Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

173

 


TRADE 300 นาที ดีต่อ TURNOVER? (รอลุ้น)
วันนี้จะเป็นวันทำการแรกที่ตลาดหุ้นไทยจะขยายระยะเวลาซื้อขาย จาก 270 นาที/วัน เป็น 300 นาทีต่อวัน ซึ่งส่วนหนึ่งก็สร้างความคาดหวังว่าน่าจะทำให้TURNOVER ของตลาดหุ้นไทยปรับสูงขึ้นน เป็นผลดีต่อทิศทางตลาด อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจากปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐานยังไม่เห็นแรงกระตุ้นใหม่ๆ โดยประเด็นที่อยู่ในการติดตามเป็นเรื่องงบประมาณปี 2567 ซึ่งสัปดาห์นี้จะเป็นหน้าที่ของวุฒิสภาในการพิจารณาซึ่งคาดว่าจะสามารถผ่านออกมาได้ และนำขึ้นทูลเกล้าฯ ในช่วงต้นเดือน เม.ย.67 ส่วนมุมเรื่องทิศทางดอกเบี้ย ประเมินจากท่าทีของ ธปท. ก็เห็นว่ายังไม่ชัดเจน กล่าวคือดูเหมือนจะไม่กังวลต่อผลที่จะเกิดขึ้นกับค่าเงินบาท แต่ในอีกทางหนึ่งก็เห็นว่าภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเริ่มเข้ารูปเข้ารอยในเดือน ก.พ.67 ทั้งนี้ค่าเงินบาทช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อ่อนค่ามาสู่ระดับ36.35 บาท/USD ซึ่งไม่เอื้อต่อการที่FUND FLOW จะไหลกลับเข้ามาแม้จะมีความคาดหวังเชิงบวกต่อการขยายระยะเวลาการซื้อขายเพิ่ม 11.11% แต่ปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐานก็ยังไม่มีประเด็นขับเคลื่อนที่มีน้ำหนัก SET INDEX อยู่ในกรอบ 1376 –1390 จุด TOP PICK เลือก BGRIM, MTC และTASCO


เงินเอเชียอ่อนค่า บ่งชี้ภาพ FUND FLOW ไม่กล้าไหลเข้า
ภาพรวมเศรษฐกิจจีนยังมีความเสี่ยงฟื้นตัวได้ช้า จากปัญหาภาคอสังหาฯ ที่ซบเซาบวกกับภาคการลงทุนที่ชะลอตัว สะท้อนจากตัวเลข FDI จีนในเดือน ม.ค.-ก.พ. 67หดตัว 19.9%YOY ซึ่งเป็นการติดลบมากสุดเป็นประวัติการณ์ ในอีกแง่มุมหนึ่งรัฐบาลจีนได้พยายามกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดย PBOC ส่งสัญญาณเดินหน้านโยบายการเงินผ่อนคลายมากขึ้น และได้ปรับลดอัตราแลกเปลี่ยนลงภาวะข้างต้นส่งผลให้เงินหยวนอ่อนค่ามากสุดในรอบ 4 เดือน กดดันค่าเงินในภูมิภาคเอเชียอ่อนค่าตามไปด้วยช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา นำโดยญี่ปุ่น -1.49%WTDฟิลิปปินส์-1.3%WTD และไทย -1.08%WTD ซึ่งอาจทำให้ FUND FLOW มีแนวโน้มไหลออกได


อย่างไรก็ตาม ถึงแม้เงินบาทจะมีแนวโน้มอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 36.37 บาท/USD แต่ยังมีหุ้นบางกลุ่มที่ SENTIMENT เชิงบวกจากประเด็นดังกล่าว อาทิ ภาคการท่องเที่ยวและภาคการส่งออก ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะมีรายงานตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของเดือน ก.พ. 67 ในวันที่ 26 มี.ค.นี้เวลา 10.00 น. โดย CONSENSUS คาดว่าจะเห็นภาพการส่งออกบ้านเรา +4.3%YOY เชื่อว่าจะเป็นบวกต่อ TU ITC CPF KCEHANA STA NER , AOT CENTEL ERW

สรุป ค่าเงินในภูมิภาคเอเชียอ่อนค่า กดให้ FUND FLOW มีแนวโน้มไหลออก อย่างไรก็ตามยังมีหุ้นบางกลุ่มที่ SENTIMENT เชิงบวกจากประเด็นดังกล่าว อาทิ ภาคการท่องเที่ยว และภาคการส่งออก ดีต่อ AOT ERW CENTEL TU ITC CPF


ตลาดหลักทรัพย์เพิ่มชั่วโมงการซื้อขายวันนี้
ตลาดหุ้นไทยมีมูลค่าซื้อขายต่อวันเบาบางลงต่อเนื่อง โดยปี 2564 มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ย 8.8 หมื่นล้านบาท, ปี 2565 มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ย 7.1 หมื่นล้านบาท, ปี 2566 มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ย 5.1 หมื่นล้านบาท และปี 2567YTD 4.4 หมื่นล้านบาท


