Market Wrap-Up
- SET วันที่ 17 ก.ย.67 ปิด +1.07 จุด อยู่ที่ 1,436.60 จุด มูลค่าการซื้อขาย 54,393 ลบ.ต่างชาติขาย 415 ลบ.พอร์ตโบรกขาย 93 ลบ.สถาบันขาย 116 ลบ. รายย่อยซื้อ 625 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 916 ลบ. โดยมียอดซื้อในหุ้น BDMS,AOT,TTB,DELTA,KTB และยอดขายในหุ้น EA,BANPU,PTTEP,AWC,ADVANC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,426 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TQM,CRC,SAWAD โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 4,137 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 53,828 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 185 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.04%, S&P500 +0.03%, Nasdaq +0.20% ได้แรงหนุนกลุ่มพลังงาน +1.41%,สินค้าฟุ่มเฟือย +0.62% ขณะที่กลุ่มเฮลธ์แคร์ -1.01%,สินค้าอุปโภค -0.93% ส่วนข้อมูลยอดค้าปลีกสหรัฐ ส.ค. +0.1% & คาด -0.2% MoM และการผลิตภาคอุต ฯ ส.ค. +0.8% & คาด +0.2% MoM ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.40% ได้แรงหนุนจากกลุ่มค้าปลีก +2.8%, เดินทางและสันทนาการ +2.2%
Market View
- ตลาดสหรัฐวานนี้ปิดทรงตัว แม้ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในแนวโน้มบวก เช่น ยอดค้าปลีก, การผลิตภาคอุต ฯ สหรัฐ ส.ค. ขยายตัวดีกว่าคาด บ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ Q3 นี้ยังเติบโตดี โดยนักลงทุนรอผลการประชุม FED ในช่วงค่ำวันนี้ว่าจะตัดสินใจลดดอกเบี้ย 0.25% หรือ 0.50% โดย CME Fed Watch ชี้โอกาส 65% & เดิม 34% ที่เฟดอาจจะลดดอกเบี้ย 50% ในการประชุมครั้งนี้ รวมถึง Fed Dot Plot ที่จะบ่งชี้แนวโน้มการลดดอกเบี้ยสหรัฐในปีหน้า และประมาณการณ์ GDP, อัตราว่างงาน, เงินเฟ้อของสหรัฐ
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับขึ้นนำโดยดัชนีหุ้นสเปน +1.1% สูงสุดในรอบกว่า 9 ปี ได้ปัจจัยหนุนจากเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยลงในรอบ 4 ปี ขณะที่ Zew เผยความเชื่อมั่นนักลงทุนเยอรมัน ก.ย. ลดลงอยู่ที่ 3.6 จุด & ส.ค. 19.2 จุด บ่งชี้แนวโน้มเศรษฐกิจเยอรมันยังอาจฟื้นตัวช้า ประเด็นสำคัญวันพรุ่งนี้ติดตามผลการประชุม BOE อังกฤษคาดคงดอกเบี้ยที่ 5.0%
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ดัชนีนิเกอิ -1.03% จากคาดการณ์เฟดอาจลดดอกเบี้ย 0.50% ซึ่งอาจเป็นปัจจัยเร่งให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจเช้านี้ ตัวเลขส่งออกญี่ปุ่น ส.ค. 5.6% & คาด 10.0% YoY , นำเข้าญี่ปุ่น ส.ค. 2.3% & คาด 13.4% YoY โดยวันศุกร์นี้ติดตามการประชุม BOJ คาดคงดอกเบี้ยที่ 0.25% และ ธ.กลางจีนจะพิจารณาดอกเบี้ย LPR 1 ปี, 5 ปี ว่าจะปรับลดหรือไม่ หลังข้อมูลเศรษฐกิจจีนมีสัญญาณชะลอตัว
- ดัชนี SET วานนี้ +0.07% ปริมาณการซื้อขาย 5.4 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 415 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 93 ลบ. สถาบันขาย 116 ลบ. และรายย่อยซื้อ 625 ลบ. ได้แรงหนุนจากกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง +2.90% หลัง ก.คมนาคมเตรียมเสนออนุมัติการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 1 แสน ลบ. กอปรงบประมาณซ่อมแซมถนนคาดจะเพิ่มขึ้นหลังผ่านภัยน้ำท่วม ส่วนกลุ่มขนส่งปรับขึ้นนำโดย AOT +3.19% ตอบรับข้อมูลนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 6.36 แสน คน +19.3% WoW จากนักท่องเที่ยวมาเลเซีย +77% WoW ในช่วงหยุดวันชาติของมาเลเซีย และนักท่องเที่ยวจีน +28% WoW ในช่วงวันหยุดเทศกาลไหว้พระจันทร์ โดยภาพรวมดัชนีทรงตัวรอผลการประชุม FED ในค่ำวันนี้ ซึ่งจากแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐปีนี้คาดจะลดลงราว 1 – 1.25% ยังเป็นปัจจัยบวกหนุน Fund Flow ให้ไหลกลับเข้าเก็งกำไรในตลาดหุ้นเกิดใหม่ ส่วนผลการประชุม ครม.วานนี้ได้อนุมัติ ม.แจกเงินให้กับกลุ่มเปราะบางและคนพิการวงเงิน 1.4 แสน ลบ. ซึ่งคาดจะช่วยกระตุ้น GDP ได้ราว +0.35% และ ม.ตรึงภาษี VAT ที่ 7 % ต่ออีก 1 ปี สิ้นสุด ต.ค. 68 ซึ่งทั้ง 2 มาตรการเป็นปัจจัยบวกหนุนหุ้นกลุ่มอุปโภคบริโภค
Daily Strategy
- วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,425 – 1,430 แนวต้าน 1,440 คาดดัชนี SET ทรงตัวในกรอบระหว่างรอผลการประชุมเฟดในช่วงค่ำวันนี้ และรอผลการจองซื้อกองทุนวายุภักษ์ในสัปดาห์หน้า แนะนำทยอยซื้อกลุ่มค้าปลีก CPALL,CPAXT,CRC,BJC,GLOBAL/ ไฟแนนท์ SAWAD,MTC,TIDLOR ได้ประโยชน์จาก ม.ปรับโครงสร้างหนี้และดอกเบี้ยขาลง/ AOT,ERW,CENTEL เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูการท่องเที่ยว/ เก็งกำไร STA,STGT คาดได้ประโยชน์จากสหรัฐเตรียมปรับเพิ่มภาษีนำเข้าถุงมือยางจากจีน
