Today’s NEWS FEED

News Feed

Hotnews : ECF ลุ้น รายได้ปีนี้โต 10-15% / SONIC ลั่น ปี 62 โตก้าวกระโดด

2,639

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (30 ตุลาคม 2561)

ECF ลุ้น รายได้ปีนี้โต 10-15%

ECF ลุ้น รายได้ปีนี้ โตตามเป้า 10-15% - คาดรายได้ครึ่งปีหลัง โตกว่า ครึ่งปีแรก เหตุ ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์เข้าสู่ไฮซีซั่น ตั้งเป้าภายใน 3 ปี รายได้ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์แตะ 3 พันลบ. หลังหาพันธมิตร รุกขยายตลาดตปท.เพิ่ม

 

 

นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) หรือ ECF เปิดเผยกับสำนักข่าวหุ้นอินไซด์ว่า บริษัทฯคาดว่ารายได้ปีนี้มีแนวโน้มเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 10-15% จากปีก่อน ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 1.49 พันล้านบาท โดยงวด 6 เดือนแรกปีนี้บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 705.07 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาสที่3-4/2561 เป็นช่วงที่เข้าสู่ไฮซีซั่นของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ ประกอบกับบริษัทฯได้รับคำสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศที่มากกว่าช่วงครึ่งปีแรก

 

"ปีนี้เราพยายามที่จะทำให้ถึงเป้า 10-15% ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักที่เราตั้งใจไว้ แต่เนื่องจากว่าปีนี้ปัญหาการค้าระหว่างประเทศค่อนข้างเยอะและมีอุปสรรคเยอะพอสมควร เพราะฉนั้นตัวเลขก็อาจจะไม่ได้เท่านั้นแต่ว่าจะพยายามให้สูงกว่าปีที่แล้ว ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งจะไม่ห่างจากเป้าตัวเลขที่เราวางไว้มาก อย่างที่บอกตอนนี้ยังไม่ถึงสิ้นปี เหลือเวลาอีกประมาณ 2 เดือนกว่า เพราะฉะนั้นก็ต้องดูไตรมาส4 เพราะเนื่องจากไตรมาส4 เป็นช่วงพีคของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์อยู่แล้ว อีกอย่างในครึ่งปีหลังเราได้รับออร์เดอร์จากลูกค้าต่างประเทศมากกว่า 2 ไตรมาสที่ผ่านมา ดังนั้นรายได้จะเติบโตเท่าไหร่นั้น คงยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากต้องรอให้ปิดงบการเงินเรียบร้อยก่อน" นายอารักษ์ กล่าว

 

ทั้งนี้ บริษัทฯได้วางเป้าหมายที่จะมียอดขายจากธุรกิจเฟอร์นิเจอร์แตะระดับ 3,000 ล้านบาทภายในระยะเวลา 3 ปี จากการที่บริษัทฯหาลูกค้าและพาร์ทเนอร์รายใหม่ๆในต่างประเทศเพิ่ม โดยปัจจุบันบริษัทฯกำลังอยู่ระหว่างหาพาร์ทเนอร์ใหม่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และขณะนี้บริษัฯได้เข้าไปทำการตลาดในห้างสรรพสินค้าชั้นนำของฟิลิปินส์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

"ตอนนี้ตลาดหลักของเราคือญี่ปุ่น ไม่โตแล้ว ซึ่งโตตอนนี้เต็มที่แค่ 2-3% เพราะบริษัทฯได้ทำการโคฟเวอร์ตลาดญี่ปุ่นไปหมดแล้ว ต่อให้จะมีการจัดโอลิมปิคหรือมีการรีโนเวทใหม่ก็ตาม เราก็เลยต้องหาพาร์ทเนอร์ หาลูกค้ารายใหม่ๆ โดยเฉพาะในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอนนี้เราก็มองๆฟิลิปปินส์อยู่ และได้มีการเข้าไปทำการตลาดให้ห้างของฟิลิปปินส์แล้ว " นายอารักษ์ กล่าว

 

