News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

20 ส.ค. 2567 09:20:01 550

Market Wrap-Up

· SET วันที่ 19 ส.ค.67 ปิด +20.38 จุด อยู่ที่ 1,323.38 จุด มูลค่าการซื้อขาย 62,358 ลบ.สถาบันซื้อ 2,925 ลบ.รายย่อยซื้อ 7,679 ลบ.ต่างชาติขาย 10,486 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิรวม 1,753 ลบ. โดยมียอดซื้อสุทธิในหุ้น BBL,KBANK,SCB,BTS,IVL และมียอดขายสุทธิ ADVANC,BH,PTTEP,TOP,MTC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,345 ลบ. หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ AMATA-R,DCC-R,SIRI-R โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 54,801 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 105,566 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 5,098 ลบ.

· ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.58%, S&P500 +0.97%, Nasdaq +1.39% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +1.44%, บริการสื่อสาร +1.43% นำโดย AMD ผู้ผลิตชิปสหรัฐ +4.5% รับข่าวซื้อกิจการ ZT Systems ผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ เพื่อขยายธุรกิจด้าน AI ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.61% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเหมืองแร่ และค้าปลีก ขณะที่กลุ่มผู้ผลิตอาวุธปรับลดลง หลัง ก.คลังเยอรมันไม่อนุมัติงบซื้ออาวุธช่วยเหลือยูเครน

Market View

· ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับขึ้น หลัง Goldman Sachs ปรับลดโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยจากเดิม 25% ลงอยู่ที่ 20% กอปรกับ Reuters Poll คาดเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยปีนี้ 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% เป็นปัจจัยช่วยหนุนกลุ่มเทคโนโลยี & บริการสื่อสาร สัปดาห์นี้วันพุธติดตาม Fed Minutes ก.ค. และการประชุมประจำปีเฟดที่แจ๊คสัน โฮล วันที่ 22 – 24 ก.ย. โดย ปธ.เฟดจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในช่วงค่ำวันศุกร์ ซึ่งคาดจะส่งสัญญาณชัดเจนเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ย

· ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มเหมืองแร่ +2% ปรับขึ้นตามราคาทองแดงและราคาทองคำที่ยืนเหนือระดับ $2,500/ออนซ์ โดยนักลงทุนรอผลการประชุมแจ๊คสัน โฮล และวันนี้ติดตาม CPI ยูโรโซน ก.ค. คาด 2.6% & มิ.ย. 2.5% YoY เพื่อประเมินโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุม ECB 12 ก.ย.

· ตลาดหุ้นเอเขียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.49%, ฮั่งเส็ง +0.80% โดยรอ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลจีน เข่น ม.แจกคูปองเงินสดเพื่อกระตุ้นการบริโภค หลังข้อมูลเศรษฐกิจจีน เช่น ราคาบ้าน, ผลผลิตภาคอุตฯ ยังฟื้นตัวช้า กอปรกับอัตราการว่างงานปรับสูงขึ้น ขณะที่ดัชนีนิเกอิวานนี้ -1.7% ถูกกดดันจากค่าเงินเยนแข็งค่าสุดที่ 145 เยน/ดอลลาร์ หลังมีข่าว Seven & I Holdings เจ้าของ 7-Eleven ในญี่ปุ่นได้รับข้อเสนอซื้อกิจการจาก อาลีมองตาชิยอง คูช-ตาร์ ร้านสะดวกซื้อของแคนาดา มีมูลค่าราว 5 ลล.เยน (3.4 หมื่น ล.ดอลลาร์)

· ดัชนี SET วานนี้ +1.56% ปริมาณการซื้อขาย 6.23 หมื่น ลบ. รายย่อยซื้อ 7,679 ลบ. สถาบันซื้อ 2,925 ลบ. ต่างชาติขาย 10,486 ลบ. และพอร์ตโบรกขาย 118 ลบ. โดยมูลค่าซื้อขายวานนี้ปรับสูงขึ้นจากรายการ Big Lot หุ้น SCCC มูลค่า 1.21 หมื่น ลบ. หลังกลุ่มซันไรส์ อีคิวตี้ ทำเทนเดอร์จาก Jardine Cycle & Carriage จำนวนหุ้น 25.54% หุ้นละ 160 บาท ขณะที่สภาพัฒน์รายงาน GDP ไทย Q2/67 +2.3% & Q1/67 +1.6% และดีกว่าคาด +2.2% YoY ได้แรงหนุนจากการบริโภคภาครัฐ & เอกชน และมูลค่าส่งออกสินค้าบริการปรับสูงขึ้น จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่ม Domestic Play เช่น ธนาคาร, ไฟแนนท์, ท่องเที่ยว และค้าปลีก กอปรความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับดีขึ้น หลังการแต่งตั้งคุณแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายก ฯ คนที่ 31 และอยู่ระหว่างการส่งชื่อคณะ รมต.ชุดใหม่ในวันนี้ ซึ่งคาดใช้เวลาตรวจสอบคุณสมบัติไม่เกิน 1 เดือน ส่งผลบวกต่อการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง เช่น ม.ดิจิทัล วอลเล็ต (อาจปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงการ), การลงทุนผ่านกองทุนวายุภักษ์ และโครงการแลนด์ บริดจ์ ประเด็นสำคัญวันพรุ่งนี้ติดตามผลการประชุม กนง.โดยผล Reuters Poll ชี้ กนง. มีโอกาสคงดอกเบี้ยจนถึง Q1/68 และคาดจะเริ่มลดดอกเบี้ย 0.25% ในช่วง Q2/68

