Today’s NEWS FEED

News Feed

(จบ)HotNews: เปิดโมเดลใหม่ SIRI -PACE เบาตัว หลังเพิ่มทุน-ขาย 2โครงการ

948

 


(จบ)HotNews: เปิดโมเดลใหม่ SIRI  
            -PACE เบาตัว หลังเพิ่มทุน-ขาย 2โครงการ 


***ดีน แอนด์ เดลูก้า ***
  นายสรพจน์เปิดเผยว่า ปัจจุบันนอกจากการดำเนินธุรกิจหลักทั้งในประเทศอเมริกา ประเทศไทย และการเป็นเจ้าของสิทธิในแบรนด์ ดีน แอนด์ เดลูก้า ทั่วโลกแล้ว บริษัทฯ จะมุ่งเน้นไปที่หน่วยธุรกิจใหม่ที่ใช้เงินลงทุนน้อย อาทิ การขยายสาขารูปแบบคาเฟ่ขนาดเล็กภายใต้แบรนด์ DEAN & DELUCA xp และการพัฒนาไลน์ผลิตภัณฑ์    คอนซูเมอร์ แบรนด์ ที่เป็นแผนการผลิตสินค้าซึ่งจะใช้ช่องทางจัดจำหน่ายทั่วไปทั้งในและนอกร้านดีน แอนด์ เดลูก้า โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะใช้กลยุทธ์ในการทำงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อผนึกกำลังในการต่อยอดธุรกิจใหม่สองไลน์นี้ โดยเพซมั่นใจว่าจะสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากแบรนด์ ดีน แอนด์ เดลูก้า เป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งขณะนี้ทางบริษัทฯ ได้รับความสนใจจากพันธมิตรทางธุรกิจหลากหลายประเทศที่พร้อมเข้าร่วมขยายธุรกิจใหม่ทั้ง 2 ไลน์ภายใต้เครื่องหมายการค้า ดีน แอนด์ เดลูก้า
  นอกจากนี้ ดีน แอนด์ เดลูก้า สหรัฐอเมริกา ยังได้แต่งตั้ง นางลอร่า เลนดรัม ขึ้นดำรงตำแหน่ง ประธานบริหาร สายงานตลาดและการค้าทั่วโลก เพื่อพัฒนาโมเดลธุรกิจและแบรนด์ให้เป็นไปตามทิศทางการเติบโตของบริษัท โดยเฉพาะในสายงานรีเทล ซึ่งได้นำกลยุทธ์ด้านดิจิตอลมาประยุกต์ใช้เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
  “ที่ผ่านมา เราได้ลงทุนไปกับการศึกษาตลาด และการคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการออกแบบพัฒนารูปแบบร้านและการบริหารจัดการ เพื่อมอบประสบการณ์ให้กับลูกค้าที่ดียิ่งขึ้น ปัจจุบัน ดีน แอนด์ เดลูก้าได้ผ่านพ้นช่วงเวลาของการตั้งต้นและลงทุนไปแล้ว หลังจากการปรับสถานะทางการเงินครั้งใหญ่นี้เสร็จสมบูรณ์ ก็จะเข้าสู่ช่วงเวลาของการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจ”
***มหานคร อ็อบเซอเวชั่นเด็ค***
สำหรับจุดชมวิว มหานคร อ็อบเซอร์เวชั่น เด็ค นับเป็นอีกหนึ่งธุรกิจสำคัญของเพซ โดยมีจุดเด่นคือการออกแบบที่ทันสมัยเทียบเท่าจุดชมวิวระดับโลก มีพื้นกระจกยื่นออกจากตัวอาคาร มีรูฟท็อปบาร์ มีลิฟต์ความเร็วสูง รองรับนักท่องเที่ยวได้มากที่สุดถึงวันละ 10,000 คน และตั้งอยู่บนอาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทยในปัจจุบัน บนทำเลทองใจกลางกรุงเทพฯ จุดชมวิวมหานคร อ็อบเซอเวชั่นเด็คจะคิดค่าบริการเพื่อเข้าชมครั้งละประมาณ 500 -1,000 บาท และพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 จากข้อมูลของ Conde Nast Travelers คาดว่าภายในปี 2560 กรุงเทพฯ จะเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนถึง 20.19 ล้านคน และเพซมั่นใจว่าจุดชมวิวบนอาคารมหานครจะเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติทุกระดับ 