สำหรับการลงทุนในธุรกิจ ไม้แผ่นเรียบ (MDF) ที่ จ.นราธิวาส ภายใต้ชื่อบริษัท แพลนเนทบอร์ด จำกัด นั้น บริษัทฯคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่งในการพิจารณาข้อมูลสำหรับการลงทุนเครื่องจักรและความละเอียดอ่อนในด้านต่างๆ เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ใช้การลงทุนที่สูง แต่คาดว่าธุรกิจดังกล่าวมีความชัดเจนช่วงปลายปี 2561 - ต้นปี 2562

 

ส่วนธุรกิจ IT ที่บริษัทฯ ได้ลงนามร่วมกับ บริษัท เอสเทรค (ประเทศไทย) จำกัด (“S-Trek”) ในบันทึกข้อตกลงเพื่อเข้าศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจของ S-Trek ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจงในด้าน IT Solution ในการเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไอทีให้กับบริษัทชั้นนำระดับโลกนั้น ปัจจุบันบริษัทฯอยูระหว่างการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินอยู่ โดยบริษัทฯจะพยายามให้ได้ข้อสรุปภายในปี 2561

 

ขณะที่สัดส่วนรายได้ปัจจุบันมาจากธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ 90% และธุรกิจอื่นๆ 10% และในปี2562 บริษัทฯคาดว่าจะมีการปรับสัดส่วนรายได้ใหม่ตามโครงสร้างของบริษัทฯที่จะเปลี่ยนแปลงใหม่ ซึ่งธุรกิจอื่นๆที่จะเข้ามาก็จะช่วยหนุนให้บริษัทฯ มีศักยภาพการเติบโตที่ดีในปีหน้า

 

"ในปีหน้าเราจะมีการปรับสัดส่วนรายได้ใหม่ตามโครงสร้างของบริษัทฯที่จะเปลี่ยนแปลงใหม่ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเติบโตเท่าไหร่ แต่คาดว่าบริษัทฯจะมีรายได้อื่นๆเข้ามาเสริมนอกเหนือจากธุรกิจเฟอร์เจอร์เพื่อให้บริษัทฯมีรายไเติบโตมากกว่าปีนี้อย่างแน่นอน ซึ่งเราเองก็ดำเนินงานทุกอย่างตามแผนที่วางไว้ ตามสเต็ปไปเรื่อยๆ" นายอารักษ์ กล่าว

--------------------------------------------------------

SONIC ลั่น ปี 62 โตก้าวกระโดด

 

ด้านบริษัทน้องใหม่ที่เพิ่งจะเข้ามาเทรดในตลาด mai อย่าง SONIC ลั่น ปี 62 โตก้าวกระโดด หลังได้เงิน IPO ขยายธุรกิจโตทุกส่วน มั่นใจรายได้ปีนี้ แตะ 1 พันลบ. ตามการเติบโตของธุรกิจ - ยันสงครามการค้า-บาทผันผวนไม่กระทบ

 

 

ดร.สันติสุข โฆษิอาภานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONIC เปิดเผยกับสำนักข่าวหุ้นอินไซด์ว่า บริษัทฯ วางเป้ารายได้ปี 2562 มีแนวโน้มเติบโตไม่ต่ำกว่า 20 % จากปีนี้ เนื่องจากบริษัทฯได้มีการขยายธุรกิจให้มีการเติบโตโตขึ้นในทุกส่วน โดยธุรกิจการขนส่งทางทะเลยังมีทิศทางที่เติบโตต่อเนื่อง ขณะเดียวการขนส่งทางอากาศ บริษัทจะมีการขยายฐานลูกค้าเพิ่ม

 

นอกจากนี้การขนส่งทางบก จะมีการซื้อรถหัวลาก และหางลากเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีรถหัวลากประมาณ 70 คัน และหางลากประมาณ 160 คัน ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถที่จะรองรับความต้องการของลูกค้าได้เพิ่มขึ้น โดยจะใช้เงินจากการระดมทุน IPO มาขยายธุรกิจในทุกๆด้าน

 

"หลังจากที่เข้าตลาดมาแล้ว เรามั่นใจว่าในปีหน้าเราจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะเฉลี่ย 3 ปีที่ผ่านมาเราจะเติบโตปีละ 5% เท่านั้น โดยปีหน้าเราตั้งเป้าไว้ที่โตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีนี้ จากการเติบโตของธุรกิจในทุกๆส่วนที่เราได้มีการขยายเพิ่ม หลังจากเราได้เงิน IPO " ดร.สันติสุข กล่าว

