Economic Update
เงินเฟ้อทั่วไปเม.ย.พลิกเป็นบวก 0.19%...คาดดอกเบี้ยนโยบายยังไม่ลดในเร็วๆนี้

• กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยเงนิเฟ้อทั่วไปเดือนเม.ย.ที่0.19% พลิกเป็นบวกครั้งแรกหลังติดลบต่อเนื่องมา6 เดือนเนื่องจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และสิ้นสุดมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล รวมถึงราคาอาหารสด เช่น ผัก ผลไม้ราคาสูงขึ้น สำหรับ 4M24 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยอยู่ที่ -0.55% ด้านเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนเม.ย.เท่ากับ 0.37% และเฉลี่ย 4M24 เท่ากับ 0.42%

• สนค.ประเมินอัตรำเงินเฟ้อเดือนพ.ค.24 เร่งตัวขึ้นเป็น 1.0-1.5% จากฐานค่าไฟฟ้าปีก่อนต่ำ, ราคาพืชผลการเกษตรสูงขึ้นเพราะอากาศร้อนจัดและน้ำแล้งในบางพื้นที่ (ไข่ไก่ เนื้อหมู ผัก และผลไม้), ราคาน้ำมันสูงขึ้นและลดการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลในประเทศ, ค่าเงินบาทอ่อน และต้นทุนและดอกเบี้ยจ่ายธุรกิจสูงขึ้น

• กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในช่วง 8 เดือนที่เหลือของปีนี้(พ.ค.-ธ.ค.) จะมีแนวโน้มเป็นบวกโดยทั้งปี24 ยังคงคาดการณ์ไว้ในระดับเดิมที่0-1% หรือค่ากลางที่0.50% (ยังไม่รวมการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400บาท/วัน และโครงการแจกเงินดิจิตอล)

คำดดอกเบี้ยนโยบายของไทยยังไม่ลดลงเร็วๆนี้เราประเมินว่ากนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยไว้ที่2.50% ไปอีกระยะหนึ่ง หลังจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น ประกอบกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณตรึงอัตราดอกเบี้ยสูงไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งจาก CME Group FedWatch บ่งชี้ว่า เฟดน่าจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ย.24 ซึ่งล่าช้ากว่าที่เคยคาดไว้ก่อนหน้าพอควร

• ธ.พ.ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้เป็นการชั่วคราว…ผลกระทบต่อกำไรสุทธิจำกัดมาก สำหรับอัตราดอกเบี้ยธ.พ.หลายธนาคารได้มีการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน ให้กับลูกหนี้รายย่อยและSME กลุ่มเปราะบาง และบางธนาคารลดอัตราดอกเบี้ย MRR ให้กับลูกหนี้ทุกประเภท ซึ่งจะช่วยเบาภาระลูกหนี้เป็นการชั่วคราว ส่วนผลกระทบต่อธนาคารก็ไม่มาก คือ อยู่ที่ 0.3%-1.1% ของคาดการณ์กำไรสุทธิปี 24F ที่ทางฝ่ายวิจัยฯ DBSVTH ประเมินไว้

• ในเชิงกลยุทธ์ แนะนำเลือกซื้อลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ หุ้นเด่นเป็น TTB และ BBL ทั้งนี้คาดว่า NIMจะอ่อนลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปและยังอยู่ในระดับสูงในปี 24Fขณะที่สินเชื่อมีโอกาสเร่งตัวขึ้นใน 2H24F หลังรัฐบาลเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ ทำให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิอยู่ในเกณฑ์ดี ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเติบโตต่อ การตั้งสำรองECL อยู่ในระดับสูงแต่น่าจะลดลงจากปี 23 ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไรสุทธิ 7 ธนาคารที่วิเคราะห์เติบโต +5% ในปีนี้ทั้งนี้ TTB มีโอกาสที่กำไรสุทธิปี 24F จะเติบโตสูงกว่ากลุ่ม จากการที่มีผลขาดทุนในการปิดกิจการ TBANK มาลดทยอยลดภาษีได้ถึงปี 2028 ด้านคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น รวมถึงจ่ายปันผลสูง คาด DY ปีนี้ไว้ที่ 6% ต่อปีแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน TTB เท่ากับ 2.02 บาทส่วน BBLได้อานิสงค์จากการลงทุนที่มีแนวโน้มดีขึ้น เพราะมีฐานภาคธุรกิจลูกค้ารายใหญ่จำนวนมาก กำไรสุทธิปีนี้โตดีที่ +10% หุ้นมี P/BV ต่ำเพียง 0.5 เท่า ขณะที่ให้ DY สูง โดยคาดปี 24F ไว้ที่ 5% ต่อปี แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน189 บาท

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@th.dbs.com : Tel 02 587 7829