่ 5 ลบ. ทั้งนี้ รายได้ไตรมาส 3/2561 ออกมาต่ำกว่าที่เราคาดอย่างมาก แต่ได้รับการชดเชยจากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) และค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ที่ดีกว่าคาด

 

ขณะที่กำไรสะสม 9 เดือนแรกอยู่ที่ 174.3 ลบ. ลดลง 31.2% YoY และคิดเป็น 76.7% ต่อประมาณการทั้งปีของเรา ดังนั้น เราจึงยังคงประมาณการกำไรปี 2561 ที่ 227 ลบ. หรือลดลง 35.3% YoY และยังคงคำแนะนำ "ถือ" ด้วยราคาเป้าหมายที่ 30.00 บาท อิงวิธีคำนวณแบบคิดลดเงินสด (DCF) นอกจากนี้ แม้เราจะคาดว่ากำไรไตรมาส 4/2561 จะปรับดีขึ้น แต่ก็มีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่องทางการจัดจำหน่ายในต่างประเทศ ซึ่งถือว่าปัจจัยฉุดภาพรวมระยะกลางของบริษัทฯ

DDD

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

FTI จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 ผถห.อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 ผถห.อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

ได้เวลาซื้อหุ้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็นหุ้นตก หุ้นร่วง ณ จุด นี้ ด้วยข่าวอิสราเอลได้เปิดปฏิบัติการโจมตีอิหร่าน.. ขอมองต่าง

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้