“ธุรกิจจุดชมวิว เป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนแรกเริ่มสูงแต่เมื่อเริ่มเปิดดำเนินการแล้ว จะมีค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อเนื่องค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับรายได้ที่จะได้รับในระยะยาว เช่นเดียวกับ ธุรกิจรถไฟฟ้า หรือ โรงไฟฟ้า โดยคาดว่าจะสามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นที่มากกว่าร้อยละ 70 ซึ่งถือว่าได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการทำโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป และยังเป็นทรัพย์สินที่ก่อให้เกิดรายได้ต่อเนื่องอีกหลายสิบปี โดยที่ปราศจากความเสี่ยงในการหาที่ดินทำเลใหม่เพื่อพัฒนาโครงการเพิ่มทุกปี ทั้งนี้ จุดชมวิว มหานคร อ็อบเซอเวชั่น เด็ค ปัจจุบัน ได้ก่อสร้างโครงสร้างหลักเสร็จสิ้นแล้ว และอยู่ระหว่างการตกแต่งภายใน ซึ่งบริษัทฯได้สำรองเงินทุนในส่วนนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว” นายสรพจน์กล่าวเสริม
***การบริหารจัดการภายในองค์กร***
นอกเหนือจากนี้ เพซยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาที่สามารถรับรู้รายได้ระยะยาวอีก 3 โครงการ ซึ่งจะทยอยแล้วเสร็จ คือ โครงการ วินด์เชลล์ บนถนนนราธิวาสราช-นครินทร์ โรงแรม บางกอก เอดิชั่น ในมหานคร โครงการ มหาสมุทร หัวหิน ซึ่งประกอบด้วยโครงการที่พักอาศัยรูปแบบวิลล่า และ คันทรี่ คลับ และยังเป็นโครงการที่จะสร้างรายได้ระยะยาวให้กับบริษัท อีกทั้งยังมีที่ดินที่อยู่ระหว่างรอพัฒนาอีกสองโครงการ
ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เพซได้เติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก  ซึ่งขณะนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับโครงสร้างองค์กรและการวางแผนเชิงกลยุทธ์ ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลและการปฏิบัติการ เพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย และได้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อลดต้นทุนด้านบุคลากร พร้อมรองรับทิศทางการดำเนินธุรกิจที่จะสร้างรายได้ต่อเนื่องในระยะยาว
“หลังจากการเพิ่มทุนและขายสองโครงการดังกล่าว รวมถึงลดภาระหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยระยะสั้นจนเกือบหมดสิ้นแล้ว เพซเชื่อมั่นว่าโครงสร้างทางการเงินของบริษัทฯ จะมีความแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และบริษัทฯ เชื่อว่ามีศักยภาพในการเติบโตสูงและเน้นการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต” นายสรพจน์กล่าวทิ้งท้าย
 
