Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

573

 

ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook

สรุปภาพตลาดวานนี้
หุ้นไทยยังรักษาโมเมนตัมบวกได้ต่อ นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร ที่รอบนี้ออกมาทาง Buy-on-fact มากกว่า ทั้ง KTB BBL SCB TTB KBANK และหุ้นกลุ่มบลูชิปต่างๆ ทั้ง GULF AOT DELTA ขณะที่หุ้นกลุ่มกลาง-เล็ก ที่บวกเด่น PIS IVF TAKUNI PEER เป็นต้น ขณะที่กลุ่มกดดันตลาด CPALL TRUE CPF และปิโตรเคมี IVL SCC

แนวโน้มตลาดวันนี้
ยังอยู่ในจุด U-Turn
คาดหุ้นไทยยังอยู่ในจุดกลับตัว เพื่อเล่นขึ้นรอบใหม่ นอกจากการหมุนกลุ่มเล่นหุ้นล่าง ตามที่เราประเมิน เช่นเมื่อวาน ยังเล่นกลุ่ม โรงแรม สินเชื่อบุคคล ต่อเนื่อง และหุ้นธนาคารที่ยังไม่ยอมลง หลังรายงานงบดีกว่าคาด นลท.ย่อมคาดหวังต่อเงินปันผลที่สูงขึ้นตาม
หนุนให้ดัชนีฯรอบนี้ค่อยๆขยับเข้าหาแนวต้าน 1,370 จุด ด่านแรก และจะเป็นตัวเปลี่ยนโมเมนตั้มให้เกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคในหุ้นรายตัวด้วย ขณะที่เราคาดว่า บรรยากาศตลาดหุ้น ได้เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ หลังผ่านเรื่องราวร้ายๆ และผ่านวันแถลงนโยบายของ ปธน.ทรัมป์ ไปแล้ว
คาดนักลงทุนที่ได้ขายหุ้นปรับพอร์ตไปแล้ว จะหยุดการเล่นตามกระแสหรือ ธีมลงทุน แล้วหันมาโฟกัสเก็บหุ้นจากเงินสดที่เหลือ ตามปัจจัยพื้นฐาน มากกว่า กระแสลงทุน ดังที่กลยุทธ์แนะนำไว้ (ดูย่อหน้าถัดไป)

ด้านปัจจัยที่เคยกดดันตลาดหุ้นไทย เช่น บอนด์ยิลด์อเมริกาที่พุ่งสูง เงินบาทอ่อนค่า-ดอลล์แข็ง น้ำมันแพง ฯลฯ เราประเมินว่าสถานการณ์ที่เคยผลักดันทิศทางของสินทรัพย์เหล่านี้ ได้สุกงอมแล้ว(สะท้อนไปหมดแล้ว) และเมื่อเปลี่ยนทิศทาง คาดว่าจะหนุนบรรยากาศหุ้นไทยได้ต่อเนื่อง

กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์คงคำแนะนำ เลือกสะสมหุ้นรายตัว รายกลุ่ม ในจังหวะที่ราคาหุ้นตก หรือพักฐาน ด้วยเรามองว่าหุ้นที่เราเลือกแนะนำ ได้พิจารณาแล้วว่าควรจะขึ้นแข็งกว่าตลาด เพราะ 1) ราคาหุ้นทรงตัวได้ดี Outperform ในเชิงเทคนิคคอล ไม่ Overbought 2) ความถูกของราคาหุ้นเมื่อเทียบมูลค่าทางบัญชี (PBV) และเทียบกับ Bands 3) แนวโน้มผลการดำเนินงานระยะสั้น ดูแล้วไม่น่าจะสร้างความผิดหวัง 4) โอกาสที่กำไรระยะสั้นจะดีกว่าที่คิด เพราะมีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว เช่น มาตรการช้อปช่วยชาติ แจกเงินหมื่น ในช่วงไตรมาสแรก หนุนกำไรโตต่อเนื่อง 4Q24-1Q25 5) มีปันผลระหว่างกาล

