Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: SCCคงเป้ายอดขายปีนี้โต 3-5% เล็งผุดProject ปิโตรฯ รองรับEEC

1,089

 

 

 

 

 




HotNews: SCCคงเป้ายอดขายปีนี้โต 3-5%
เล็งผุดProject ปิโตรฯ รองรับEEC 

  สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(  1  พฤศจิกายน   2560)-------- SCC คงเป้ายอดขายปีนี้โต 3-5%   มองแนวโน้มดีมานด์ดี   จ่อบุ๊คกำไรพิเศษช่วงQ4/60 ราว 500 ลบ. จากการขายบ.ย่อยในเวียดนาม   อยู่ระหว่างศึกษาแผนลงทุนโครงการปิโตรฯ  ใน EEC คาดสรุปกลางปี61  วางงบลงทุนปีหน้า 5-6  หมื่นลบ. ใช้ในโครงการปิโตรเคมีเวียดนาม-ปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักร

   นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือSCC เปิดเผยว่า บริษัทคงเป้ายอดขายปีนี้เติบโต 3-5% จากปีก่อนทำได้ 450,573.26  ล้านบาท  เป็นผลจาก3ธุรกิจหลักที่สามารถขยายตัวได้ดี ทั้งธุรกิจเคมีภัณฑ์ และธุรกิจแพคเกจจิ้ง ที่มีความต้องการใช้สูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจธุรกิจซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างแม้ว่าช่วงต้นปีที่ผ่านมาความต้องการใช้ปูนจะติดลบ แต่ครึ่งปีหลังความต้องการเพิ่มสูงขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว  ทำให้เชื่อว่าในระยะต่อไปความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ภายในประเทศจะสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากปีก่อนที่ภายในประเทศมีการใช้ปูนซีเมนต์ราว 39  ล้านตัน     
อนึ่งในไตรมาส 3/60  บริษัทมีรายได้จากการขาย 112,428 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจากทุกกลุ่มธุรกิจ โดยมีกำไรสำหรับงวด 11,836 ล้านบาท ลดลง 16% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากในไตรมาส 3/59 มีการตั้งสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีจำนวน 1,800 ล้านบาท ประกอบกับส่วนต่างราคาของสินค้าเคมีภัณฑ์ปรับตัวลดลง
ผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือนของปี 60 มีรายได้จากการขาย 337,521 ล้านบาท เพิ่มขึ้น4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากราคาขายของสินค้าเคมีภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น โดยมีกำไรสำหรับงวด 42,474 ล้านบาท ลดลง 3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากผลการดำเนินงานที่ลดลงของธุรกิจซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง
   นายรุ่งโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า  ในไตรมาส 4/60 บริษัทฯ จะบันทึกกำไรพิเศษอีกราว 500 ล้านบาท จากบริษัท นวพลาสติกอุตสาหกรรม (สระบุรี) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCC ถือหุ้น 99.79% ได้เสนอขายหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมด 23.8% ในบริษัท Tien Phong Plastic Joint Stock Company (NTP) ประเทศเวียดนาม ซึ่งกำไรพิเศษหลังหักภาษีอยู่ที่ประมาณ 800 ล้านบาท และบันทึกในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาไปแล้วราว 300 ล้านบาท
ขณะที่บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาแผนความเป็นไปได้ที่จะเข้าลงทุนในพื้นที่โครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือEEC โดยมีความสนใจที่จะเข้าลงทุนในโครงการปิโตรเคมี เบื้องต้นคาดจะได้ข้อสรุปในช่วงกลางปี2561   
พร้อมกันนี้บริษัทตั้งงบลงทุนปี 61 ที่ 5-6 หมื่นล้านบาท  เพื่อใช้ลงทุนโครงการปิโตรเคมีที่ประเทศเวียดนาม ราว 2.5-3 หมื่นล้านบาท ที่เหลือจะใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตในประเทศ   ขณะที่บริษัทยังมีแผนการซื้อกิจการอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ อยู่ในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักของบริษัทฯ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