ด้านบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ PACE แจ้งว่าเมื่อวานนี้ (7 พ.ย.) บริษัท และบริษัท เพซ โปรเจ็ค ทู จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับบมจ.แสนสิริ (SIRI) เพื่อการเจรจาซื้อขายโครงการนิมิตหลังสวน (ทั้งโครงการ) และห้องชุดที่พักอาศัยในโครงการเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก ส่วนที่เหลือทั้งหมด (จำนวน 53 ห้องชุด) ในโครงการอาคารชุดมหานคร (Aspen)
ความเห็น: เป็นไปตามฐานะการเงิน PACE ที่นับว่าตึงตัวตามงบดุล 2Q60 บริษัทมีหนี้เงินกู้ต้องชำระภายใน 1 ปี จำนวนประมาณ 15.5 พันล้านบาท ขณะที่มีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นรวมเป็น 2.2 พันล้านบาท และมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน 1H60 ที่ -332 ล้านบาท จึงคาดว่าเป็นที่มาของความจำเป็นในการจะทยอยขายบางโครงการออกมาเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ผลกระทบด้านบวกของ PACE คือ มีการเก็งกำไร PACE ที่จะรอด แต่ด้านลบคือในอนาคตขาดโครงการที่จะทำให้มีผลการดำเนินงานฟื้นตัว สำหรับ มหานครมีมูลค่าโครงการทั้งหมด 15.0 พันล้านบาท คาดเบื้องต้นว่า 53 ยูนิตมีมูลค่าประมาณ 3.8 พันล้านบาท ปัจจุบันก่อสร้างเสร็จแล้ว ทยอยโอน ส่วน นิมิตร มีมูลค่าขาย 8 พันล้านบาท ขายได้แล้ว 90% คาดว่าจะเริ่มโอนได้ปี 61
ด้านผู้ประกอบการที่สนใจมาซื้อคือ SIRI ก็เป็นบวก เพราะย่นระยะเวลาพัฒนาโครงการ เราเชื่อว่าด้วยความเป็นมืออาชีพและเป็นผู้นำตลาดคอนโดระดับสูงของ SIRI จะขายคอนโดมหานครได้ไม่ยาก เพราะทำเลอยู่กลางเมือง ส่วนคอนโดนิมิตก็ขายไปได้มากแล้ว จึงซื้อมาด้วยส่วนลดแล้วมาพัฒนาให้ได้กำไร ส่วนเจ้าหนี้ปล่อยกู้รายใหญ่ให้ PACE คือ SCB ก็มีโอกาสได้รับชำระคืนเงินกู้ ถือเป็นข้อดีตามมา
คำแนะนำ: คาดว่าจะมีการเก็งกำไร PACE ที่จะรอด SIRI ที่มีโอกาสทางธุรกิจมากขึ้น ส่วน S อาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้น เพราะก่อนหน้าเก็งกำไรว่าจะไปซื้อโครงการของ PACE ด้านราคาหุ้น SCB ก็น่าจะได้รับผลดี
อย่างไรก็ตามธุรกรรมดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอน โดยราคาซื้อขายทรัพย์สินเบื้องต้น และเงื่อนไขข้อกำหนดต่าง ๆ ในบันทึกความเข้าใจดังกล่าวยังไม่ใช่ข้อตกลงสุดท้ายและอาจเปลี่ยนแปลงได้จากผลของการตรวจสอบทรัพย์สินที่ซื้อขาย และการเจรจาต่อรองระหว่างคู่สัญญา โดยบริษัท จะแจ้งความคืบหน้าที่เป็นสาระสำคัญให้ทราบต่อไป ภายหลังจากที่ SIRI ได้ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินที่ซื้อเสร็จสิ้น ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบทรัพย์สินที่ซื้อขาย ไม่เกิน 60 วัน นับจากวันที่ลงนามในบันทึกความเข้าใจ

----จบ--- 
 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

SNNP รับรางวัล Supplier ดีเด่นจากแม็คโคร

SNNP รับรางวัล Supplier ดีเด่นจากแม็คโคร

PTG ลงนาม MOU กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคีเครือข่าย ร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูป่าชายเลน

PTG ลงนาม MOU กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคีเครือข่ายร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูป่าชายเลน

เก็งหุ้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อยขี่ไม้กวาดวิเศษ ภาคเช้าที่ผ่านมา หุ้นไทยแกว่งขึ้น ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนการเล่นการเทรดเป็นไปตามแรง...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้