วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวก ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ จากสหรัฐเผยยอดค้าปลีกแข็งแกร่งเกินคาด บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของการใช้จ่ายผู้บริโภค นอกจากนี้ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากความคลี่คลายของสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ หลังจากสภาฯ มีมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มค้าปลีก อสังหาฯ และอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,303.00 จุด +13.16 จุด+1.02% มูลค่าการซื้อขาย 35,657.72 ลบ. (ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี +5.93 จุด +0.46%) Program Trading +177.41 ลบ. ต่างชาติ+334.60 ลบ. TFEX +21,707 สัญญา ตราสารหนี้ -2,587.23 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 96.70 จุด หรือ +0.24% และปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์เป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุดในรอบปีนี้ หลังนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐและมุ่งความสนใจไปที่การสัมมนาด้านเศรษฐกิจที่แจ็กสันโฮลใน
สัปดาห์หน้า
+ FedWatch ของ CME บ่งชี้ว่า ตลาดการเงินคาดว่า มีโอกาส74.5% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25%ในการประชุมเดือนก.ย. และมีโอกาสลดลงเหลือ 25.5% ที่ FEDจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50%
+ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกันแนะนำให้นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ยุติสงครามในฉนวนกาซาเร็วที่สุดในการหารือกันเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
+ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นนายกฯ คนที่ 31
+ กระทรวงการคลังเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นเสนอครม.ชุดใหม่เพื่อกระตุ้นการบริโภค มาตรการแบ่งเบาภาระประชาชน การดูแลกลุ่มที่ถูกยึดบ้าน ยึดรถจากความสามารถในการชำระหนี้ลดลงทำให้เป็นหนี้เสีย รวมถึงมาตรการเรียกความเชื่อมั่นตลาดทุนในการเสนอขายกองทุนรวมวายุภักษ์ให้รายย่อยวงเงิน 100,000-150,000 ล้านบาท
ปัจจัยลบ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.51 ดอลลาร์ หรือ -1.9% ปิดที่ 76.65 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่แทบไม่เปลี่ยนแปลงในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดต่ำกว่าระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่นักลงทุนลดคาดการณ์เกี่ยวกับการขยายตัวของอุปสงค์จากจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่
- เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับโลกยืนยันการติดเชื้อไวรัสโรคฝีดาษลิง (mpox virus) สายพันธุ์ใหม่ในสวีเดน และเชื่อมโยงกับการระบาดที่เพิ่มขึ้นในแอฟริกาซึ่งเป็นการระบาดนอกทวีปแอฟริกาเพียงหนึ่งวันหลังจากองค์การอนามัยโลก (WHO)ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับโลก
- เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮามาสกล่าวว่า อิสราเอลขัดขวางความพยายามในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา
- รัสเซียกล่าวว่า ทหารยูเครนริ่มโจมตีเป้าหมายพลเรือนในภูมิภาคเคิร์สก์ของรัสเซียด้วยขีปนาวุธที่ผลิตโดยชาติตะวันตกเป็นครั้งแรก
-นักวิชาการชี้ว่าโอกาสที่ GDP ของไทยในปีนี้เกิน 3% เป็นไปไม่ได้แล้วการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนงบประมาณปี 2567 ให้ได้ 75% ขึ้นไปทำได้ยากสำหรับรัฐบาลรักษาการ และการจัดตั้งรัฐบาลใหมต้องใช้อีกอย่างน้อย 1-2 เดือนอาจทำให้งบประมาณปี 2568 ล่าช้าออกไป
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้โอกาสปรับตัวขึ้น โดยมีแรงหนุนจากการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ส่งผลให้ Overhang ทางการเมืองถูกปลดล็อก ประกอบกับนักลงทุนมีความคาดหวังการเดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ มองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,295-1,310 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลงทุน DATA CENTER และ CLOUD SERVICE : GULF ADVANC TRUE INSET ITEL
• หุ้น ESG Rating เด่น (AAA) : ADVANC BANPU CPF PTTGC SCC
• สินค้าส่งออกเดือน มิ.ย. ที่เติบโตดี : STA NER TRUBB TEGH ITC AAI
• MSCI Global Standard Indexes เข้า – ออก AWC EA GPSC IVL MSCI Small Cap Indexes เข้า BJC EA KAMART TLI ออก BA BYD EPG NEX ORI PTG RBF THANI SC SJWD SKY SNNP THCOM มีผล 2 ก.ย.