Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.ทิสโก้ : STEC คงคำแนะนำ "ถือ" ปรับมูลค่าเหมาะสมใหม่เป็น 10.00 บาท

552

 

STEC : การแบ่งปันขาดทุนจะยังคงกดดันรายได้


การปรับปรุงที่คาดหวังจาก 2Q แต่การแบ่งปันผลขาดทุนจะยังคงกระทบต่อกำไรสุทธิ
ข้อมูลจากการประชุมนักวิเคราะห์ของ STEC ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มที่ดีสำหรับธุรกิจก่อสร้างของบริษัท เนื่องจากรายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าและพลังงานที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงจะเพิ่มขึ้น รายได้ใน 2Q จะได้รับแรงหนุนจากรายได้เงินปันผลด้วย ในขณะที่การแบ่งปันผลขาดทุนจากสายสีเหลืองและสายสีชมพูจะยังคงเป็นตัวกดดัน แต่การประมูลโครงการสาธารณะใหม่ที่จะมาถึงน่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้ คงคำแนะนำ "ถือ"

ผลประกอบการใน 1Q ที่สูงกว่าคาดเป็นเนื่องจากรายได้จากการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนประกันและกำไรจากการขายสินทรัพย์
ผลประกอบการใน 1Q ของ STEC ที่สูงกว่าคาดเกิดจากอัตรากำไรขั้นต้นและรายได้อื่นๆ ที่สูงกว่าที่คาด โดยอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าคาดมาจากการรับค่าสินไหมทดแทนประกันสำหรับโครงการหนองบอน หากไม่นับรายการนี้ เราประมาณว่าอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 5.1% (จาก 5.9%) โดย STEC ยังมีรายได้อื่นๆ จากการขายเครื่องจักรจำนวน 19 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ผลขาดทุนจากการแบ่งปันผลขาดทุนรวมของรถไฟฟ้าสายสีชมพู สายสีเหลือง และสถานีรถไฟฟ้าอยุธยารวม 146 ล้านบาท สูงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้

คาดว่ากำไรจะดีขึ้นจากเงินปันผลและรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น
เราคาดว่ากำไรใน 2Q จะดีขึ้น QoQ จากรายได้เงินปันผล 193.6 ล้านบาทจาก GULF และรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 5 แห่งที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง แนวโน้มของรายได้จากธุรกิจก่อสร้างและอัตรากำไรขั้นต้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ก็เป็นบวกเช่นกัน เมื่อคำนึงถึงการก่อสร้างโครงการที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 5 แห่ง โครงการของบริษัทไทยออยล์ โรงไฟฟ้าปลวกแดงและหินกอง รถไฟฟ้าสายสีม่วง และรถไฟสายคู่เด่นชัย นอกจากนี้ โครงการก่อสร้าง data center มูลค่า 7.2 พันล้านบาทน่าจะเริ่มในช่วง 2H24 เรายังคาดว่า STEC จะชนะการประมูลโครงการภาครัฐและเอกชนบางส่วนมูลค่ารวม 3.68 แสนล้านบาทในปีนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม การแบ่งปันผลขาดทุนจากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพูจะยังคงกดดันกำไรสุทธิ

คงคำแนะนำ "ถือ" สำหรับ STEC พร้อมปรับมูลค่าที่เหมาะสมใหม่เป็น 10.00 บาท
เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิในปี 2024-2026F ลง 17-27% เนื่องจากเราปรับเพิ่มประมาณการส่วนแบ่งผลขาดทุนจากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพู และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย แม้ว่าจะมีการชดเชยบางส่วนจากการคาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น เรายังเปลี่ยนวิธีการประเมินมูลค่าเป็นวิธี Sum-of-the-Parts (SOTP) ซึ่งสะท้อนการลงทุนของบริษัทได้ดีกว่า ดังนั้น มูลค่าที่เหมาะสมของเราจึงปรับจาก 9.00 บาท เป็น 10.00 บาท เนื่องจากมีพื้นที่ปรับขึ้นค่อนข้างจำกัดและแนวโน้มกำไรของบริษัทปานกลาง เราจึงคงคำแนะนำ "ถือ" ไว้ ซึ่งมีความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ การไม่มีโครงการใหม่ ต้นทุนก่อสร้างสูงกว่าประมาณการ และต้นทุนวัสดุและค่าแรงที่สูงขึ้น แรงหนุนที่อาจเกิดขึ้นมาจากการรับค่าชดเชยสำหรับการซ่อมแซมอุโมงค์โครงการหนองบอนจากบริษัทประกัน

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้