Daily Strategy

· วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,310 – 1,315 แนวต้าน 1,330 – 1,335 คาดดัชนีมีโอกาส Sideway Up หลังปัจจัยการเมืองในประเทศมีความชัดเจน และรอรายชื่อ ครม.เศรษฐกิจชุดใหม่ กอปรกับเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ย แนะนำทยอยซื้อกลุ่มแบงก์ & ไฟแนนท์ BBL,KBANK,SCB,KTB,SAWAD,MTC อุปสงค์สินเชื่อคาดมีโอกาสฟื้นตัว/ กลุ่มค้าปลีก CPALL,CPAXT,CRC,BJC จาก ม.กระตุ้นกำลังซื้อ/ กลุ่มได้ประโยชน์จากค่าบาทแข็งค่า เช่น GULF,GPSC,BGRIM,AAV,BA

· AOT (ทยอยซื้อ / ราคาเป้าหมาย 67.00 บาท) งวด 3Q66/67 (เม.ย.-มิ.ย.67) มีกำไรสุทธิ 4.56 พันล้านบาท -21%QoQ, +44%YoY ชะลอลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล แต่ยังเติบโตสูง YoY หนุนจากจำนวนเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสารที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น รับผลบวกจากมาตรการฟรีวีซ่า ส่วนแนวโน้ม 4Q66/67 (ก.ค.-ก.ย.67) คาดกำไรยังลดลง QoQ เนื่องจากเข้าช่วง low season เต็มตัวและเริ่มรับรู้ผลกระทบจากการยกเลิก duty free ขาเข้า อย่างไรก็ตามมองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาได้สะท้อนประเด็นลบจากรายได้ค่าเช่าพื้นที่และผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำที่ลดลงของ King Power ไปแล้ว ดังนั้นจึงถือเป็นการปลดล็อก overhang และเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นใหม่รอผลประกอบการฟื้นตัวเมื่อเข้าสู่ช่วง High Season ต่อไป

· AU* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 11.25 บาท) กำไรสุทธิ 2Q67 อยู่ที่ 73 ลบ. +34%QoQ, +70%YoY บวกตามรายได้สินค้าขนมเครื่องดื่ม ทั้ง 1.การกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติและการบริโภคในประเทศ ส่งผลบวกต่อ SSSG และ Rev. per bill และ 2.จำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น ด้านการดำเนินงานครึ่งปีหลัง คาดยังมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง หนุนด้วย 1.การออกเมนูใหม่ๆ / ขายผ่าน Modern trade 2.การขยายสาขา โดยคาดเปิด After You อีกราว 6-8 สาขาในไทย และเริ่มเปิดสาขาแรกในกัมพูชา 3.การเสริมแบรนด์/สินค้าใหม่ๆ เช่น “ลูกก๊อ” เน้นสินค้าจากผลไม้ไทย คาดจะเปิดเพิ่มใน 2H67 อีก 5 สาขา/“มิกก้า” ร้านกาแฟที่เน้นเฟรนไชน์เป็นหลัก ทั้งนี้ ตลาดคาดว่าปี67 68 กำไรของ AU* จะอยู่ที่ 232 ลบ.(+30%YoY) และ 269 ลบ.(+16%YoY)

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ก.ย. -$2.28 อยู่ที่ $74.37 / บาร์เรล, Brent ต.ค. -$2.02 อยู่ที่ $77.66/บาร์เรล หลังมีความคืบหน้าการเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซา กอปรกับอุปสงค์ความต้องการใช้จากจีนยังชะลอตัว

Gold Update(+) Comex Gold ธ.ค.+$3.50 อยู่ที่ $2,541.30 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.57% อยู่ที่ 101.885 และรอผลการประชุมประจำปีเฟดที่แจ๊คสัน โฮล

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -240.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -304.09 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +38.44 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +24.78 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 34.26 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 3.871 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +17 จุด อยู่ที่ 1,708

(+) BitCoinเช้านี้ +3.37% อยู่ที่ 60,534 ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ธ.กลางจีนคงดอกเบี้ย LPR 1 ปี, 5 ปี ที่ 3.35% และ 3.85%

Economic Calendar

ในประเทศ

19 ส.ค. สภาพัฒน์ แถลงตัวเลข GDP ไตรมาส 2/67

21 ส.ค. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 4/2567

สัปดาห์ที4 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์

กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย

ต่างประเทศ

20 ส.ค. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( ก.ค.)

21 ส.ค. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

22 ส.ค. US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( ส.ค.)

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( ส.ค.)

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

US รายงานการประชุมของ FOMC

US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) ( ก.ค.)

23 ส.ค. US คำกล่าวของนายพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ

US ยอดขายบ้านใหม่ ( ก.ค.)

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL*

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE*

(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*

(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio August 2024: GFPT*, CPALL, BH, CPF, THCOM