 

ดร.สันติสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า เงินที่ได้จากการระดมทุน IPO หลังจากที่เข้าตลาดฯแล้ว จำนวน 292.5 ล้านบาท บริษัทฯจะนำไปใช้ซื้อที่ดินและอาคารสาขา จำนวน 60 ล้านบาท รวมถึงใช้ในการซื้อรถขนส่ง เพื่อรองรับการขนส่งทางบกที่จะขยายโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) จำนวน 60ล้านบาท และใช้พัฒนาศูนย์รวบรวม และกระจายสินค้า จำนวน 60 ล้านบาท ขณะเดียวกันจะใช้พัฒนาระบบเทคโนโลยี จำนวน 20 ล้านบาท และส่วนที่เหลืออีก 92.5 ล้านบาท จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท เพื่อใช้เป็นฐานทุนในการดำเนินธุรกิจ วึ่งทั้งหมดนี้จะใช้ภายในปี 2562

 

ขณะที่ผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทมั่นใจว่ารายได้มีแนวโน้มเติบโตเกิน 1,000 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 5-10% จากปี 2560 ซึ่งบริษัทมีรายได้อยู่ที่ 964.30 ล้านบาท เนื่องจากการดำเนินธุรกิจของบริษัททั้ง 3 ธุรกิจ ได้แก่ การให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเล การขนส่งสินค้าทางบก และการขนส่งทางอากาศ มีการเติบโตต่อเนื่องทั้ง 3 ธุรกิจ โดยสัดส่วนรายได้ในปัจจุบันของบริษัทมาจากการขนส่งสินค้าทางทะเล 65% การขนส่งสินค้าทางบก 25% และการขนส่งสินค้าทางอากาศและอื่นๆ 10% ซึ่งในครึ่งปีแรกบริษัทสามารถทำรายได้แล้วกว่า 549.22 ล้านบาท และในปีหน้าบริษัทฯคาดว่ารายได้จากทุกส่วนจะเติบโตขึ้นอีก

 

ดร.สันติสุข กล่าวว่า การขยายธุรกิจอื่นๆ ขณะนี้บริษัทฯได้อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรที่ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องอยู่หลายราย โดยเฉพาะในรูปแบบการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ซึ่งบริษัทมองว่าเป็นปกติของการทำธุรกิจโลจิสติกส์ที่จะสามารถขยายธุรกิจให้มีการเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

 

ด้านภาวะการแข่งขัน บริษัทฯมองว่า ธุรกิจโลจิสติกส์มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ ดังนั้นการขยายธุรกิจให้เติบโตได้อย่างรวดเร็วก็จะยิ่งทำให้บริษัทฯมีข้อได้เปรียบในการแข่งขัน ส่วนสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ที่กำลังยืดเยื้อ แลัอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความผันผวน ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัท

 

อย่างไรก็ตามสำหรับราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นต้นทุนหลักของบริษัท ไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรของบริษัทแต่อย่างใด เนื่องจาก บริษัทฯไม่ได้มีการเซ็นสัญญากับลูกค้าในระยะยาว อีกทั้งราคาการให้บริการก็จะปรับขึ้นตามต้นทุน และในแผนการดำเนินงาน บริษัทฯจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 20% ซึ่งเป็นปกติของธุรกิจ

 

SONIC        ECF

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

รายงานพิเศษ : ได้เวลา "SPREME" ผู้นำธุรกิจ System Integrator ครบวงจร ลุยระดมทุน ติดปีกธุรกิจ High Growth

ได้เวลา "SPREME" ผู้นำธุรกิจ System Integrator ครบวงจร ลุยระดมทุน ติดปีกธุรกิจ High Growth

NER ผู้ถือหุ้นเคาะปันผล 0.34 บาท/หุ้น ออกวอร์แรนท์ NER-W2 แจกในอัตรา 6 :1

NER ผู้ถือหุ้นเคาะปันผล 0.34 บาท/หุ้น ออกวอร์แรนท์ NER-W2 แจกในอัตรา 6 :1

ดัชนีฯแกว่งตัว By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม วันนี้ ตลาดหุ้นไทย ดัชนีตลาด ยังคงแกว่งตัวไปมา ซ้าย ขวา บนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อตลาดหุ้น....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้