สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (30 มกราคม 2568)------บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) PTTEP เปิดเผยว่า ปตท.สผ. และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสำหรับปี 2567 จำนวน 2,227 ล้านดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้น 19 ล้านดอลลาร์ สรอ. คิดเป็นร้อยละ 1เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2566 ที่มีกำไรสุทธิ 2,208 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยหลักจากรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นจากโครงการจี 1/61 ที่มีการเพิ่มอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติสุทธิกับค่าเสื่อมราคา ค่าสูญสิ้น และค่าตัดจำหน่าย ประกอบกับค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น รวมถึงในปีก่อนมีการรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ โดยกำไรสุทธิสำหรับปี2567จำนวน 2,227 ล้านดอลลาร์ สรอ. แบ่งเป็นกำไรจากการดำเนินงานปกติสำหรับปี2567 จำนวน 2,262 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลง60 ล้านดอลลาร์ สรอ. เมื่อเปรียบเทียบกับปี2566ที่มีกำไร 2,322 ล้านดอลลาร์ สรอ. แม้ว่ารายได้จากการขายเพิ่มขึ้นจากปริมาณขายเฉลี่ยต่อวันที่เพิ่มขึ้นจากโครงการจี 1/61 และโครงการยาดานาแต่กำไรลดลงสาเหตุหลักจากค่าเสื่อมราคา ค่าสูญสิ้น และค่าตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่จากโครงการจี 1/61 ตามปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น รวมถึงโครงการซอติก้า และโครงการเอส 1 ที่มีสินทรัพย์พร้อมใช้งานเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่จากโครงการจี 1/61 โครงการอาทิตย์และโครงการมาเลเซียมีค่าใช้จ่ายจากกิจกรรมซ่อมบำรุงเพิ่มขึ้น รวมทั้งโครงการคอนแทร็ค 4 และโครงการบี 8/32 และ9 เอมีการปรับลดค่าใช้จ่ายจากค่ารื้อถอนที่ต่ำกว่าประมาณการในปีก่อน อย่างไรก็ตาม ภาษีเงินได้ลดลงตามกำไรที่ลดลง ส่วนใหญ่จากประเทศไทยและประเทศมาเลเซียขาดทุนจากรายการที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติสำหรับปี2567จำนวน 35 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลง79 ล้านดอลลาร์ สรอ. เมื่อเปรียบเทียบกับปี2566 ที่มีขาดทุน 114 ล้านดอลลาร์ สรอ. สาเหตุหลักจากรายการขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ของโครงการโมซัมบิก แอเรีย 1 ในปีก่อน

สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปี 2567 กำไรจากการดำเนินงานปกติลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้า แม้ว่าปริมาณขายจะปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 มาอยู่ที่488,794 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน จากการเพิ่มกำลังการผลิตของโครงการจี 1/61 ตามแผนงาน และการรับสัดส่วนการลงทุนเพิ่มเติมในโครงการยาดานาภายหลังการถอนการลงทุนของผู้ร่วมทุน แต่ราคาขายเฉลี่ยของบริษัทปรับลดลงร้อยละ 3มาอยู่ที่ 46.78 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ประกอบกับต้นทุนต่อหน่วยที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 มาอยู่ที่ 29.58 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ จึงทำให้กำไรจากการดำเนินงานปกติลดลงอย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 มาอยู่ที่ 2,227 ล้านดอลลาร์สรอ. เนื่องจากในปี 2566 มีการรับรู้ผลขาดทุนที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติจากการด้อยค่าสินทรัพย์โครงการโมซัมบิก ในขณะที่ปี 2567ไม่มีรายการดังกล่าวในส่วนของฐานะการเงิน ณ สิ้นปี 2567 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 28,401 ล้านดอลลาร์ สรอ. และมีหนี้สินรวม 12,634 ล้านดอลลาร์ สรอ. ซึ่งเป็นส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย 3,761 ล้านดอลลาร์ สรอ. โดยรายงานส่วนของผู้ถือหุ้น 15,767 ล้านดอลลาร์ สรอ. ทำให้อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นยังคงอยู่ในระดับดีที่ 0.24เท่า ซึ่งเป็นไปตามนโยบายทางการเงินของบริษัท

ทั้งนี้ ปี 2567 ปตท.สผ.และบริษัทย่อยมีปริมาณขายเฉลี่ย 488,794 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากปี 2566 ที่มีปริมาณขายเฉลี่ย 462,007 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน โดยหลักจากโครงการจี 1/61 ที่เพิ่มอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติเป็น 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันในเดือนมีนาคม 2567 รวมทั้งโครงการยาดานามีสัดส่วนเพิ่มขึ้นหลังจากผู้ร่วมทุนยุติการลงทุนในเดือนเมษายน 2567 ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ยลดลงร้อยละ 3เป็น 46.78 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ (ปี2566: 48.21 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ) เนื่องจากราคาขายน้ำมันดิบลดลงตามราคาตลาด รวมถึงราคาก๊าซธรรมชาติลดลง โดยหลักจากโครงการจี 1/61 และโครงการจี 2/61