Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.โกลเบล็ก : BCH คงคำแนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเหมาะสมราว 13.70 บาท

90


BCH
คาดกำไรปกติช่วง 4Q68
เติบโตต่อเนื่อง YoY และ QoQ

-งวด 3Q68 มีกำไร 347 ลบ. -23%YoY -11%QoQ (ต่ำกว่าที่คาด 8%) จากโรคระบาดที่ลดลง และรายได้ผู้ป่วยต่างชาติที่ชะลอ
-คาดกำไรปกติ 4Q68 ราว 325 ลบ. +12%YoY +4%QoQ
-คาดกำไรปี 69 ราว 1,468 ลบ. +7%YoY
-คงคำแนะนำ “ซื้อ” และประเมินราคาเหมาะสม BCH ราว 13.70 บาท

 

Investment Highlight
งวด 3Q68 มีกำไร 347 ลบ. -23%YoY -11%QoQ (ต่ำกว่าที่คาด 8%) จากโรคระบาดที่ลดลง และรายได้ผู้ป่วยต่างชาติที่ชะลอ
งวด 3Q68 มีกำไร 347 ลบ. -23%YoY -11%QoQ (ต่ำกว่าที่คาด 8%) โดยมีรายได้จากกิจการโรงพยาบาล 3,034 ลบ. -7%YoY ทรงตัว QoQ โดยหดตัว YoY เป็นผลจากโรคระบาดตามฤดูกาลที่มีปริมาณและความรุนแรงลดน้อยลงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้รายได้ผู้ป่วยนอก (สัดส่วน 37%) ลดลง 8%YoY และผู้ป่วยใน (สัดส่วน 29%) ลดลง 9%YoY ขณะเดียวกันรายได้กลุ่มประกันสังคม (สัดส่วน 34%) ลดลง 6%YoY เนื่องจากในไตรมาสนี้ไม่มีการบันทึกรายได้ส่วนเพิ่มจากกลุ่ม 26 โรคเรื้อรัง เนื่องจากถูกบันทึกไปแล้วในช่วง 2Q68 ขณะที่ปีก่อนบันทึกในช่วง 3Q67 อย่างไรก็ตาม หากไม่นับรายได้ส่วนเพิ่มดังกล่าว รายได้กลุ่มประกันสังคมยังคงเติบโตเล็กน้อย 1% จากจำนวนผู้ประกันตนที่เพิ่มขึ้นสู่ 1.025 ล้านราย +0.3%YoY โดยเป็นการเพิ่มขึ้นในพื้นที่ที่มีความต้องการลงทะเบียนสูง อาทิ รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น รพ.เกษมราษฎร์ ปทุมธานี รวมไปถึงการเพิ่มขึ้นของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ได้แก่ รพ.เกษมราษฎร์ ปราจีนบุรี ส่วนกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติ (สัดส่วน 12%) ลดลง 16%YoY จากกลุ่มผู้ป่วยกัมพูชาและตะวันออกกลางที่ปรับตัวลง (คูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และโอมาน) ทั้งนี้ 9M68 มีกำไร 1,057 ลบ. +1%YoY และคิดเป็น 74% ของประมาณการกำไรทั้งปี 68 เดิมที่ 1,419 ลบ. +11%YoY


คาดกำไรปกติ 4Q68 ราว 325 ลบ. +12%YoY +4%QoQ จากโรคระบาดที่เร่งขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา
เราคาดรายได้งวด 4Q68 ราว 3,050 ลบ. +10%YoY ทรงตัว QoQ แม้ผ่าน High Season ที่เป็นช่วงหน้าฝนในช่วง 3Q68 แต่ถูกชดเชยจากโรคระบาดที่เร่งตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ประกอบกับเติบโต YoY จากฐานต่ำ เพราะช่วงเดียวกันของปีก่อนมีการปรับปรุงรายการค่าบริการโรคซับซ้อน (RW>=2) ซึ่งได้รับลดลงจาก 12,000 บาท เหลือเพียง 8,000 บาท เนื่องจากปัญหาการจัดสรรงบประมาณที่ไม่เพียงพอ ขณะที่ปีนี้กลับมาบันทึกในอัตรา 12,000 บาทเหมือนเดิม นอกจากนี้ บริการใหม่ๆ อาทิ ศูนย์ความงาม รถทันตกรรมเคลื่อนที่ การตรวจภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ยังมีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่อง ตลอดจนคลินิกเฉพาะทางด้านเวชกรรมรังสีรักษาที่ขยายสิทธิไปยังกลุ่มประกันสุขภาพถ้วนหน้าผ่านโครงการ “Cancer Anywhere” ขณะที่ กลุ่มรายได้ผู้ป่วยกัมพูชาที่ปรับลดลง บริษัทมีการปรับแผนใหม่ โดยเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ได้แต่งตั้งตัวแทนเพื่อส่งผู้ป่วยกัมพูชามารักษาที่ รพ.เกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์ (สปป.ลาว) ซึ่งปัจจุบันมีผู้ป่วยรอส่งตัวกว่า 10 เคส


อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจมีการบันทึกหนี้สงสัยจะสูญของกลุ่มประเทศคูเวตที่มีมูลหนี้ราว 260 ลบ. ซึ่งเดิมคาดจะได้รับการชำระใน 4Q68 แต่ปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจน ทำให้ยอดดังกล่าวอาจต้องถูกตั้งสำรองราว 3-5% หรือราว 10 ลบ. หากบริษัทไม่สามารถขอใบรับรองการชำระเงินได้ทันภายใน 4Q68 นอกจากนี้ ในช่วง 4Q67 และ 3Q68 มีกำไรพิเศษทางบัญชีของรพ.ใน สปป.ลาว เนื่องจากเงินเฟ้อที่รุนแรงจำนวน 62 ลบ. และ 35 ลบ. ตามลำดับ โดยเราคาดกำไรสุทธิงวด 4Q68 ราว 315 ลบ. +35%YoY -9%QoQ แต่หากพิจารณาเฉพาะกำไรปกติจะอยู่ที่ 325 ลบ. +12%YoY +4%QoQ อย่างไรก็ตาม เราปรับประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 68 ลดลง 3% สู่ 1,372 ลบ. +7%YoY


คาดกำไรปี 69 ราว 1,468 ลบ. +7%YoY
เราคาดรายได้และกำไรสุทธิปี 69 ราว 12,649 ลบ. +6%YoY และ 1,468 ลบ. +7%YoY ตามลำดับ สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทในปี 69 ที่ปรับเป้าการเติบโตลดลงเหลือเพียง 5-6% จากในอดีตตั้งเป้าการเติบโต Double Digits โดยมีปัจจัยลบหลักจากเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่อ่อนแอ รวมถึงการเมืองที่มีความไม่แน่นอนซึ่งส่งผลต่อการปรับนโยบายของกองทุนประกันสังคม อย่างไรก็ตาม คาดแนวโน้มผลประกอบการยังคงเติบโตจาก 1) Organic Growth ตามการขยายฐานผู้ประกันตนเฉลี่ยปีละ 1% 2) การขยายกำลังการบริการใหม่ต่อเนื่องจากช่วงปี 68 3) รพ.เกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทน์ ที่แต่งตั้งตัวแทนเพื่อรับผู้ป่วยกัมพูชา และ 4) แผนการปรับปรุง รพ.เกษมราษฎร์ บางแค และรพ.เกษมราษฎร์ แม่สาย ซึ่งคาดจะแล้วเสร็จช่วง 2Q69 และสามารถขยายกำลังการให้บริการเพิ่มมากขึ้น

 

นอกจากนี้ ยังมีอัพไซด์จากกลุ่มผู้ป่วยคูเวตที่มีโอกาสกลับเข้ามารับบริการรักษาในปีหน้า หลังจากได้มีการเข้าร่วมประชุมในโครงการ Rediscovering Health and Wellness Tourism in Thailand ณ ประเทศคูเวต เมื่อช่วงเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทได้มีการนำเสนอให้บริการ 4 โรคเฉพาะทางที่มีความชำนาญ ได้แก่ หัวใจ เบาหวาน มะเร็ง และกระดูกและข้อ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นบริการที่ค่ารักษาต่อบิลสูง


คงคำแนะนำ “ซื้อ” และประเมินราคาเหมาะสม BCH ราว 13.70 บาท
เราปรับใช้ราคาเหมาะสม BCH ปี 69 และปรับ Prospective PE ลดลงสู่ 23.2x ณ ระดับ -1.5SD ของค่าเฉลี่ย 5 ปี จากเดิมที่ระดับ 28.3x โดยเรา Derating ตามกลุ่มโรงพยาบาลที่ถูกปรับลงมาสู่ระดับ –1.5SD ของค่าเฉลี่ยในอดีตที่ราว 35x ขณะที่เราประมาณการกำไรสุทธิต่อหุ้นปี 69 ที่ 0.59 บาท/หุ้น คำนวณเป็นราคาเหมาะสมปี 69 ราว 13.70 บาท (จากราคาเหมาะสมปี 68 ที่ 16.10 บาท) อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นมีอัพไซด์จากราคาเป้าหมาย 37% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”


ปัจจัยเสี่ยง
1. จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง หรือมาตรการปิดประเทศเนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติ
2. การขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์
3. การแข่งขันภายในอุตสาหกรรมโรงพยาบาลเอกชน

 


Analyst: Salakbun Wongakaradeth, CISA
02-687-7287
Salakbun@globlex.co.th

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ต่างชาติขายมากกว่า1.1แสนล้าน By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม เห็นต่างชาติ กลับมาซื้อหุ้นใหญ่ วานนี้ วันแรกของเดือนธันวาคม 68 แค่ซื้อสุทธิ 1,239.14 ล้านบาท หลังจากขาย...

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้