Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: แกะรอยงบปี60 STEC พลิกขาดทุนกว่า610ลบ.

901

 

 
 
 

HotNews: แกะรอยงบปี60  STEC
พลิกขาดทุนกว่า610ลบ.

  สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 15 กุมภาพันธ์   2561)--------แกะรอยงบปี60  STEC  พลิกขาดทุนกว่า610ลบ.  จากปี59  มีกำไร1.38 พันลบ.   "ภาคภูมิ ศรีชำนิ"  บิ๊ก STEC  ขอแจกแจงสาเหตุ STEC   พลิกขาดทุน เหตุเกิดจากตั้งสำรองขาดทุนโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ จากราคาวัสดุก่อสร้าง-ค่าแรงพุ่ง   เผชิญปัญหาการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้าง  ด้านรายได้รวมปี60 โต14 %  หลังชนะประมูลงานก่อสร้างโครงการใหม่เพิ่มขึ้น
นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ  บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) STEC   เปิดเผยว่า  ผลการดำเนินงานปี 2560 ขาดทุนสุทธิ 610.83 ล้านบาท จากปี 2559 ที่มีกำไรสุทธิ 1.38 พันล้านบาทสาเหตุมาจากต้นทุนงานก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นจากการบันทึกสำรองผลขาดทุนของโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่อันเนื่องจากราคาของวัสดุก่อสร้างและค่าแรง มีการปรับตัวในทิศทางที่สูงขึ้นอย่างเป็นสาระสำคัญ ประกอบกับมีการขยายระยะเวลาในสัญญางานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่อันเป็นผลสืบเนื่องจากปัญหาการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างของเจ้าของโครงการที่เป็นผลจากปัจจัยภายนอกที่ไม่อาจควบคุมได้
ทั้งนี้บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวมในปี2560 เท่ากับ 21,159  ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2559 จำนวน 2,535 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 14 % ซึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทและบริษัทย่อยสามารถชนะการประมูลงานก่อสร้างโครงการใหม่ได้เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจและนโยบายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางด้านการขนส่งของภาครัฐ โดยรายได้หลักที่สำคัญ ได้แก่ รายได้จากการก่อสร้างจำนวน 20,015 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,119 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12% กำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนจำนวน 173 ล้านบาท กำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเงินลงทุนชั่วคราวจำนวน 800 ล้านบาท ดอกเบี้ยรับจำนวน 44 ล้านบาท และเงินปันผลรับ 21 ล้านบาท
ด้านค่าใช้จ่าย บริษัทและบริษัทย่อยมีค่าใช้จ่ายรวม ปี 2560 เท่ากับ 21,965 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2559 จำนวน5,062 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 30 % เป็นผลมาจากต้นทุนงานก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นจากการบันทึกสำรองผลขาดทุนของโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ โดยสาเหตุหลักของการเปลี่ยนแปลงสืบเนื่องจากในภาวะการณ์ปัจจุบัน ราคาของวัสดุก่อสร้างและค่าแรง มีการปรับตัวในทิศทางที่สูงขึ้นอย่างเป็นสาระสำคัญ ประกอบกับมีการขยายระยะเวลาในสัญญางานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่อันเป็นผลสืบเนื่องจากปัญหาการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างของเจ้าของโครงการที่เป็นผลจากปัจจัยภายนอกที่ไม่อาจควบคุมได้ ทำให้บริษัทฯจำเป็นต้องทบทวนต้นทุนโครงการอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง จากการทบทวน บริษัทฯ พบว่าภายใต้ภาวะการณ์ดังกล่าวในปัจจุบัน จะเกิดผลขาดทุนจากโครงการระยะยาวขึ้น
ดังนั้น บริษัทฯจึงได้ทำการบันทึกผลขาดทุนดังกล่าวไว้ในงบกำไรขาดทุนของปี2560  ทั้งนี้ บริษัทฯเชื่อว่าหากภาวะการณ์ต่างๆไม่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเป็นสาระสำคัญแล้ว จำนวนสำรองที่บันทึกไว้เพียงพอในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยค่าใช้จ่ายหลักที่สำคัญ ได้แก่ต้นทุนงานก่อสร้างจำนวน  21527  ล้านบาท   เพิ่มขึ้น 5,197 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 32% และค่าใช้จ่ายในการบริหารจำนวน 419 ล้านบาท ลดลง 135 ล้านบาท หรือลดลง 24%

