Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : DOD เคาะ IPO 9.30 บ. / หุ้น ดีเดย์ เทรด mai 20 มิ.ย.นี้

5,095

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ ( 11 มิถุนายน 2561)  หุ้นน้องใหม่ ไม่ธรรมดา DOD เคาะราคา IPO จำนวน 110 ล้านหุ้น ที่หุ้นละ 9.30 บาท กำหนดระยะเวลาจองซื้อ วันที่ 12 - 14 มิถุนายน 2561 คาดเทรดวันแรกใน mai 20 มิถุนายน 2561 ตั้ง บล.เคที ซีมิโก้ เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ด้านผู้บริหาร “ศุภมาส อิศรภักดี” แม่ทัพ DOD เผยหลังระดมทุนเตรียมนำเงินลงทุนโรงงานสกัดวัตถุดิบที่มีเทคโนโลยีและเครื่องจักรที่ทันสมัย (โรงที่ 2) และห้องปฏิบัติการวิจัยระดับสากล รองรับการจำหน่ายในประเทศและส่งออกในอนาคต

นายคมกฤต มีคำสัตย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (Lead Underwriter) หุ้นสามัญเพิ่มทุน บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD เปิดเผยว่า บริษัทฯได้กำหนดราคาเสนอขายหลักทรัพย์ หลังจากสำรวจความต้องการซื้อหุ้น (Book Building) ของนักลงทุนสถาบัน โดยมีการกำหนดช่วงราคาเสนอขายที่ 9.00 – 9.30 บาทต่อหุ้น พบว่ามีนักลงทุนสถาบันแสดงความสนใจซื้อหุ้นเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในพื้นฐานธุรกิจ และศักยภาพการเติบโตของ DOD จึงได้กำหนดราคาเสนอขาย IPO ที่หุ้นละ 9.30 บาท ซึ่งจะกำหนดเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในช่วงระหว่างวันที่ 12 -14 มิถุนายนนี้ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) บริษัท หลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย (Co-Underwriter) หุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้


ทั้งนี้ DOD เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 110 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 26.83 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วภายหลังการเพิ่มทุน ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้ว 150 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนหุ้น 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และจะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 205 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนหุ้น 410 ล้านหุ้น โดยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 110 ล้านหุ้น และคาดว่าจะเข้าทำการซื้อขายวันแรก ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ภายในวันที่ 20 มิถุนายนนี้ “ การกำหนดราคา IPO ที่ระดับราคา 9.30 บาทต่อหุ้น ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม เมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องแบบมั่นคงและยั่นยืน

 

ทั้งนี้ DOD ถือเป็นบริษัทผู้ประกอบการไทยรายแรก ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เป็นผู้นำด้านการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสารสกัดจากธรรมชาติ ในรูปแบบ ODM ที่ให้บริการครบวงจร แบบ One Stop Service ที่มีความพร้อมด้วยทีมวิจัยและพัฒนาเน้นนวัตกรรมที่ทันสมัยและมาตรฐานการผลิตที่ได้คุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ” นายคมกฤต กล่าว

 

