สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 5 สิงหาคม 2567)---------บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (มหาชน) MINT เปิดเผยว่า ผลการดําเนินงานในไตรมาส 2 ปี2567 สูงสุดเป็นประวัติการณ์แสดงให้เห็นถึงโมเดลธุรกิจที่แข็งแกร่ง การมุ่งเน้นในเชิงกลยุทธ์และความยืดหยุ่นของสภาพแวดล้อม
ในไตรมาส 2 ปี2567 การดําเนินงานอย่างแข็งแกร่งของธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารเป็นส่วนสําคัญที่ช่วยผลักดันให้รายได้จากการดําเนินงานของ MINT เติบโตร้อยละ 10 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แตะระดับ 44,600 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของอุปสงค์การท่องเที่ยวและราคาห้องพักเฉลี่ยที่สูงขึ้นโดยเฉพาะในทวีปยุโรปและประเทศไทย รวมถึงการเปิดโรงแรมแห่งใหม่ ส่งผลให้หน่วยธุรกิจโรงแรมมีผลการดําเนินงานที่แข็งแกร่ง ในขณะเดียวกันจํานวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทยและสิงคโปร์เป็นผลมาจากการนําเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แคมเปญการตลาดที่ประสบความสําเร็จ และการขยายสาขา ซึ่งเป็นส่วนขับเคลื่อนพอร์ตโฟลิโอธุรกิจร้านอาหาร
ในไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัทมีกําไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษีและค่าเสื่อม จากการดําเนินงาน (Core EBITDA) เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 13,234 ล้านบาท ซึ่งเติบโตในอัตราที่น้อยกว่าการเติบโตของรายได้จากผลกระทบการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน หากไม่รวมผลกระทบด้านลบจากการตีมูลค่าใหม่นี้กําไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่าย ภาษีและค่าเสื่อมสามารถเติบโตได้สูงกว่าการเติบโตของรายได้ในอัตราสองหลักซึ่งการบริหารค่าใช้จ่ายหลัก การเพิ่มผลิตภาพทั้งในส่วนของธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และ สํานักงานของ MINT ถือเป็นปัจจัยสําคัญ
แม้จะมีผลกระทบด้านลบจากการตีมูลค่าจากการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ไม่เอื้ออํานวยดังกล่าวข้างต้น MINT สามารถสร้างผลกําไรสุทธิจากการดําเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2567 แตะระดับ 3,230 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 8จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหลักมาจากผลการดําเนินงานที่แข็งแกร่งของทุกหน่วยธุรกิจ หากไม่นับรวมผลกระทบดังกล่าวกําไรจากการดําเนินงานจะเติบโตได้กว่าร้อยละ 30
ในช่วง 6 เดือนแรกของปี2567 บริษัทมีรายได้จากการดําเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่องที่อัตราร้อยละ 12 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 82,248 ล้านบาท จากผลการดําเนินงานทางการเงินที่ดีขึ้นทั้งในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร โดย EBITDA จากการดําเนินงานช่วง 6 เดือนแรกของปี2567 เติบโตอัตราร้อยละ 13 มาอยู่ที่ 21,587 ล้านบาท ปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากรายได้และแพลตฟอร์มการดําเนินงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นของ MINTควบคู่ไปกับการบริหารภาษีและการใชผลขาดทุนทางภาษียกมา ส่งผลให้กําไรจากการดําเนินงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 เทียบกับปีก่อนเป็น 2,878 ล้านบาทในช่วง 6 เดือนแรกของปี2567หากนับรวมรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวตามรายละเอียดในภาคผนวก ในไตรมาส 2 ปี2567 MINT มีรายได้และ EBITDAตามงบการเงินเติบโตร้อยละ 9 และ 2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็นจํานวน 44,422 และ 12,913 ล้านบาท ตามลําดับ
ในขณะที่บริษัทมีผลกําไรตามงบการเงินจํานวน 2,823 ล้านบาท ในไตรมาส2 ปี2567 ลดลงร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับของปีก่อนที่จํานวน 3,255 ล้านบาท ในไตรมาส 2 ปี2566 โดยหลักมาจากการรับรู้ผลขาดทุนที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงจากสัญญาอนุพันธ์และการยกเลิกสัญญาเช่า โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี2567 บริษัทมีรายได้ตามงบการเงินเติบโตอัตราร้อยละ 12 เป็นจํานวน 82,473 ล้านบาท
ในขณะที่ EBITDA เติบโตในอัตราที่สูงกว่าการเติบโตของรายได้คิดเป็นร้อยละ 19 อยู่ที่ 22,836 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีผลกําไรตามงบการเงินจํานวน 3,969 ล้านบาท เติบโตอย่างมีนัยสําคัญที่อัตราร้อยละ 74 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องมาจากการดําเนินงานที่แข็งแกร่งและการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ดีในไตรมาส 1 ปี 2567