News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

10 พ.ค. 2567 09:04:22 153

Market Wrap-Up

SET วันที่ 9 พ.ค.67 ปิด -4.04 จุด อยู่ที่ 1,369.29 จุด มูลค่าการซื้อขาย 39,857 ลบ.ต่างชาติขาย 1,280 ลบ.สถาบันซื้อ 47 ลบ.รายย่อยซื้อ 1,363 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 405 ลบ. มียอดซื้อสุทธิในหุ้น AOT,BDMS,BBL,KBANK,ADVANC และมียอดขายสุทธิ KTB,IVL,SCC,PTTEP,KTC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 4,917 ลบ. หุ้นที่มีปริมาณ Short สูงคือ HK01,LVMH01,EKH โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 5,157 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 26,754 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 1,930 ลบ.
ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.85%, S&P500 +51%, Nasdaq +0.27% นำโดยกลุ่มอสังหา +2.31%, สาธารณูปโภค +1.52% หลังตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สูงกว่าคาด ส่งผลให้เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ย 2 ครั้งปีนี้ ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยี -0.25% หลัง ARM Holdings -2.3% หลังรายได้ปี 67 อาจต่ำกว่าคาดการณ์นักวิเคราะห์ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.19% ได้แรงหนุนจากกลุ่มอุต ฯ เช่น ซีเมนต์, เอบีบี และ ธ.ซาบาเดลของสเปน +3.1% หลังถูก ธ.บีบีวีเอเข้าเทคโอเวอร์ด้วยวงเงิน 1.22 หมื่น ล.ยูโร

Market View

ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับขึ้น หลังตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐเพิ่มขึ้น 22,000 อยู่ที่ 231,000 ราย สูงกว่าคาดที่ 215,000 ราย และสูงสุดในรอบ 8 เดือน กอปรกับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ เม.ย.อยู่ที่ 175,000 & มี.ค. 315,000 ตำแหน่ง บ่งชี้ตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มชะลอตัว ดังนั้น CME Fed Watch ชี้โอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ส่งผลให้ US Bond Yield 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.45% โดยสัปดาห์หน้า 14 พ.ค. ติดตาม US PPI เม.ย. และ 15 พ.ค. US CPI เม.ย. เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐ
ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ได้แรงหนุนจากกลุ่มอุตสาหกรรม, ธนาคาร และ LSEG เผย บจ.ใน Stoxx600 จำนวน 61% รายงานกำไร Q1/67 ดีกว่าคาด ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 54% ขณะที่การประชุม BOE มีมติ 7 – 2 คงดอกเบี้ยที่ 5.25% โดยมี 2 เสียงหนุนให้ลดดอกเบี้ย ซึ่ง ปธ.BOE ชี้มีโอกาสที่จะลดดอกเบี้ยลงมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อมูลเงินเฟ้อ
ฝั่งเอเชียวานนี้ ฮั่งเส็ง +1.22%, เซี่ยงไฮ้ +0.83% หลังจีนเผยตัวเลขส่งออก เม.ย. +1.5% & มี.ค. -7.5% YoY และนำเข้าจีน เม.ย. +8.4% & มี.ค. -1.9% YoY บ่งชี้อุปสงค์การนำเข้าของตลาดจีนมีสัญญาณฟื้นตัว ขณะที่นิเกอิ -0.34% หลัง ปธ.BOJ เผยอาจจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินที่ตึงตัวขึ้น หากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าส่งผลให้เงินเฟ้อปรับสูงขึ้น
ดัชนี SET วานนี้ -29% ปริมาณการซื้อขาย 3.9 หมื่น ลบ.ต่างชาติขาย 1.28 พัน ลบ. พอร์ตโบรกขาย 130 ลบ. รายย่อยซื้อ 1.36 พัน ลบ. สถาบันซื้อ 47 ลบ. โดยดัชนีถูกกดดันจากกลุ่มอิเล็ก ฯ -2.2% ที่ผันผวนตามกลุ่มเทคฯ ในตลาดเอเชียเหนือ และกลุ่มปิโตรเคมี -1.3% หลัง TOP, BCP รายงานกำไร Q1/67 ใกล้เคียงกับคาดการณ์ แต่กำไร Q2/67 มีแนวโน้มชะลอตัว ขณะที่กลุ่มที่ช่วยหนุนดัชนี คือ ประกัน +3.9% หลัง BLA รายงานกำไร Q1/67 ดีกว่ากว่าคาดจากต้นทุนต่อรายได้ประกันรับสุทธิลดลง และกลุ่มท่องเทียว, ขนส่ง, รพ. และค้าปลีก ที่ตลาดคาดกำไร Q1/67 จะขยายตัวดีตามอุปสงค์การบริโภคในประเทศ รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินเข้าไทย +40% YoY โดยภาพรวม บจ. 140 แห่งที่ส่งงบแล้วกำไร Q1/67 -6.6% YoY แต่ดีกว่าคาด +3.5%