ด้านนางสาวศุภมาส อิศรภักดี ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD กล่าวว่า การกำหนดราคา IPO ที่ระดับราคา 9.30 บาทต่อหุ้น เป็นระดับราคาที่บริษัทฯเหมาะสม เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตจากการขยายธุรกิจของบริษัทฯในอนาคต โดยบริษัทฯจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ไปใช้เพื่อลงทุนในโรงงานสกัดวัตถุดิบที่มีเทคโนโลยีและเครื่องจักรที่ทันสมัย (โรงที่ 2) เพื่อสกัดสารสกัดซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รวมถึงการสกัดเพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออก พร้อมทั้ง มีแผนลงทุนในห้องปฏิบัติการวิจัยระดับสากลโดยมีการขอรับรองมาตรฐาน ISO 17025 สามารถตรวจสอบคุณสมบัติเฉพาะของสารสกัดที่ได้จากโรงสกัด รับจ้างตรวจสอบทางเคมีและทางจุลชีววิทยาให้กับหน่วยงานอื่น และเพื่อรักษาความลับทางการค้า รวมถึงเพื่อใช้พัฒนาตราสินค้าใหม่ของบริษัทฯ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองกลุ่มผู้สูงอายุที่มุ่งเน้นการมีสุขภาพที่ดี และผลิตภัณฑ์สมุนไพรตรีผลาที่มีคุณสมบัติช่วยดูแลสุขภาพ ฟื้นฟูระบบการทำงานของร่างกาย ช่วยในระบบย่อยและขับถ่าย นอกจากนี้ จะนำเงินไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ“ DOD ถือว่าเป็นโรงงานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารายแรกๆในประเทศไทย ที่มีการนำเครื่องสกัดด้วย Co2 ที่ใช้เพื่อการอุตสาหกรรม ซึ่งสามารถลดต้นทุนการผลิตและสามารถควบคุมคุณภาพของสารสกัด รวมถึงการส่งออกสารสกัดในอนาคต โอยอิงจากแผนแม่บทแห่งชาติว่าด้วย การพัฒนาสมุนไพรไทย ฉบับที่ 1 (พ. ศ. 2560 -2564) พร้อมกันนี้ DOD ยังได้รับในการันตีความน่าเชื่อถือ ภายใต้มาตรฐาน ISO22000:2005, HACCP, GMP Codex และ HALAL รวมถึงยกระดับการผลิต โดยการผลิตในห้องปลอดเชื้อ (Clean Room) ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตเดียวกับการผลิตผลิตภัณฑ์ยา มาใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เนื่องจากนโยบายหลักของ DOD คือการที่ใส่ใจดูแลลูกค้าและรักษาความลับทางการค้า ทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจและเชื่อมั่นที่จะผลิตสินค้ากับ DOD ขณะเดียวกัน บริษัทฯได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ซึ่งเป็นหน่วยงานของภาครัฐ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวถือว่าเป็นข้อได้ความได้เปรียบในการดำเนินธุรกิจของ DOD ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าว สามารถเป็นเครื่องตอกย้ำความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนได้เป็นอย่างดี ” นางสาวศุภมาส กล่าว

 

ด้าน นางนิสาภรณ์ ฤกษ์อร่าม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวเสริมว่า บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) มีอัตราการเติบโตอย่างโดดเด่น ทั้งนี้เป็นผลจากแนวโน้มของกลุ่มที่ดูแลสุขภาพและความงาม ที่บริโภคอาหารเสริมและวิตามิน ยังมีความต้องการที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯได้รับอานิสงค์ ในการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปแบบ ODM เข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นในผลการดำเนินงานของบริษัทฯย้อนหลัง ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงล่าสุดไตรมาส 1/2561 มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องและก้าวกระโดด โดยปี 2558 มีรายได้รวม 385.36 ล้านบาท กำไรสุทธิ 128.89 ล้านบาท ปี 2559 มีรายได้รวม 368.37 ล้านบาท กำไรสุทธิ 138.78 ล้านบาท ปี 2560 มีรายได้รวม 388.56 ล้านบาท กำไรสุทธิ 142.19 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานงวดล่าสุดไตรมาส 1/2561 บริษัทฯมีรายได้รวม 214.56 ล้านบาท กำไรสุทธิ 111.21 ล้านบาท 

 

“ DOD มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง มีอัตราการเติบโตการทำกำไรได้สูง โดยผลการดำเนินงานที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่น ซึ่งจัดว่าบริษัทฯมีศักยภาพการขยายตัวทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ไม่ถึง 1 เท่า และบริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิ ” นางนิสาภรณ์ กล่าว

 

 

สำหรับรายละเอียดการเสนอขาย DOD จะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 110,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 26.83 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยแบ่งเป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนจำนวน 100,545,000 หุ้น และการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทจำนวน 9,455,000 หุ้น สัดส่วนการเสนอขายหุ้นประกอบด้วย ผู้มีอุปการคุณของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ประมาณ 62,045,000 หุ้นหรือ 56.40% ,นักลงทุนสถาบันประมาณ 22,000,000 หุ้น หรือ20.00% และกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท ประมาณ 9,455,000 หุ้น หรือ 8.60%

 

