สำนักข่าวหุ้นอินไซด์  (5 กรกฏาคม 2561)  SIRI เผยโกยยอดขายครึ่งปีแรก 2.4 หมื่นลบ. โต 62% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เป้าทั้งปี 4.5 หมื่นลบ. ทำนิวไฮในรอบ 34 ปี ครึ่งปีหลังลุยเปิด อีก 15 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 3.63 หมื่นลบ. ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 3 หมื่นลบ. หลังตุน Backlog 5.4 หมื่นลบ. คาดทยอยรับรู้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ 1.1 หมื่นลบ.

นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 สามารถทำยอดขายได้แล้วถึง 24,000 ล้านบบาท เติบโตขึ้นถึง 62% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็น 53% จากเป้าหมายยอดขายที่ตั้งไว้ 45,000 ล้านบาท ความสำเร็จมาจากการที่ลูกค้าให้การตอบรับที่ดีในทุกโครงการ ทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่ได้รับการตอบรับที่ดีทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงในกลุ่มลูกค้าทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

อีกทั้งในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทยังประสบความสำเร็จ ในการสร้างยอดขายจากตลาดต่างชาติ โดยสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 6,000 ล้านบาท คิดเป็นเกือบ 50% จากเป้าหมายยอดขายตลาดต่างชาติที่ตั้งไว้ในปีนี้ 13,000 ล้านบาท ทั้งนี้ปัจจุบันแสนสิรินับเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไทยที่ครองส่วนแบ่งการตลาดลูกค้าต่างชาติที่สูงที่สุด จากการเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไทยบริษัทเดียวที่เปิดการขายโครงการในต่างประเทศพร้อมกันในหลายประเทศ (Global Launch) และจัดกิจกรรมหลังการขายกับลูกค้าต่างชาติอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาได้เปิดสำนักงานใน 4 เมืองใหญ่ของจีน ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางเจาว เฉิ่นเจิ้น และในปีนี้ยังมีแผนเปิดตลาดใหม่ที่ เกาหลี ญี่ปุ่นและไต้หวัน

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ อาจจะพิจารณาปรับเพิ่มเป้ายอดขายในช่วงกลางไตรมาส 3/2561 เนื่องจากช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯเตรียมที่จะรุกพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด อาทิ เชียงใหม่ หัวหิน และศรีราชา ชลบุรีทั้งนี้ช่วงครึ่งปีหลังนี้ มีแผนการเปิดตัวโครงการใหม่อีก 15 โครงการ มูลค่ารวม 36,900 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 6 โครงการ บ้านเดี่ยว 4 โครงการ และทาวน์เฮาส์ 6 โครงการ โดยในเดือนสิงหาคมนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัว “XT” แบรนด์คอนโดมิเนียมล่าสุดจากแสนสิริ #SansiriXT ที่จะฉีกกฎการพัฒนาคอนโดมิเนียมรูปแบบเดิม โดยวางแผนเปิดตัวไว้ในปีนี้ 3 โครงการ บน 3 ทำเลศักยภาพ คือ เอกมัย พญาไท และห้วยขวาง ในมูลค่ารวมโครงการที่สูงที่สุดที่ไม่เคยมีมาก่อน

"ผลการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรกของบริษัทที่มียอดขายเติบโตขึ้นถึง 62% เทียบกับปีที่ผ่านมา คิดเป็นเกินกว่า 53% จากเป้าหมายยอดขายรวมที่วางไว้ ผนึกกับความแข็งแกร่งของแผนธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2561 นี้ บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าที่วางไว้ในปีนี้ 45,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน ซึ่งจะนับเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ยอดขายใหม่ที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 34 ปีของแสนสิรินับตั้งแต่มีการก่อตั้งบริษัทและเป็นปีที่ดีที่สุดของแสนสิริ “#SansiriBestYearEver " นายวันจักร์ กล่าว

ส่วนเป้าหมายรายได้ปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าไว้ที่ 3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากขายโครงการ 23,000 ล้านบาท และรายได้จากการโครงการร่วมทุน 7,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog ) 54,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการของ SIRI มูลค่า 26,000 ล้านบาท และโครงการร่วมทุน (JV) 26,000 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ 11,000 ล้านบาท อีกทั้งในขณะนี้บริษัทมีสต๊อกที่พร้อมขาย 7,000-8,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมีเนียม 1,000-2,000 ล้านบาท ในทำเล ขอนแก่น ภูเก็ต และอุดรธานี ส่วนที่ทั้งหมดเป็นโครงการในแนวราบ

พร้อมกันนี้ บริษัทฯพยายามรักษาอัตรากำไรสุทธิไว้ที่ 8-10% ซึ่งสูงกว่าปีก่อนที่ 8.8% ทั้งนี้กำไรอาจไม่เติบโตมากนัก เนื่องจากบริษัทฯมีค่าใช้จ่ายจากการขาย และการขยายโครงการต่างๆในต่างประเทศ ทำให้มีต้นทันที่สูงขึ้น และบริษัทฯคาดว่าจะมีกำไรจากบริษัทฯร่วมทุน(JV) ประมาณ 700-800 ล้านบาท นายวันจักร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ปรับเพิ่มงบซื้อที่ดินเป็น 18,000 ล้านบาท จากเดิมตั้งไว้ที่ 14,000 ล้านบาท

เนื่องจากได้ใช้งบซื้อที่ดินไปทั้งหมดในการเปิดตัวโครงการทาวเฮ้าส์ โดยบริษัทฯจะซื้อที่ดินรองรับการเปิดโครงการทาวเฮ้าส์สิริเพลส ทำเลกรุงเทพรอบนอก สำหรับยอดปฏิเสธสินเชื่อในปีนี้คาดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8% จากปีก่อน 5.6% แต่ทั้งนี้บริษัทฯมองว่าไม่มีเรื่องใดที่น่ากังวลเนื่องจากเป็นการเปลี่ยนเซกเม้นต์ของสินค้ามากขึ้น หลัง 2561 มีการขายอสังหาริมทรัพย์ระดับล่างไปขณะที่ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ บริษัทฯมีหุ้นกู้ที่จะหมดอายุ 2,000 ล้านบาท และมีแผนที่จะออกหุ้นกู้เพิ่มมากกว่าจำนวนเดิม ทั้งนี้ต้นทุนทางการเงินบริษัทอยู่ที่ 3.65-3.7% และ D/E อยู่ที่ 1.05 เท่า

นอกจากนี้บริษัทฯ ตั้งงบลงทุน 200 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตโรงงานพรีแคส ซึ่งมีกำลังการผลิต 100% เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตโรงงาน โดยขณะนี้บริษัทอยู่ในขั้นตอนเริ่มสั่งอุปกรณ์เพิ่ม ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯมีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 800,000 ตารางเมตร/ปี จากเดิมที่ผลิต 500,000 ตารางเมตร/ปี โดยคาดแล้วเสร็จและเริ่มผลิตได้ในไตรมาส 4/2561 และในปี 2562

  SIRI