วิเคราะห์ทางเทคนิค
SET Index ปิดสวย ปิด high! ทะลุเส้น EMA วัน (เส้นแรก)….สำเร็จ! สู้ที่ฐาน Consolidate zone และ จุด lowest point ปี 2024…ปัจจุบันต้านเดิมเปลี่ยนเป็นรับ….ขณะที่ สัญญาณ “Bullish divergence pattern” ยอดเยี่ยมบ่งชี้ปลายทางขาลง แม่นยำ! ยังคงมองตลาดรีบาวด์ลูกใหญ่ ยังไม่จบง่ายๆ ลุ้นเป้าฯ ถัดไปบริเวณ 1375 จุด (ค่าเฉลี่ยรายเดือน)
Note: ต่างชาติเริ่มกลับ…ซื้อหุ้น ซื้อ Bondและเปิดสถานะ Long TFEX…จับตา “Fund Flow” รอบนี้เอาไว้ให้ดีครับ

 


What to watch
ธน.ทรัมป์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า คณะบริหารของเขากำลังหารือกันเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% โดยพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่าจีนกำลังส่งเฟนทานิลเข้าไปยังเม็กซิโกและแคนาดา ซึ่งยาเสพติดร้ายแรงดังกล่าวได้ไหลเข้าสู่สหรัฐฯ "วันที่ 1 ก.พ. อาจจะเป็นวันที่เราเริ่มดำเนินการในเรื่องนี้"
รายงานงบการเงินของกลุ่มธนาคาร และหุ้นที่รายงานงบก่อน เช่น PTTEP SCC เป็นต้น
พ.ร.บ.ศูนย์กลางการเงิน เตรียม ชง ครม.ต้น ก.พ. (เสร็จสิ้นขั้นตอนรับฟังความเห็นแล้ว) ดึง 8 ธุรกิจตั้ง OSA ครบวงจรในไทย ดึงนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย และสาขาของนิติบุคคลต่างประเทศ 8 ประเภท ได้สิทธิประโยชน์ทั้งทางภาษีและอื่นๆ 8 ธุรกิจเป้าหมายได้แก่ 1) ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ 2) ธุรกิจบริการการชำระเงิน 3) ธุรกิจหลักทรัพย์ 4) ธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 5) ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล 6) ธุรกิจประกันภัย 7) ธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อ และ 8) ธุรกิจทางการเงินหรือธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่อง
การใช้ประโยชน์ เช่น SMEs ที่ไม่สามารถเข้าถึงเงินกู้แบงก์ จะให้ บสย.ที่ยกระดับเป็น สถานบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ ซึ่งจะมีฐานข้อมูล SMEs ตั้งแต่ ค่าน้ำ-ไฟ ขายของออนไลน์ผ่าน platform ฯลฯ สามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้แทนสลิปเงินเดือน statement เพื่อเข้าถึงสินเชื่อได้ ด้วยจะมีระบบ Virtual bank รองรับในการเก็บข้อมูลและประมวลผล, การดึงดูดเงินลงทุนต่างชาติที่ร่ำรวยจาก Bitcoin เข้ามาแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาท และใช้จ่ายในประเทศไทย เป็นต้น...
เฟดเผยแบบจำลอง GDPNow บ่งชี้ GDP สหรัฐ +3.0% ใน Q4/67 ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.4% ในไตรมาส 1/2567, 3.0% ในไตรมาส 2 และ 2.8% ในไตรมาส 3

หุ้นแนะนำวันนี้
BCPG โรงไฟฟ้าก๊าซในสหรัฐ น่าจะชอบมาตรการลดราคาพลังงานอมเริกา และการถอนตัวจากข้อตกลงต่างๆที่ไม่หนุนโลกสีเขียวของ ทรัมป์ คาดสร้างโอกาสเชิงบวกต่อ ธุรกิจ ไบโอเทค ของไทยในตลาดโลก
(S 6.2 R 7 SL 6)

 

 


รายงานพื้นฐานวันนี้

Bank Sector
คุณภาพสินทรัพย์ฟื้นต่อในปี 2025
สรุปภาพกำไรสุทธิกลุ่มธนาคาร 4Q24 อยู่ที่ 5.1 หมื่นล้านบาท สูงกว่าที่เราคาด 20% และตลาดคาด 8% (กำไรจากเครื่องทางการเงินที่ดีกว่าคาด และการคุมค่าใช้จ่ายได้ดีกว่าคาด) กำไร 4Q24 ปรับเพิ่มขึ้น 20% YoY (รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเติบโต, cost/income ratio และ credit cost ปรับลดลง) แต่ลดลง 6% QoQ (NIM อ่อนตัวลงและค่าใช้จ่าย OPEX สูงขึ้น)