อย่างไรก็ตามโครงการลงทุนปิโตรเคมีที่ประเทศเวียดนามบริษัทได้เลื่อนสรุปแผนออกไปอีก 1-2 เดือน จากเดิมคาดสรุปภายในไตรมาส 3/60 เนื่องจากมีรายละเอียดการลงทุนเพิ่มเติม โดยเบื้องต้นมูลค่าโครงการอยู่ที่ประมาณ 1.8 แสนล้านบาท ระยะเวลาลงทุน 4 ปี
สำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2560 เอสซีจีมียอดขายสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม (High Value Added Products & Services - HVA) 130,690 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 39 ของยอดขายรวม โดยใช้งบประมาณการลงทุนรวมด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมกว่า 2,400 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.7 ของยอดขายรวม โดยบริษัทฯ เน้นการเปิดรับความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากทั่วโลกผ่านการทำงานของ Open Innovation Center ในการร่วมคิดและพัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการสู่ตลาด ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้รวดเร็วและตรงจุดยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันมียอดผู้เข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานแล้วกว่า 6,500 คน และมีโครงการต่อยอดนวัตกรรมร่วมกันอีกกว่า 30 โครงการ ขณะเดียวกันยังคงแสวงหาความร่วมกับเครือข่ายสตาร์ทอัพทั่วโลก ผ่านการลงทุนของ AddVentures บริษัทในรูปแบบ Corporate Venture Capital หรือ CVC โดยล่าสุดได้ลงทุน Funds of Funds ผ่านกองทุนชั้นนำระดับเวิลด์คลาส (Venture Capital) เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของสตาร์ทอัพอีโคซิสเท็มทั่วภูมิภาค
อีกทั้ง เอสซีจียังเดินหน้ากลยุทธ์ตอบรับ Digital Transformation และ Industry 4.0 ด้วยการนำเทคโนโลยี Internet of Things (IoT) มาประยุกต์ใช้เพื่อเสริมประสิทธิภาพระบบปฏิบัติการของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง อาทิ ระบบตรวจสอบปริมาณซีเมนต์คงเหลือในไซโลซีเมนต์ของเอสซีจี รวมทั้งการเชื่อมโยงข้อมูลสำหรับการขนส่งโลจิสติกส์ เพื่อตรวจสอบสินค้าในสต็อกของลูกค้าได้แบบอัตโนมัติ อีกทั้งนำเทคโนโลยี Robotics มาปรับใช้ในกระบวนการผลิตและซ่อมบำรุง เพื่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว และเสริมความปลอดภัยระหว่างการปฏิบัติงานมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เพื่อทดแทนการทำงานของคนในพื้นที่เสี่ยงและยังสามารถลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศได้อีกด้วย”
นอกจากนี้ เอสซีจียังให้ความสำคัญกับธุรกิจบริการเช่นกัน ล่าสุด เปิดตัว เอสซีจี เอ็กซ์เพรส ระบบการจัดส่งพัสดุด่วนที่มีคุณภาพและทันสมัย และเป็นรายเดียวในตลาดที่มีนวัตกรรมบริการส่งพัสดุด่วนแบบควบคุมอุณหภูมิ โดยปัจจุบันมียอด        ใช้บริการมากกว่า 600,000 กล่อง และมีเป้าหมายยอดการส่ง 1,000,000 กล่อง ในปีนี้ รวมถึงได้เปิดจุดรับบริการ 300 สาขา ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดหลักๆ ทุกภาคในสิ้นปีนี้ อีกทั้ง มีแผนการขยายพื้นที่บริการเพิ่มเติมครอบคลุมทั่วประเทศในช่วงกลางปี 2561
สำหรับตลาดปูนซีเมนต์โดยรวมในประเทศไทยในไตรมาสนี้ แม้ว่าจะหดตัวราวร้อยละ 2 เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จากไตรมาสก่อน คาดว่าเป็นผลจากโครงการเมกะโปรเจคท์ของภาครัฐเริ่มทยอยอนุมัติงบประมาณการลงทุน ขณะที่ภาคที่อยู่อาศัยและการก่อสร้างเชิงพาณิชย์ยังคงชะลอตัวตามปัจจัยฤดูกาล”
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้ออกและเสนอหุ้นกู้ชุดใหม่ 2 ชุด ได้แก่ ครั้งที่ 2/2560 จำนวน 10,000 ล้านบาท อายุ 7 ปี และ ครั้งที่ 3/2560 จำนวน 25,000 ล้านบาท อายุ 4 ปี โดยเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้ส่วนหนึ่งนำไปไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดในวันที่ 1 ตุลาคม 2560

----จบ--- 



 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้