Daily Strategy

วางแนวรับดัชนี SET ที่ 1,363 – 1,365 แนวต้าน 1,375 – 1,380 คาดมีโอกาสรีบาวน์ หลังเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยในช่วง ก.ย. และรอรายงานงบ บจ. Q1/67 แนะนำซื้อเก็งกำไร GFPT,ASIAN, AAI, TKN กำไร Q1/67 ดีกว่าคาด
MINT* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 40.50 บาท) มองข้ามผลประกอบการ 1Q67 ที่เป็นจุดต่ำสุดของปีเนื่องจากเป็น low season ของโรงแรมในยุโรป และธุรกิจอาหารมี SSSG ลดลงจากร้านอาหารในจีนและออสเตรเลีย ส่วนแนวโน้มผลประกอบการ 2Q67 จะกลับมามีกำไรปกติดีขึ้นทั้ง QoQ, YoY จากการเข้าสู่ high season ที่ยุโรป เป็นตัวหนุน RevPar และมีโมเมนตัมบวกต่อจากการแข่งขันฟุตบอลยุโรป และการแข่งขันโอลิมปิก ทั้งนี้ในปี 67 ตลาดคาดกำไร 8 พันล้านบาท +48%YoY
GFPT* (ซื้อเก็งกำไร/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 14.20 บาท) กำไรสุทธิงวด 1Q67 อยู่ที่ 466 ลบ., +13.5%QoQ, +56.3%YoY สูงกว่า BB Consensus +12.3% โดยปัจจัยบวกหลัก คือ เนื้อไก่แปรรูปส่งออกที่ Volume ขาย +20.3%YoY(+กลุ่มลูกค้า UK/EU) ขณะที่ฝั่ง Equity Income +115%YoY จากการส่งออกไก่แปรรูปปรุงสุกของทั้ง GFN และ McKey ด้านการดำเนินงานระยะถัดไป 2Q67 คาดว่าจะยังอยูในเกณฑ์ดี มีแรงหนุนจากการส่งออก, ราคาอาหารสัตว์ที่ยังอยู่ในระดับไม่สูง และราคาไก่ไทยมีแนวโน้มที่ดีเดือนเม.ย.67 +MoM +YoY

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI มิ.ย. +$0.27 อยู่ที่ $79.26/บาร์เรล Brent ก.ค. +$0.30อยู่ที่ $83.88/บาร์เรล หลังจีนเผยตัวเลขนำเข้าน้ำมันดิย เม.ย. อยู่ที่ 44.72 ล.ตัน +5.45% YoY กอปรกับ EIA รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 1.4 ล. บาร์เรล

Gold Update(+) Comex Gold มิ.ย. +$18.00 อยู่ที่ $2,340.30 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจากคาดการณ์เฟดจะลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ หลังจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐเพิ่มขึ้นสูงกว่าคาด

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ
-61.16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -34.67 ล.ดอลลาร์ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -26.49 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านีแข็งค่าอยู่ที่ 36.69 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.448 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -37 จุด อยู่ที่ 2,166

(+) BitCoin เช้านี้ +2.05% อยู่ที่ 62,809 ดอลลาร์สหรัฐ

Economic Calendar

ในประเทศ

07 พ.ค. สภาผู้ส่งออก แถลงสถานการณ์การส่งออก

08 พ.ค. ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.)

สัปดาห์ที2 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและ

อัพเดตสถานการณ์ลงทุน

หอการค้าไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความ

เชื่อมั่นผู้บริโภค

ตลท. แถลงข้อมูลสรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์

ต่างประเทศ

06 พ.ค. CN ดัชนี PMI ภาคการบริการของจีนจากสถาบัน Caixin (เม.ย.)

EU ดัชนี PMI รวมจาก S&P Global (เม.ย.)

07 พ.ค. US แนวโน้มพลังงานระยะสั้นจากมุมมองของ EIA

08 พ.ค. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

09 พ.ค. CN ตัวเลขนำเข้า-ส่งออก

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

10 พ.ค. EU ธนาคารกลางยุโรปจะตีพิมพ์รายงานการประชุมนโยบายการเงิน

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย

(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL*

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE*, SJWD*

(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*

(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio May 2024: GFPT*, SAPPE*, OSP*, ITC*, ICHI*

Analysts

Apichai Raomanachai