บล.เอเซีย พลัส  ระบุในบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ว่า เช้านี้ STEC รายงานงบปี 2560 ขาดทุน 610.82 ล้านบาท เทียบกับที่กำไรสุทธิ 1380 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากต้นทุนการก่อสร้างบางแห่งที่เกินกว่าแผน ซึ่งส่วนใหญ่มารับรู้ผลขาดทุนในงวด 4Q60 ซึ่งนักวิเคราะห์กลุ่มก่อสร้างกำลังอยู่ระหว่างการปรับลดประมาณการและ มูลค่าหุ้นปี 2561 
ขณะที่บล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส  ออกบทวิเคราะห์เปิดเผยว่า   STEC แจ้งข่าวดีว่าได้รับงานใหม่เพิ่มเป็นงานก่อสร้างโรงไฟฟ้ามูลค่า 2 หมื่นล้านบาท จาก Gulf PD Co.,Ltd. โดยมีขนาดรวม 5พันเมกะวัตต์ ขณะที่บริษัทมีงานก่อสร้างในมือ (Backlog) ปัจจุบันที่สูงมากถึง 100 พันล้านบาท  เราคาดว่าโครงการนี้จะเป็นตัวช่วยสนับสนุนเพิ่มกำไรของ STEC ได้เป็นอย่างดี เพราะปกติแล้วงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าจะให้อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับที่สูงคือ ประมาณ 15% มากกว่างานก่อสร้างเกี่ยวกับสาธารณูปโภคทั่วไปที่น้อยกว่า 10%   ดังนั้นเราจึงคงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาพื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลงที่ 27.00 บาท ซึ่งประเมินด้วย P/E ปี 61 ที่ 31 เท่า ทั้งนี้เราจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากการประชุมนักวิเคราะห์ในวันที่ 15 ก.พ.61 นี้ เพื่อจะปรับประมาณการและคำแนะนำให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น
บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะนำ  TRADING BUY เป้าหมาย 30 บาท    STEC มีฐานะการเงินแข็งแกร่งมีเงินสดและเงินลงทุนชั่วคราวสุทธิเท่ากับ 5.6 พันล้านบาท  ในขณะที่มีเงินกู้ระยะสั้นเพียง 500 ล้านบาท  เราประเมินราคาเป้าหมายปี 2561 เท่ากับ 30บาท บนฐาน Avg P/E+1SD = 29x  คงแนะนำ TRADING BUY 
ได้งานก่อสร้างโรงไฟฟ้าของ GULF 2 แห่ง มูลค่าราว 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งงานสร้างโรงไฟฟ้าเป็นงานที่ STEC ถนัดและมีกำไรดี  ช่วยเพิ่มงานในมือ STEC ปัจจุบัน 1 แสนล้านบาท เป็น 1.2 แสนล้านบาท  ในปีก่อน STEC ได้งานใหม่ถึง 7.5 หมื่นล้านบาท  ปีนี้มีแนวโน้มจะได้งานใหม่ต่อเนื่อง ช่วยหนุนผลประกอบการในปีนี้ และ ในอนาคตเติบโตโดดเด่นขึ้นหลังจากที่ผลประกอบการในปีที่ผ่านมาจะยังน่าผิดหวัง  STEC มีฐานะการเงินแข็งแกร่งมีเงินสดสูง  คงคำแนะนำ TRADING BUY เป้าหมาย 30 บาท      
STEC แจ้งตลาดฯระบุว่า บริษัทในนามของคอนซอร์เตียม ได้ลงนามสัญญาก่อสร้าง (Construction Contract) โรงไฟฟ้าของกลุ่มบมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) รวม 2 แห่ง คิดเป็นมูลค่าส่วนงานของบริษัทรวม 19,915 ล้านบาท  โดยเป็น  1.) โครงการโรงไฟฟ้ากัลฟ์ศรีราชา ของบริษัท กัลฟ์ เอสอาร์ซี จำกัด  มูลค่าโครงการเฉพาะส่วนงานของบริษัท มูลค่าราว 10,046 ล้านบาท  2.) โครงการโรงไฟฟ้ากัลฟ์ปลวกแดง ของบริษัท กัลฟ์ พีดี จำกัด มูลค่าโครงการเฉพาะส่วนงานของบริษัทราว 9,869 ล้านบาท  โดยทั้ง 2 โครงการ มีขอบเขตงานก่อสร้าง ประกอบด้วย  งานออกแบบ (บางส่วน)  งานจัดหาภายในประเทศ  งานก่อสร้าง  ประกอบด้วย งานโยธา งานโครงสร้าง  งานอาคาร  งานระบบสาธารณูปโภค งานเครื่องกล  งานระบบไฟฟ้าและระบบควบคุม งานติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์ งานท่อก๊าซธรรมชาติและสถานีวัดปริมาณก๊าซธรรมขาติ และงานอื่น ๆ 
  งานสร้างโรงไฟฟ้าเป็นงานที่ STEC ถนัด และมีกำไรดี งานที่เพิ่ม 19,915 ล้านบาท จะช่วยเพิ่มงานในมือ STEC ปัจจุบัน 1 แสนล้านบาท เป็น 1.2 แสนล้านบาท  ในปีก่อน STEC ได้งานใหม่ถึง 7.5 หมื่นล้านบาท แม้ว่าจะมีการประมูลงานน้อย  ปีนี้จะมีการประมูลงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลมากขึ้น ซึ่ง STEC ก็มีศักยภาพที่จะได้งานใหม่ต่อเนื่อง  คาดจะช่วยหนุนผลประกอบการของ STEC ในปี 2561 และ ในอนาคต มีการเติบโตโดดเด่น  หลังผลประกอบการในปีที่ผ่านมาน่าผิดหวังหนัก เราประเมินกำไรในปี 2560 จะติดลบ 30% เหลือ 967 ล้านบาท  แต่ปี 2561-2562 จะโตสูง เป็น 1,596 ล้านบาท (+65%YoY) และ 1,848 ล้านบาท (+16%YoY) ตามลำดับ 


---จบ--- 


 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

NER พบนักลงทุนในงาน Opportunity Day ประจำไตรมาส 1/2567

NER พบนักลงทุนในงาน Opportunity Day ประจำไตรมาส 1/2567

ไต่ขึ้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เช้านี้ หุ้นอิงการบริโภคในประเทศ โดยเฉพาะ CPF รับบทเป็นพระเอกดันSET ไต่ขึ้น ส่วนหุ้นแบงก์....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้