สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(2กันยายน 2567)-------บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (“MINT”) มีความภูมิใจในการประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญของกลยุทธ์การขยายโรงแรม ด้วยการเปิดตัวโรงแรมในอนาคตในประเทศสิงคโปร์เป็นครั้งแรกซึ่งถือเป็นหนึ่งในเมืองที่คึกคักและเต็มไปด้วยกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สุดในโลกทั้งยังเป็นประตูสำคัญสู่ภูมิภาคเอเชีย ความสำเร็จครั้งสำคัญนี้เป็นส่วนหนึ่งของการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจกับ Kajima Development Pte. Ltd. (“Kajima”) และ Alwathba Investment LLC (“Alwathba”) ซึ่งเป็นพันธมิตรที่อยู่ในเมืองอาบูดาบี เพื่อพัฒนาและสร้างโรงแรมรูปแบบไลฟ์สไตล์โฮเทลใจกลางประเทศสิงคโปร์ มีที่ตั้งติดกับย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) และ ไชน่าทาวน์
กลยุทธ์การร่วมมือครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง MINT, Kajima และ Alwathba ซึ่งเป็นพันธมิตรกับบริษัทกันมาอย่างยาวนานในโครงการต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ เมื่อธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์ โรงแรมจะมีเจ้าของร่วมกันโดย Kajima (50%), MINT (25%) และ Alwathba (25%)
โครงการนี้ถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของ MINT ในภาคธุรกิจการบริการในประเทศสิงคโปร์ โดยมีแผนที่จะพัฒนาโครงการโรงแรมสูง 13 ชั้น ซึ่งประกอบด้วยห้องพัก 200 ห้อง ตั้งอยู่ที่ 24 Peck Seah Street ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน Tanjong Pagar ซึ่งเป็นทำเลที่สำคัญในเมือง โดยโรงแรมจะอยู่ภายใต้แบรนด์ "อวานี" ซึ่งถือเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของแบรนด์ในประเทศสิงคโปร์ โดยวางแผนที่จะเปิดตัวโรงแรมอวานีในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2570 ในเมืองสำคัญแห่งนี้ซึ่งเป็นเมืองที่มีนักเดินทางจากทั่วโลกหลายล้านคนแวะเวียนมา การร่วมลงทุนนี้เป็นก้าวสำคัญในกลยุทธ์ของ MINT ที่ขยายธุรกิจไปยังเมืองสำคัญต่างๆทั่วโลก
MINT จะใช้เงินลงทุนประมาณ 19 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งโครงการนี้คาดว่าจะให้อัตราผลตอบแทน (IRR) ในอัตราเลขสองหลักกลาง ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงรายได้ที่มั่นคงและกระแสเงินสดที่จะเข้ามา รวมถึงศักยภาพในการเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์
นายดิลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม MINT และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ไมเนอร์ โฮเทลส์ กล่าวว่า "อวานี สิงคโปร์ เป็นยุทธศาสตร์ในการเข้าสู่ตลาดสิงคโปร์ของไมเนอร์ โฮเทลส์ และเรารู้สึกเป็นเกียรติที่มีพันธมิตรเช่น Kajima และ Alwathba ที่เข้ามาร่วมลงทุนในภาคการบริการที่ประเทศสิงคโปร์ร่วมกัน ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมและการตลาดของพันธมิตรเราจะสามารถส่งมอบประสบการณ์อันยอดเยี่ยม และสร้างความคึกคักให้กับนักเดินทางเพื่อธุรกิจและการพักผ่อนได้”
นาย Shuichi Oishi ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท Kajima Development Pte. กล่าวว่า "เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พัฒนาความร่วมมือกับ MINT และได้นำแบรนด์ Avani สู่ประเทศสิงคโปร์ โดยชื่อเสียงซึ่งที่เป็นที่ยอมรับของ Kajima ในสิงคโปร์ และความเชี่ยวชาญของ MINT ในส่วนของแบรนด์และการบริการ ตลอดจนเครือข่ายระดับโลก ทำให้เรามั่นใจว่าโครงการนี้จะสร้างมาตรฐานใหม่ในภาคธุรกิจการบริการ"
นาย Mohamed Saif Ghanem Saif Alsuwaidi กรรมการผู้จัดการของ Alwathba กล่าวว่า "เรามีความมั่นใจอย่างมากในความสามารถของ MINT ในการส่งมอบผลงานและผลตอบแทนที่ยอดเยี่ยม เราภูมิใจที่ได้สนับสนุนการลงทุนครั้งนี้ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการส่งเสริมการพัฒนาระดับนานาชาติ ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระดับโลกของเรา”
