วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวรีบาวด์ เคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงการซื้อขาย เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังจากตลาด คลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน แรงซื้อนำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน ขนส่ง ค้าปลีก และธนาคาร ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,349.52 จุด+17.44 จุด +1.31% มูลค่าการซื้อขาย 43,079 ลบ. Program Trading -409.28 ลบ. ต่างชาติ +372.42ลบ. TFEX +42,300 สัญญา ตราสารหนี้-208.07 ลบ

ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 253.58 จุด หรือ +0.67% ได้แรงหนุนจากนักลงทุนช้อนซื้อหุ้นหลังจากตลาดดิ่งลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมาขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟด ให้ความสำคัญ
+FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก96.1% ที่ FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค.
+ นักลงทุนคาดการณ์ว่า BoE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งแรก0.25% ในเดือนส.ค. และคาดว่าจะปรับลดอีกอย่างน้อย 2 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้
+ /- ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี(LPR) ทั้งประเภท 1 ปีและ 5 ปี หลังจากที่ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
+ บีโอไออนุมัติ Chery ค่ายรถยนต์รายใหญ่จีนตั้งฐานผลิต EV ในไทยหลังจากหารือกันกว่า 2 ปี จ่อจ าหน่ายอีวีรุ่นแรกในไทยกลางปีนี้เพื่อทดลองตลาด พร้อมตั้งฐานโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย เริ่มผลิตปี2568

ปัจจัยลบ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 29 เซนต์ หรือ -0.35% ปิดที่ 82.85ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากนักลงทุนประเมินว่าความเสี่ยงที่สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันนั้น มีไม่มากนักในระยะเวลาอันใกล้นี้
- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า มีการปล่อยจรวดอย่างน้อย 5 ลูกจากเมืองซุมมาร์ของอิรักไปยังฐานทัพสหรัฐที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย ถือเป็นการโจมตีกองทัพสหรัฐครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนก.พ.
- นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกท าเนียบเครมลิน กล่าวว่า การกระทำใดๆ ของสหรัฐที่จะยึดทรัพย์สินของรัสเซีย ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
- ค่าเงินบาททะลุ 37 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนสุดในรอบ 6 เดือนครึ่งและมีทิศทางอ่อนต่อเนื่อง หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งไม่หยุดเหตุ FED คงดอกเบี้ยสูงนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่สงครามในตะวันออกกลางเพิ่มความผันผวนค่าเงิน

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสรีบาวด์ขึ้นต่อตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยนักลงทุนช้อนซื้อหุ้นหลังจากตลาดดิ่งลงอย่างหนัก ขณะที่เริ่มคลายกังวลเรื่องสงครามหลังอิหร่านยังไม่มีแผนตอบโต้กลับในการโจมตีของอิสราเอล มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,340-1,360 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
• ฟรีวีซ่าไทย-จีน : AOT AAV MINT CENTEL ERW SPA SKY
• หุ้นได้ประโยชน์จากอากาศร้อนจัด : TACC SAPPE ICHI PLUS COCOCO MALEE TIPCO
• หุ้นเด่น IAA : AOT CK CPALL MINT
• มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ : SIRI SC ORI LH QH AP