Today’s NEWS FEED

News Feed

ฟิทช์ คงอันดับเครดิตของธนาคารกรุงเทพที่ ‘BBB’ และ 'AA+(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

728

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(14 กรกฎาคม 2567)----------- ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ ระยะยาว (Long-Term Issuer Default Rating (IDR)) ของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ที่ ‘BBB’ และคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ 'AA+(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ พร้อมกันนี้ฟิทช์ประกาศคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคาร (Viability Rating หรือ VR) ที่ 'bbb' และคงอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล (Government Support Rating: GSR) ที่ 'bbb'

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินและอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลหนุนอันดับเครดิตของธนาคาร: อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ BBL อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน และอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล (GSR) อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ 'F2' เป็นตัวเลือกที่สูงกว่า เนื่องจากอันดับคะแนนปัจจัยด้านการระดมทุนและสภาพคล่องของ BBL อยู่ที่ 'bbb+' อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ BBL รวมการพิจารณาถึงโครงสร้างเครดิตของธนาคารในเชิงเปรียบเทียบกับธนาคารหรือบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับในประเทศ

แนวโน้มการเติบโตค่อนข้างจำกัดในระยะสั้น: แนวโน้มของธุรกิจธนาคารในประเทศไทยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของโควิด แต่อย่างไรก็ตามแนวโน้มการเติบโตอาจจะปรับตัวดีขึ้นอีกได้ไม่มากนัก เนื่องจากฟิทช์ยังคาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจ (GDP) น่าจะยังคงอยู่ในระดับที่ไม่สูงนักที่ 2.6% ในปี 2567 ฟิทช์ให้อันดับคะแนนปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่ 'bbb' ซึ่งเป็นในระดับที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับอันดับคะแนนตามเกณฑ์ซึ่งจะอยู่ในกลุ่ม 'bb' ตามเกณฑ์การพิจารณาของฟิทช์ เนื่องจากฟิทช์เชื่อว่ารัฐบาลไทย (BBB+/Stable) จะช่วยสนับสนุนเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคและและระบบการเงิน

มีเครือข่ายทางธุรกิจชั้นนำ: อันดับคะแนนปัจจัยด้านโครงสร้างการดำเนินธุรกิจของ BBL อยู่ที่ 'bbb+' เนื่องจากธนาคารมีเครือข่ายธุรกิจครบวงจรและแข็งแกร่ง อีกทั้งยังมีรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่หลากหลาย มีส่วนแบ่งทางการตลาดขนาดใหญ่ และมีความเชี่ยวชาญกว่าธนาคารอื่นในด้านธุรกิจสินเชื่อลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ โดยจุดแข็งดังกล่าวช่วยเสริมสร้างขนาดธุรกิจและชื่อเสียงของธนาคาร ซึ่งช่วยให้ธนาคารสามารถรักษาปริมาณธุรกิจและกำไรได้ตลอดวัฏจักรเศรษฐกิจ ในขณะที่ยังควบคุมความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โครงสร้างความเสี่ยงทรงตัว: อันดับคะแนนปัจจัยด้านโครงสร้างความเสี่ยงของ BBL ที่ 'bbb' สะท้อนถึงมาตรฐานการพิจารณาสินเชื่อที่รอบคอบ การตั้งสำรองสินเชื่อด้อยคุณภาพอย่างระมัดระวัง และการติดตามเฝ้าระวังความเสี่ยงที่ใกล้ชิดเมื่อเทียบกับธนาคารอื่นในประเทศ อัตราการเติบโตของสินเชื่ออยู่ในระดับที่ต่ำตั้งแต่การเข้าซื้อกิจการของ Permata ในปี 2563 และฟิทช์คาดว่าการเติบโตของสินเชื่อน่าจะยังคงอยู่ในระดับที่ไม่สูงนักในปี 2024
คุณภาพสินทรัพย์ทรงตัว: อันดับคะแนนปัจจัยด้านคุณภาพสินทรัพย์ของ BBL ที่ 'bbb-' สะท้อนถึงความสามารถในการรับมือกับความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง ธนาคารมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมลดลงมาอยู่ที่ 3.4% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2567 จาก 4.5% ณ สิ้นปี 2563 และมีอัตราส่วนสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพที่สูงมาก ( 279% ในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 เทียบกับค่าเฉลี่ยของภาคธนาคารที่ 173%) เราคาดว่าคุณภ่พสินทรัพย์จะยังทรงตัว ซึ่งส่งผลให้ธนาคารยังสามารถมีคุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับตัวด้อยลงได้อีกพอสมควร โดยไม่ส่งผลให้ถูกปรับลดอันดับคะแนนจากปัจจุบัน (solid headroom)

แนวโน้มกำไรปรับตัวดีขึ้น: ความสามารถในการทำกำไรของ BBL ได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากอัตราส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ที่ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต อันดับคะแนนปัจจัยด้านความสามารถในการทำกำไรของธนาคารที่ 'bbb-' ได้รวมการปรับเพิ่มอันดับคะแนนไปแล้ว เนื่องจากฟิทช์คาดว่าว่าธนาคารน่าจะมีผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนความสามารถในการทำกำไรเฉลี่ย 4 ปี ของ BBL จะปรับตัวขึ้นมาสอดคล้องกับกลุ่ม 'bbb' โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากฐานลูกค้าที่กว้างขวางและแหล่งรายได้ที่หลากหลาย รวมถึงค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองหนี้สูญที่ลดลง

ฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่งขึ้น: อันดับคะแนนปัจจัยด้านเงินกองทุนและระดับหนี้สินของ BBL ที่ 'bbb+' สะท้อนถึงความคาดหวังของฟิทช์ว่า BBL จะสามารถเพิ่มอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ (CET1) ให้กลับไปอยู่ที่ระดับมากกว่า 16% ได้ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า (ไตรมาส 1 ปี 2567: 15.6%) โดยอัตราส่วนเงินกองทุนหลักจะได้รับการสนับสนุนจากกำไรที่ปรับตัวดีขึ้น การเติบโตของสินเชื่อในระดับปานกลาง และการรักษาระดับการจ่ายเงินปันผลแบบมีวินัย

การระดมทุนและสภาพคล่องแข็งแกร่ง: อันดับคะแนนปัจจัยด้านการระดมทุนและสภาพคล่องของ BBL ที่ 'bbb+' รวมการพิจารณาถึงฐานลูกค้าเงินฝากและสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง ซึ่งสะท้อนผ่านอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากที่ดีกว่าธนาคารอื่นโดยอยู่ที่ประมาณ 86% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2567 (ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม: 92%) และอัตราส่วนของปริมาณสินทรัพย์สภาพคล่องทั้งสิ้น (LCR) เฉลี่ยที่สูงกว่าธนาคารอื่นโดยอยู่ที่ประมาณ 277% ในไตรมาส 4 ปี 2566

อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลสะท้อนถึงความสำคัญเชิงระบบ: อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล (GSR) ของ BBL สะท้อนถึงความเชื่อของฟิทช์ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ธนาคารจะได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษนอกเหนือจากการดำเนินงานตามปกติจากรัฐบาลไทยในกรณีที่จำเป็น BBL เป็นหนึ่งในธนาคารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดของเงินฝากประมาณ 16% ในปี 2566 นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยยังได้กำหนดให้ BBL เป็นธนาคารที่มีความสำคัญเชิงระบบในประเทศ (D-SIB)

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
การปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ BBL จะเกิดขึ้นเมื่อทั้งอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลและอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินถูกปรับลดอันดับลงพร้อมกัน อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารอาจได้รับการปรับลดเป็น 'AA(tha)' หากฟิทช์มองว่าโครงสร้างเครดิตของธนาคารปรับตัวอ่อนแอลงเมื่อเทียบกับธนาคารอื่นที่ได้รับการจัดอันดับในประเทศไทย

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นของธนาคารอาจถูกปรับลดอันดับหากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคารถูกปรับลดลงเป็น 'BBB-'

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารอาจถูกปรับลดอับดับลงเป็น 'bbb-' หากอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญของธนาคารปรับตัวแย่ลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจสะท้อนถึงโครงสร้างธุรกิจของธนาคารและโครงสร้างความเสี่ยงที่อ่อนแอลงมากกว่าที่ฟิทช์คาดการณ์ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวอาจบ่งชี้ได้จากอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพเฉลี่ย 4 ปี ที่ระดับ 6% หรือสูงกว่า ร่วมกับความสามารถในการรองรับความเสี่ยงที่อ่อนแอลง เช่น อัตราส่วน CET1 ที่ต่ำกว่า 13% อัตราส่วนสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพที่ต่ำกว่า 120% และค่าเฉลี่ย 4 ปีย้อนหลังของอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ต่ำกว่า 1.5% (1.7% ในปี 2563)

อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลอาจถูกปรับลดอันดับหากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทยถูกปรับลด ซึ่งจะบ่งชี้ถึงความสามารถที่ลดลงของรัฐบาลในการสนับสนุนธนาคารที่มีความสำคัญเชิงระบบ การลดลงของโอกาสที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ BBL อาจทำให้อันดับเครดิตถูกปรับไปในทางลบเช่นกัน เช่น ส่วนแบ่งการตลาดของธนาคารที่ลดลงอย่างมากหรือมีการเปลี่ยนแปลงของกฎระเบียบอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ฟิทช์เชื่อว่ามีความเป็นไปได้ค่อนข้างน้อยที่โอกาสที่ BBL จะได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลจะปรับตัวลดลงในระยะปานกลาง

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ และอันดับเครดิตภายในประเทศของ BBL อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับหากอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลหรืออันดับความแข็งแกร่งทางการเงินได้รับการปรับเพิ่มอันดับ ทั้งนี้ฟิทช์จะพิจารณาถึงโครงสร้างอันดับเครดิตของธนาคารเทียบกับธนาคารอื่นในประเทศที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศด้วยเมื่อพิจารณาอันดับเครดิตภายในประเทศของ BBL