จากการขยายโรงแรมในครั้งนี้ MINT จะมีทั้งธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารในประเทศสิงคโปร์ โดยต่อยอดมาจากความสำเร็จของธุรกิจร้านอาหารที่มีก่อนหน้า ซึ่งเติบโตเพิ่มขึ้นจนมีสาขาเกือบ 100 แห่งทั่วเมือง โดยเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ MINT ในตลาดสิงคโปร์ และตอกย้ำความสามารถของบริษัทในการมอบประสบการณ์อันยอดเยี่ยมทั้งในภาคการบริการและร้านอาหาร
เคทีซีตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยี เปิดรับสมัครบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดเคทีซี พราว ผ่านออนไลน์ด้วยตนเอง
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(2กันยายน 2567)-------เคทีซี เห็นเทรนด์ที่ผู้บริโภคชื่นชอบการทำธุรกรรมผ่านดิจิทัลมากขึ้น เดินหน้าพัฒนาการรับสมัครบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดเคทีซี พราวผ่านช่องทางออนไลน์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล กับการต้องยื่นเอกสารดังกล่าวผ่านมือบุคคลอื่น สอดคล้องกับข้อมูล The Way We Pay 2023 โดยธนาคารแห่งประเทศไทยระบุคนไทยนิยมชำระเงินผ่านดิจิทัลเพย์เมนต์ มากขึ้น เพราะมีความรวดเร็ว ง่ายสะดวก ใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา และปลอดภัย
นางสาวสิริกัลยา สุธัญญพฤทธิ์ ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายบริหารช่องทางขายออนไลน์ “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากที่เคทีซีได้เปิดให้ผู้ที่ต้องการบัตรเครดิตเคทีซี ดิจิทัล สมัครออนไลน์ได้ด้วยตนเอง (Apply Online Service) ตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้สนใจใช้ช่องทางดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มของผู้ที่สมัครบัตรออนไลน์ด้วยตนเองจะเป็นกลุ่มสมาชิกที่มีอายุ 20-35 ปี เคทีซีจึงได้ขยายช่องทางการให้บริการนี้ สำหรับบัตรเครดิต เคทีซี ประเภทอื่นๆ และบัตรกดเงินสดเคทีซี พราว เพื่อตอบโจทย์กลุ่มที่มีเวลาจำกัดเพราะผู้สนใจสมัครบัตรฯ สามารถเลือกวัน และเวลาที่ต้องการสมัครได้ตามสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะทราบผลอนุมัติภายในวันทำการถัดไป นอกจากนี้การสมัครออนไลน์ด้วยตนเอง ยังลดระยะเวลาในการเดินทางหรือความกังวลเรื่องความปลอดภัยในการส่งเอกสาร เพราะผู้สมัครจะเป็นผู้กรอกข้อมูลบนใบสมัครอิเล็กทรอนิกส์ อัปโหลดเอกสาร และยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT หรือ แอปพลิเคชันของธนาคารที่ใช้งานอยู่ ผ่านบริการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล (National Digital ID - NDID) ด้วยตนเองจนจบกระบวนการ
นางสาวสิริกัลยา กล่าวเสริมอีกว่า การสมัครออนไลน์ด้วยตนเอง (Apply Online Service) ถือเป็นการช่วยลดโลกร้อนได้เป็นอย่างดี สอดคล้องกับกลยุทธ์ขององค์กรที่พร้อมทำให้ประเทศไทยเข้าสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ด้วยการผลักดันผลิตภัณฑ์และการให้บริการทางการเงิน เช่น การลดคาร์บอน ลดการเดินทาง รวมถึงลดการใช้ปริมาณกระดาษ
ผู้ที่สนใจสามารถสมัครบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดเคทีซี พราวออนไลน์ด้วยตนเองได้ที่ https://apply.ktc.co.th ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยขั้นตอนการสมัครบัตรฯ ง่ายและกระชับ เพียงใช้บัตรประชาชนตัวจริง และไฟล์ภาพเอกสารแสดงรายได้ กรอกข้อมูล และอัปโหลดเอกสารครบถ้วน ฝ่ายอนุมัติก็พร้อมที่จะพิจารณาใบสมัครทันที และจะส่งผลการพิจารณาผ่าน SMS ตามหมายเลขโทรศัพท์ที่ได้แจ้งไว้ หรือสามารถตรวจสอบผลการสมัครบัตรฯ ด้วยตนเองผ่านช่องทางที่ได้สมัครไว้
สำหรับการสมัครบัตรกดเงินสดเคทีซี พราว เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ช่วยให้ทุกการใช้จ่ายไม่สะดุด การสมัครออนไลน์ด้วยตนเอง จะทำให้สามารถรู้ผลอนุมัติได้ภายในเวลา 30 นาที (เพียงสมัครในช่วงเวลา 8.00 น. -19.30 น. และใช้บริการเบิกถอนเงินสดก้อนแรก)