หลังจากที่ธนาคารประกาศงบการเงิน 4Q24 ออกมาหมดแล้ว เราพบสัญญาณบวก 2 เรื่อง ได้แก่ 1) คุณภาพสินทรัพย์ของกลุ่มธนาคารฟื้นตัวดีขึ้น QoQ นำโดย BBL, KTB, TTB และ KBANK และ 2) NIM เฉลี่ยกลุ่มธนาคารใน 4Q24 ปรับลดลงเพียง 3bps QoQ ทำให้เราคาดว่าแนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ของกลุ่มธนาคารจะฟื้นตัวต่อเนื่องในปีนี้ จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและหลายธนาคารน่าจะบริหารผลตอบแทนของสินเชื่อและเงินฝาก เพื่อลดกระทบของ NIM ในปี 2025 ได้บ้าง
ทั้งนี้ เราเห็นสัญญาณลบจากสินเชื่อที่กล่าวถึงเป็นพิเศษ (Stage 2) ของ KBANK ปรับเพิ่มขึ้นใน 4Q24 แต่ธนาคารชี้แจงว่าอยู่ในคาดหมายอยู่แล้ว และตั้งสำรองหนี้ฯ ไว้แล้วเช่นกัน

หลายธนาคารตั้งเป้าจะทำ ROE ให้สูงกว่า 10% ใน 2-3 ปีข้างหน้า ทำให้เราประเมินว่าธนาคารจะเน้นเพิ่มกำไรควบคู่ไปกับการบริหารส่วนของผู้ถือหุ้น ผ่านการจ่ายปันผลสูงขึ้นและ/หรือทำโครงการซื้อหุ้นคืน

โดยปัจุบัน เราคาดธนาคารที่จะจ่ายปันผลงวด 2H24 สูงกว่า 4.5% ได้แก่ SCB, TISCO และ KTB ทั้งนี้ หลายธนาคารมีศักยภาพในการจ่ายอัตราเงินปันผลสูงขึ้น และเป็น upside จากประมาณการของเรา ได้แก่ BBL, KKP, KTB และ SCB
Fundamental view: ในกลุ่มธนาคาร เราเลือก BBL, KBANK และ KTB เป็น top picks

LH
แลนด์แอนด์เฮ้าส์
ดาวตก
สรุปภาพปี 2024 LH ตั้งเป้าหมายยอดขาย (presales) ไว้ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท แต่ทำได้เพียง 1.9 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเป้าถึง 40% และยอดโอนเราคาดรวมที่ 1.6 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าเป้า 43%
สำหรับปี 2025 LH ก็ยังคงตั้งเป้าหมายเชิงรุก (aggressive) เช่นเดิม ทั้ง presales และโอน โดยบริษัทตั้งเป้า presales ที่ 2.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% YoY และยอดโอน ที่ 2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% YoY ทำให้เรามองว่าจะเป็นอีกปีที่บริษัทจะพลาดเป้าได้ นอกจากนี้ ในปีนี้ LH จะโฟกัสกับการเคลียร์สต็อก ดังนั้น น่าจะเห็นการนำกลยุทธ์ด้านราคามาใช้ และ จะเห็นการตลาดที่มากขึ้น ทำให้เรามองว่า Margin จะยังคงไม่ดีต่อในปีนี้
สำหรับ 4Q24 เราคาดกำไรหลักที่ 914 ล้านบาท ลดลง 31% YoY และทรงตัว QoQ โดยในไตรมาส 4 จะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการขาย Terminal 21 Pattaya ราว 1.7 พันล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิเราคาดไว้ที่ 2.6 พันล้าน ลดลง 26% YoY
Fundamental view: เรามีการปรับราคาเป้าหมายปีนี้ลงเหลือ 5 บาท และยังคงคำแนะนำถือ

 

 

 