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ BBL อาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับเป็น 'bbb+' ในอนาคต หากธนาคารดำเนินการตามกลยุทธ์ได้สำเร็จและนำไปสู่การปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของผลการดำเนินงานโดยที่ธนาคารไม่ได้ยอมรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้น การปรับตัวดีขึ้นดังกล่าวอาจสะท้อนถึงสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานทรงตัว (หากไม่ได้แข็งแกร่งขึ้น) ซึ่งมีส่วนทำให้อัตราส่วนสำคัญทางการเงินมีการปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและยั่งยืน เช่น อัตรากำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยงเฉลี่ยในระดับที่สูงกว่า 2.5% และอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพโดยเฉลี่ยลดลงต่ำกว่า 3% รวมกับการดำรงความสามารถในการรองรับความเสี่ยงอื่นๆ เช่น อัตราส่วนเงินกอทุนชั้นที่ 1 (CET1) ที่ระดับสูงกว่า 16%

อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลอาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับหากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทยได้รับการปรับเพิ่มอันดับ ซึ่งบ่งชี้ถึงความสามารถของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นในการสนับสนุนธนาคารที่มีความสำคัญเชิงระบบ เช่น BBL อย่างไรก็ตาม ฟิทช์จะพิจารณาด้วยว่าโอกาสของรัฐบาลในการให้การสนับสนุนแก่ธนาคารจะยังคงอยู่ในระดับเดิมหรือไม่

อันดับเครดิตหุ้นกู้และอันดับเครดิตอื่น
หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ BBL ได้รับการจัดอันดับเครดิตให้อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวนับเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของธนาคาร

หุ้นกู้ด้อยสิทธิ
อันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของ BBL (ซึ่งรวมทั้งหุ้นกู้ด้อยสิทธิรุ่นเก่าและหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์บาเซล 3) ได้รับการจัดอันดับที่ระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตอ้างอิง (ซึ่งคืออันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน) อยู่สองอันดับ เพื่อสะท้อนความเสี่ยงของการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้ (loss-severity risk) ที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่ไม่ด้อยสิทธิ แม้ว่าหุ้นกู้ด้อยสิทธิชุดเก่าไม่ได้มีการระบุเงื่อนไขเรื่องการไม่สามารถดำเนินกิจการของธนาคาร (point-of-non-viability) ไว้ แต่ฟิทช์มองว่าโอกาสสูญเสียจะเทียบเคียงได้กับของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์บาเซล 3 เนื่องจากมีลำดับความสำคัญของการอ้างสิทธิ์ที่คล้ายคลึงกัน ทั้งนี้ไม่ได้มีการลดทอนอันดับเครดิตเพิ่มเติมเนื่องจากข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวไม่ได้มีคุณสมบัติรองรับผลขาดทุนในระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption) ทั้งนี้แนวทางการลดทอนอันดับเครดิตอันดับเครดิตอ้างอิงนั้นเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของฟิทช์ในการจัดอันดับเครดิตตราสารประเภทดังกล่าว

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ BBL อาจถูกปรับลดอันดับลงหากมีการปรับลดอันดับเครดิตอ้างอิงซึ่งคืออันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว

การปรับลดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารจะส่งผลให้อันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิของ BBL ได้รับการปรับลดอันดับ

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวน่าจะส่งผลให้อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของธนาคารได้รับการปรับเพิ่มอันดับ

อันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิของ BBL จะได้รับการปรับเพิ่มอันดับหากอันดับเครดิตอ้างอิงซึ่งคืออันดับความแข็งแกร่งทางการเงินได้รับการปรับเพิ่มอันดับ

การปรับคะแนนของปัจจัยในการพิจารณาอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน
อันดับคะแนนที่ให้แก่ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่ 'bbb' อยู่สูงกว่าคะแนนตามเกณฑ์ซึ่งอยู่ในกลุ่ม 'bb' เนื่องจากการปรับเพิ่มคะแนนด้วยปัจจัยด้าน 'อันดับเครดิตของประเทศ'

อันดับคะแนนที่ให้แก่ปัจจัยด้านความสามารถในการทำกำไรที่ 'bbb-' อยู่สูงกว่าคะแนนตามเกณฑ์ซึ่งอยู่ในกลุ่ม 'bb' เนื่องจากการปรับเพิ่มคะแนนด้วยปัจจัยด้าน 'เกณฑ์ชี้วัดในอดีตและอนาคต'

การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
ระดับคะแนนที่สูงที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ของ ESG ต่ออันดับเครดิต (หากมีการเปิดเผย) แสดงว่าระดับคะแนนจะอยู่ที่ระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของธนาคารก็ตามสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมหาได้จาก www.fitchratings.com/esg

อันดับเครดิตที่มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตอื่น
อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลของ BBL มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของประเทศไทย

BBL:
รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดมีดังนี้
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘BBB’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ ‘F2’
- อันดับความเข็งแกร่งทางการเงิน คงอันดับที่ ‘bbb’
- อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล คงอันดับที่ 'bbb'
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘AA+(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ ‘F1+(tha)’
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน คงอันดับที่ ‘BBB’
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ด้อยสิทธิคงอันดับที่ ‘BB+’

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

ปลุกหุ้นใหญ่ By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย สูตรเดิม มักใช้ได้เสมอ ใช้หุ้นDELTA นำ ตามด้วย .....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้