ขณะที่วันนี้จะเป็นวันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์เพิ่มชั่วโมงซื้อขายตอนบ่ายเร็วขึ้น 30 นาทีเป็น 13.30 น. (ช่วงเช้าชั่วโมงซื้อขายเวลาเดิม)รวมชั่วโมงซื้อขายใน 1 วันเพิ่มขึ้นจาก 4ชั่วโมงครึ่ง เป็น 5 ชั่วโมง (เพิ่มขึ้น 11.11%) ซึ่งเข้าใกล้ตลาดหุ้นประเทศอื่นๆ ที่บางประเทศมีชั่วโมงซื้อขาย 6 –7 ชั่วโมง

 

ประเด็นนี้น่าจะช่วยชดเชยสภาพคล่องที่น้อยลงต่อเนื่องให้ดีขึ้น แต่ฝ่ายวิจัยฯ มองว่าจะผลักดันให้ SET INDEX ปรับตัวขึ้นได้ดี อย่างน้อยต้องมีมูลค่าซื้อขายต่อวันสูงกว่า5 หมื่นล้านบาท (หรือมี TURNOVER > 70% ของมูลค่าซื้อขายต่อปี) ดัชนีจึงจะช่วยหนุนดัชนีให้มีโอกาสขยับตัวขึ้นได้ดี ซึ่งอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยได้ คือ การปรับลดดอกเบี้ยเพราะ ปกติเวลาดอกเบี้ยลดลง 0.25% จะช่วยหนุนให้มูลค่าซื้อขายเพิ่มขึ้นได้ราว 3 –4 พันล้านบาทต่อวันสรุป การเพิ่มชั่วโมงซื้อขายน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยชดเชยสภาพคล่องได้ในระดับหนึ่ง แต่ในระยะถัดไป ถ้ามีการลดดอกเบี้ยต่อเนื่องก็จะช่วยหนุนให้มูลค่าซื้อขายสูงขึ้นได้อีก และอาจเพียงพอต่อการพยุงดัชนี รวมถึงช่วยผลักดันให้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นได้

นโยบายการเงิน-การคลังที่ดูดีขึ้น(PART 2) ชอบหุ้นกลุ่มก่อสร้าง เช่าซื้อ
นโยบายการเงิน-การคลังที่มีแนวโน้มดูดีขึ้นในอนาคต จึงทำฝ่ายวิจัยฯคาดว่า SETINDEX จะมีความผันผวนน้อยลง และแข็งแกร่งกว่าตลาดฯหุ้นอื่นๆ โดยมีรายละเอียด
ดังนี้
• นโยบายการเงิน ธปท.กล่าวกับสำนักข่าว BLOOMBERG ว่ากำลังทบทวนอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมของไทย เนื่องจาก งบประมาณปี 67 ที่ล่าช้า อาจกกระทบต่อ GDP GROWTH 0.8% โดยมองภาคการท่องเที่ยว + การบริโภคเป็นแรงหนุนหลักของเศรษฐกิจไทย ขณะเดียวกันสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (SFI) เสนอแนะให้ 7 แบงก์ของรัฐฯลดดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นให้ กนง. และธนาคารพาณิชย์ต่างๆลดดอกเบี้ยตาม เพื่อช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการ ประเด็นดังกล่าว จึงทำให้โอกาสที่การประชุม กนง.ในเดือนเม.ย.67 จะลดดอกเบี้ยมีสูงขึ้น ซึ่งถือเป็นปัจจัยหนุนให้ TARGET SET ขยับขึ้นอย่างมีนัยฯ
• นโยบายการคลัง สภา โหวตเห็นชอบ ผ่านร่างงบประมาณ 67 แบบไม่พลิกโผ(เห็นด้วย 298 เสียง, ไม่เห็นด้วย 166 เสียง,งดออกเสียง และไม่ลงคะแนนอย่างละ 1 เสียง) ซึ่งกระบวนการถัดไป คือ วุฒิสภาพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบฯ ปี พ.ศ. 2567วันที่ 25-26 มี.ค.67 และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำร่างพระราชบัญญัติงบฯ พ.ศ. 2567 ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อประกาศบังคับใข้เป็นกฎหมายต่อไป วันที่ 3 เม.ย.67 ทำให้คาดมีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจในช่วงต้นไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ขณะที่นโยบาย DIGITAL WALLET10,000 บาท นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ รมช.คลัง จะแถลงข่าวถึงความคืบหน้าของนโยบายดังกล่าวที่อาคารรัฐสภา


สรุป นโยบายการเงิน-การคลังที่ดูดีขึ้นในอนาคต หนุน SET INDEX OUTPERFORMระยะกลาง-ยาว และเป็นหนึ่งในปัจจัยให้ FLOW ต่างชาติมีโอกาสไหลกลับได้ ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ และมีกระแสการเก็งกำไรเกิดขึ้นได้ คือ หุ้นกลุ่มก่อสร้าง และ เช่าซื้อ อาทิ TASCO SCCC, STEC CK UNIQ NWR, MTC SAWAD TIDLOR เป็นต้นส่วนหุ้น TOPPICKS คือ TASCO, MTC และหุ้นรับหน้าร้อน BGRIM

Research Division
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส

เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม, CISA
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 004132
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

หมดแรง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็นตลาดหุ้นไทย ไร้ปัจจัยบวก ไร้แรงกระตุ้น ก็หมดเวลาได้ไปต่อ ด้วย งบบจ.แจ้งผลงานไตรมาสแรก....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้