Tactical Idea
หุ้นไทยที่พร้อมไปกับธีมโลกสีเขียว
ในงานเสวนา "Chat with Tony: Bull Rally of Thai Capital Market" ดร.ทักษิณ ชินวัตร ได้เน้นย้ำถึงความพร้อมของประเทศไทยในการเปิดตัวตลาดคาร์บอนเครดิต โดยมองราคาของไทยยังไปได้อีกมากเมื่อเทียบกับสิงคโปร์และยุโรป พร้อมชูแนวคิดการตั้งศูนย์กลางซื้อขายคาร์บอนแห่งชาติ
ระบบซื้อขายคาร์บอนเครดิตของไทย (ETS) กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม โดยมีองค์ประกอบที่สำคัญ เช่น 1) รัฐบาลกำหนดโควตาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแต่ละอุตสาหกรรม (ซึ่งจะต้อลดลงเรื่อยๆ) 2) ผู้ปล่อยเกินโควตาต้องซื้อเครดิต กระตุ้นให้เกิดสภาพคล่องในตลาด 3) การกำหนดโควตา และอุปสงค์ที่สูงตามมา จะช่วยหนุนราคาคาร์บอนให้เติบโตต่อเนื่อง ทั้งนี้ กลุ่มป่าชายเลนมักจะมีคาร์บอนเครดิตที่สูง

หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากธีมคาร์บอนเครดิต
DITTO (Take Profit 15.8 บาท, Stop loss 14.1 บาท): เป็นผู้นำตลาดคาร์บอนเครดิตของไทย ผ่าน โครงการฟื้นฟูป่าชายเลน ครอบคลุมพื้นที่ 176,000 ไร่ ใน 16 จังหวัด ผลิตคาร์บอนเครดิต 1.65 ล้านตัน CO₂ ต่อปี เริ่มตั้งแต่ปี 2026 รวมทั้งเตรียมออกเหรียญอิงกับคาร์บอนเครดิตของโครงการดังกล่าวราว 10% ของโครงการ ตามแผนคาดเห็นในช่วงกลางปี 2025

THCOM (Take Profit 13 บาท, Stop loss 11.7 บาท): ใช้ เทคโนโลยี AI และดาวเทียม ในการตรวจสอบคาร์บอน ผ่านแพลตฟอร์ม CarbonWatch และยังจับมือกับมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในการเสริมศักยภาพด้านโครงการคาร์บอนในป่า


TEAMG (Take Profit 3.7 บาท, Stop loss 3.08 บาท): ได้รับการรับรองจาก อบก. ในการตรวจสอบและรับรองโครงการคาร์บอน (มาตรฐาน T-VER) และร่วมพัฒนาแพลตฟอร์ม GHG (ประเมินก๊าซเรือนกระจก) ร่วมกับ NETBAY นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้อานิสงค์จากธีมการถมทะเลด้วย

 

สรุปประเด็นจาก Quick take

SCB
เอสซีบี เอกซ์
ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
ภาพรวมเป้าหมายทางการเงินปี 2025 สอดคล้องกับประมาณการของเรา อาทิ สินเชื่อเติบโต 1-3% YoY, NIM ในกรอบ 3.6-3.8%, cost/income ratio ในช่วง 42-44% และ credit cost ในกรอบ 1.50-1.70%
View from fundamental: ภาพรวมเป้าหมายทางการเงินสอดคล้องกับประมาณการของเรา ทั้งนี้ เราเห็นคุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอลงใน 4Q24 ขณะที่ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นจนใกล้ target price ของเราแล้ว เราแนะนำถือรับปันผลราว 8% ต่อปี

KKP
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร
ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
ภาพรวมเป้าหมายทางการเงินปี 2025 สอดคล้องกับประมาณการของเรา เช่น สินเชื่อทรงตัว YoY (เราคาดเติบโต 2% YoY), Loan spread ทรงตัวจากปี 2024 (ดีกว่าที่เราคาดว่าจะลดลง 7bps YoY) และ credit cost ในกรอบ 2.2-2.4% (ใกล้เคียงคาด)
View from fundamental: ภาพรวมเป้าหมายทางการเงินสอดคล้องกับประมาณการของเรา เราแนะนำซื้อ จากแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2025 เติบโต 7% YoY จากธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ฟื้นตัว

 

 

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ประคับประคอง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ บ่ายวันนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทย คงประคับ ประคอง แกว่งตัวไปมา ท่ามกลาง บริษัทจดทะเบียนไทย...

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้