Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: SCC คาดปี68 EBITDA ดีขึ้น ตั้งงบลงทุน 3-3.5 หมื่นล้านบาท

1,248

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 29  มกราคม 2568)----- SCC  เผยงบรวม  ปี 67  กำไรสุทธิ  6,341 ล้านบาท ลดลง  76%จากปีก่อน   เทียบกับปีก่อนมีกำไรสุทธิ  25,914  ล้านบาท เหตุมีการจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในปี66 และผลงานเอสซีจีซี ฉุด


บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน)SCC รายงานงบการเงินรวมปี 2567  มีกำไรสุทธิ  6,341 ล้านบาท  เทียบกับปีก่อนมีกำไรสุทธิ  25,914  ล้านบาท

นายธรรมศักดิ์  เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่  บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)SCC     เปิดเผยว่า ปี 2567 เอสซีจีมีรายได้จากการขาย 511,172 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 จากปีก่อน จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นของเอสซีจี เคมิคอลส์ (เอสซีจีซี) และมีกำไรสำหรับปีเท่ากับ 6,342 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 76จากปีก่อนเนื่องจากมีการจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในปี2566 และเอสซีจี เคมิคอลส์ (เอสซีจีซี) มีผลการดำนินงานลดลงจากการรับรู้ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของโรงงานปิโตรเคมีในเวียดนาม ประกอบกับส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลง


EBITDA อยู่ที่ 53,946 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน จากเงินปันผลรับที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในธุรกิจอื่น (SCG Investment)และเป็นผลจากการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จากกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซีเมนต์และการก่อสร้าง แม้ EBITDAจะลดลงหลัก ๆ จากเอสซีจีเคมิคอลส์ (เอสซีจีซี)

ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับผลประกอบการเอสซีจีในปี 2567:   ทามกลางความท้าทายในระดับโลกและในระดับภูมิภาคจากหลากหลายอุตสำหกรรม เอสซีจีมีกำไรสำหรับปี2567  อยู่ที่  6,342ล้านบาท  ภาพรวมสถานการณ์โลกประกอบด้วยหลายปัจจัยจากความตึงเครียดทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ อัตรากำไรธุรกิจปิโตรเคมีที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ต้นทุนพลังงานที่ยังมีความผันผวนและอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูง ในขณะเดียวกันอุตสาหกรรมปิโตรเคมีทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างมาก จากอัตรากำไรที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ประกอบการปิโตรเคมีหลายรายต้องหยุดดำเนินการ ภาพรวมสถานการณ์ในประเทศไทย มีการฟื้นตัวและการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป การเบิกจ่ายงบประมาณรัฐที่ล่าช้าจากปีก่อน อุปสรรคจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงและความท้าทายจากสินค้าประเทศจีนที่ขยายตลาด รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ นอกจากนี้เอสซีจีเคมิคอลส์(เอสซีจีซี) ได้มีการดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการลองเซินปิโตรเคมิคอลส์คอมเพล็กซ์ที่ประเทศเวียดนาม (LSP) ส่งผลทำให้ในปี 2567 มีค่าใช้จ่าย(จากค่าเสื่อมราคา และดอกเบี้ย) ประมาณ6,000 ล้านบาท  ทั้งนี้  รายได้จากการขายของเอสซีจีสำหรับปี 2567 อยู่ที่ 511,172 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 2%จากปีก่อน


ณ วันที่ 31ธันวาคม 2567เอสซีจีมีสินทรัพย์รวม เท่ากับ 861,502 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2566จำนวน32,099 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มปี 2568   เอสซีจีคาดว่าจะมี EBITDA ที่ดีขึ้นในปี 2568 ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก
- ราคาน้ำมันมีแนวโน้มลดลงและมีการกระตุ้นเศรษฐกิจจากประเทศจีน ส่งผลดีต่อธุรกิจปิโตรเคมี
- การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐในประเทศไทยคาดว่าจะเป็นไปอย่างต่อเนื่องงานโครงการจากภาครัฐแนวโน้มเพิ่มขึ้นส่งผลดีต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซีเมนต์และการก่อสร้าง
- การเติบโตในภูมิภาคยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง สนับสนุนจากการใช้จ่ายของรัฐบาล โดยเฉพาะในประเทศเวียดนามและอินโดนีเซีย
- เอสซีจีดำเนินงานต่อเนื่องในการบริหารจัดการภายใน มาตรการลดต้นทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ รวมถึงการเร่งแผนการดำเนินงานที่สำคัญ
- คาดการณ์รายจ่ายลงทุนและเงินลงทุนสำหรับปี 2568 อยู่ที่ประมาณ 30,000-35,000 ล้านบาท
- เอสซีจีเร่งดำเนินงานต่อเนื่อง เช่น เพิ่มสัดส่วนสินค้ามูลค้าเพิ่มสูง ขยายปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำ Gen II และ Gen IIIและเร่งขยายปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำไปยังตลาดอาเซียน SCGC Green Polymer โครงการก๊าซอีเทน LSP และแผนงานการขายสินทรัพย์ (Asset divestments) เป็นต้น



///จบ///

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ปลุกหุ้นใหญ่ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย สูตรเดิม มักใช้ได้เสมอ ใช้หุ้นDELTA นำ ตามด้วย .....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้