- PLANB* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 10.20 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 2Q67 ที่ 264 ล้านบาท เติบโตขึ้น +46%QoQ, +16%YoY หนุนจากรายได้สื่อนอกบ้าน (OOH) ทุกประเภทที่ฟื้นตัวหลังผ่านช่วง low season ส่งผลให้ utilization rate ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 76% เทียบกับ 1Q67 ที่ 70% และ 2Q66 ที่ 70% ประกอบกับธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วม (engagement marketing) ดีขึ้นจากทั้งการตลาดศิลปินและกีฬามวยที่ได้รับความนิยม และรับรู้รายได้จากการบริหารสิทธิกีฬา Olympic 2024 สำหรับแนวโน้ม 3Q67 คาดกำไรเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยยังคงมีการบันทึกรายได้จาก Olympic อีกก้อนราว 330 ล้านบาท และมี media capacity เพิ่ม ส่วน 4Q67 ที่เป็น high season ของสื่อนอกบ้าน ทั้งนี้ตลาดประเมินกำไรในปี 67-68 อยู่ที่ 09 พันล้านบาท +10%YoY และ 1.24 พันล้านบาท +15%YoY
- TOA* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 25.20 บาท) กำไรสุทธิ 1H67 อยู่ที่ 1,281 ลบ. -6.72%YoY จากค่าใช้จ่ายพนง., การตลาด, และโฆษณาที่สูงขึ้น รวมถึง การตัดจำหน่ายสินทรัพย์จากการย้ายโรงงานในมาเลเซีย ส่วนการดำเนินงานช่วงถัดไป แม้ 3Q67 มีโอกาสอ่อนตัว QoQ ตามฤดูกาล แต่คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวดีใน 4Q67 หนุนด้วยฤดูกาล และการซ่อมแซมหลังน่ำท่วม นอกจากนี้ TOA* ยังมีความน่าสนใจจากการเป็นหุ้นใน SET100, SETESG และได้ SET ESG Ratings ระดับ A ทั้งนี้ ตลาดคาดกำไรสุทธิ TOA* ปี67 และ 68 จะอยู่ที่ 2,496 ลบ.(-34%YoY) และ 2,673 ลบ.(+7.09%YoY)
Daily Key Factors
Oil Update(+) WTI ต.ค. +$1.10 อยู่ที่ $71.19 / บาร์เรล, Brent พ.ย. +$0.95 อยู่ที่ $73.70/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากการผลิตน้ำมันสหรัฐในอ่าวเม็กซิโกลดลง ขณะที่สถานการณ์ตะวันออกกลาง เกิดเหตุ Pager ของผู้ใช้งานในเลบานอนระเบิดหลายแห่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บ 3,000 ราย
Gold Update(-) Comex Gold ธ.ค.-$16.50 อยู่ที่ $2,592.40 /ออนซ์ ถูกกดดันจาก US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 3.647% และ Dollar Index แข็งค่า +0.13% อยู่ที่ 100.894 ก่อนทราบผลการประชุมเฟดค่ำวันนี้
Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +13.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -12.48 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +44.26 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +14.50 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 33.35 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 3.647 %
(+) ดัชนี BDI วานนี้ +5 จุด อยู่ที่ 1,901
(+) BitCoinเช้านี้ +3.90% อยู่ที่ 60,138 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
12 ก.ย. หอการค้าไทย ร่วมกับม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
และ ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย
สัปดาห์ที3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม
ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์
สัปดาห์ที4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย
ต่างประเทศ
16 ก.ย. CN วันหยุด-เทศกาลไหว้พระจันทร์
17 ก.ย. CN วันหยุด-เทศกาลไหว้พระจันทร์
US ดัชนียอดขายปลีก ( ส.ค.)
18 ก.ย. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( ส.ค.)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
19 ก.ย. US การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
US การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ FOMC
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (ก.ย.)
US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) ( ส.ค.)
Theme Strategy
Theme หุ้นเด่น 2H67 คาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทย ลุ้นมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อเพิ่มเติม, การอนุมัติงบประมาณปี68, กลุ่มที่มี High Season ใน 3Q เช่น กลุ่มส่งออก, กลุ่มร.พ., กลุ่มที่มี High Season ใน 4Q เช่น กลุ่มท่องเที่ยว, คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, NSL* CBG*, AU*, KCG*,
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*,
(3) กลุ่มท่องเที่ยว สายการบิน ขนส่ง สื่อนอกบ้าน ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa, traffic การเดินทางฟื้นตัว AOT*, ERW*, SPA*, BA, AAV, BEM*, PLANB*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, SAWAD*
(5) กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH, PR9*, WPH*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA
(7) กลุ่มธนาคาร KBANK, SCB, BBL, KTB
(8) กลุ่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆช่วงปลายปี/ การใช้งบที่เหลือของปี67 SYNEX*, ADVICE*, COM7*
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 55% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio September 2024: KCG*, CPALL, WHA, CPF, THCOM, BDMS
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th