ทั้งนี้การกำหนดราคาหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่จะเสนอขายในครั้งนี้พิจารณาจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Bookbuilding) ซึ่งเป็นวิธีการสำรวจปริมาณความต้องการซื้อหุ้นสามัญของนักลงทุนสถาบันในแต่ละระดับราคา (Price Range) ที่ 9.00 - 9.30 บาทต่อหุ้น โดยบริษัท และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายได้พิจารณาในการกำหนดราคาเสนอขายสุดท้ายที่ 9.30 บาทต่อหุ้น โดยพิจารณาจากราคาและจำนวนหุ้นที่นักลงทุนสถาบันเสนอความต้องการซื้อเข้ามา และคำนึงถึงราคาที่จะทำให้บริษัทได้รับเงินตามจำนวนที่ต้องการ และยังมีความต้องการซื้อหุ้นเหลืออยู่มากพอในระดับที่คาดว่าจะทำให้ราคาหุ้นมีเสถียรภาพในตลาดรอง หากพิจารณากำไรสุทธิของบริษัทในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2560 ถึงไตรมาส 1 ปี 2561) ซึ่งเท่ากับ 219.87 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายต่อประชาชนในครั้งนี้จำนวน 410.00 ล้านหุ้น (Fully Diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings Per Share) เท่ากับ 0.54 บาทต่อหุ้น


 

และอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E) ประมาณ 17.22 เท่าอัตราส่วนราคาต่อกำไร (“P/E Ratio”) 17.22 เท่า มูลค่าตามราคาบัญชี (Book Value) อยู่ที่ 0.95 บาทต่อหุ้น (คำนวณจากส่วนของผู้ถือหุ้นตามงบการเงิน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2561 ซึ่งเท่ากับ 285.73 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดที่เท่ากับ 300,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท) สำหรับวัตถุประสงค์การใช้เงินIPO บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนครั้งนี้ หลังหักค่าธรรมเนียมการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเสนอขายหุ้น ซึ่งเป็นเงินประมาณ 987.24 ล้านบาท ไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ดังนี้


1.จำนวนประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนในโรงงานสกัด วัตถุดิบและห้องปฏิบัติการวิจัยระดับสากล โดยการก่อสร้างโรงสกัดวัตถุดิบโรงที่ 2 เพิ่มเติมจากโรงสกัดเดิม (โรงที่ 1) โดยโรงสกัดโรงที่ 2 จะมีการลงทุนในเครื่องจักรที่เป็นเครื่องสกัดแบบที่ใช้ก๊าซเป็นตัวดึงสารสำคัญออกมาจากพืชสมุนไพร เพิ่มเติมจากโรงงานสกัดเดิมที่ใช้น้ำและแอลกอฮอล์เป็นตัวทำละลายในการดึงสารสำคัญ เพราะพืชสมุนไพรบางชนิดไม่สามารถใช้น้ำและแอลกอฮอล์สกัดสารสำคัญออกมาได้หมด รวมทั้งลงทุนก่อสร้างห้องปฏิบัติการวิจัย เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติเฉพาะของสารสกัดที่ได้จากโรงสกัดของบริษัท และให้บริการเป็นผู้ตรวจสอบสารสำคัญในสารสกัดให้แก่บุคคลภายนอก


2.จำนวนประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อใช้พัฒนาตราสินค้าใหม่ของบริษัท ได้แก่ ตราสินค้าเพื่อตอบสนองกลุ่มผู้สูงอายุที่มุ่งเน้นการมีสุขภาพที่ดี และตราสินค้าสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพรตรีผลา


3.จำนวนประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน


4.จำนวนประมาณ 637.24 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

 

 

อนึ่ง DOD ประกอบธุรกิจเป็นผู้รับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Dietary Supplement Product) ที่มีส่วนประกอบหลักมาจากสารสกัดจากธรรมชาติ โดยให้บริการครบวงจร แบบ One Stop Service ตั้งแต่การให้คำปรึกษาด้านผลิต การคิดค้นและพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า การบริการจดแจ้งเลขสารบบอาหารของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข ภายใต้ตราสินค้าของลูกค้า การออกแบบสินค้าและบรรจุภัณฑ์ การให้คำปรึกษาด้านการตลาดและช่องทางในการจัดจำหน่าย ตลอดจนการผลิตและการควบคุมการผลิตที่ได้คุณภาพ โดยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของบริษัทแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ ได้ดังนี้


1) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อความงาม แบ่งออกเป็น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อดูแลรูปร่าง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยสารสกัดต่างๆ ที่มีคุณสมบัติช่วยดูแลรูปร่าง เช่น ช่วยเผาผลาญไขมัน ลดการสะสมของไขมัน และลดความอยากอาหาร เป็นต้น และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อดูแลผิวพรรณ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยสารสกัดต่างๆ ที่มีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวพรรณให้นุ่ม ชุ่มชื่นยกกระชับ กระจ่างใส ลดเรือนริ้วรอย และจุดด่างดำบนใบหน้า


2) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภครับประทานเพื่อต้องการให้ร่างกายมีประสิทธิภาพดีขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ประกอบด้วยวิตามินแร่ธาตุต่างๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น สารต้านอนุมูลอิสระ และสารสกัดต่างๆ ที่ช่วยในเรื่องเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงสมอง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อระบบขับถ่าย และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทโปรตีน

 


ผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีการจำหน่ายให้แก่ลูกค้าในประเทศทั้งหมด โดยส่วนใหญ่เป็นการผลิตตามคำสั่งซื้อของลูกค้าและภายใต้ตราสินค้าที่ลูกค้ากำหนด ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบริษัทซื้อมาขายไป (Trading Company) ที่ทำหน้าที่เป็นคนกลางหรือเป็นผู้รวบรวมคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายย่อยต่างๆ ที่ต้องการมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ตราสินค้าของตนเอง เช่น ดารา นักแสดง ศิลปินหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงต่างๆ ตลอดจนคลินิคเสริมความงาม บริษัทขายตรง หรือบริษัทที่มีหน้าร้านขายสินค้าเครื่องสำอางในห้างสรรพสินค้า เป็นต้น

 

นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพของบริษัทเอง ภายใต้ตราสินค้า “Dai a to” (ได เอโตะ) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพประเภทโปรตีน มีคุณสมบัติช่วยดูแลรูปร่าง ช่วยลดการสะสมของไขมันส่วนเกิน บำรุงระบบประสาท และบำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใส มีลักษณะเป็นผงชงดื่มโดยนำมาผสมน้ำ เขย่าให้เข้ากัน แล้วดื่มทดแทนมื้ออาหาร บริษัทมีโรงงานตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอยู่เจริญ - ท่าจีน เลขที่ 111 หมู่ที่ 2 ตำบลท่าจีน อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร บนที่ดินขนาด 7-2-71.40 ไร่ ประกอบด้วยอาคาร 1 หลัง 2 ชั้น พื้นที่รวม 3,969.50 ตารางเมตร ชั้นบนเป็นส่วนสำนักงาน ชั้นล่างเป็นสำนักงานและห้องประชุม และส่วนผลิตที่เป็นระบบปิดในห้องคลีนรูม ประกอบด้วย ห้องเก็บวัตถุดิบ ห้องผสม ห้องบรรจุผลิตภัณฑ์ เช่น ห้องอัดเม็ดแคปซูล ห้องบรรจุแผงอัตโนมัติ เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทมีโรงงานสกัดวัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น พริก พริกไทย มะระขี้นก เป็นต้น เพื่อผลิตสารสกัดที่ใช้เป็นวัตถุออกฤทธิ์ (Active ingredients)

 

 

ด้านผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2558 - 2560 และงวด 3 เดือนแรกของปี 2561 มีรายได้รวมจำนวน 385.36 ล้านบาท 368.37 ล้านบาท 388.56 ล้านบาท และ 214.56 ล้านบาท ตามลำดับ รายได้เกือบทั้งหมดเป็นรายได้จากการขาย ซึ่งมีจำนวน 384.87 ล้านบาท 367.58 ล้านบาท 387.35 ล้านบาท และ 214.32 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นร้อยละ 99.87 ร้อยละ 99.79 ร้อยละ 99.69 และร้อยละ 99.89 ของรายได้รวม และรายได้อื่น ซึ่งมีจำนวน 0.49 ล้านบาท 0.79 ล้านบาท 1.21 ล้านบาท และ 0.24 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.13 ร้อยละ 0.21 ร้อยละ 0.31 และร้อยละ 0.11 ของรายได้รวม ในช่วงดังกล่าว

คำค้นหา
  DOD  

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

GUNKUL ลุยขยายพอร์ตพลังงานทดแทน

GUNKUL ลุยขยายพอร์ตพลังงานทดแทน

ติดตาม By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ หลังจาก นายกฯคุยกับนายแบงก์ วันนี้ สมาคมธนาคารไทย ก็ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อย...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้