Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.กรุงศรี พัฒนสิน : KCS Daily Strategy

181

 

"TH Annual Budget Plays"

KCS Daily Strategy : คาด SET วันนี้ "Sideways" ต้าน 1390/1393 จุด รับ 1378/1373 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังปรับขึ้นต่อ กลุ่มที่ยัง Laggard อาทิ Energy, Utilities เด่น หนุนจาก US Bond Yield ที่พักตัวลง -4 bps หลังจากปรับขึ้นต่อเนื่องเฉียด +30 bps นับจากรายงานเงินเฟ้อระยะสั้นสูงกว่าตลาดคาด ถือเป็นจุดดีที่สะท้อนภาพระมัดระวังก่อนจะทราบผลประชุม Fed วันนี้ที่ตลาดน่าจะจับตา Dot Plot ใหม่เป็นหลัก ส่วนเอเชีย BOJ ปรับเพิ่มดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 17 ปี แม้ญี่ปุ่นจะตอบรับทางบวก จากการ Buy on Facts แต่เรายังเชื่อว่าท้ายที่สุดยังน่าจะเห็น Outflow สลับออกมาประเทศอื่นใน Asia อยู่บ้าง โดยภายในมีจุดเด่นที่แรงกดดันการจับจ่าย+ลงทุนภาครัฐฯที่หายไปกว่า 1ปี กำลังจะคืบหน้า วันนี้ ส.ส. เริ่มพิจารณาร่างงบประมาณวาระที่ 2-3 คาดเริ่มเบิกจ่ายหนุนเศรษฐกิจตั้งแต่ต้น เม.ย. มองหุ้นนำวันนี้ คือ กลุ่มงบรัฐหนุน กลุ่มอิงภาคบริการ โดยเฉพาะกลุ่มอิงจีน กลุ่มน้ำมัน+โรงกลั่น วันนี้แนะนำ ILM, STEC, BE8

 

Daily outlook: "Sideways/Up" ต้าน 1390/1393 จุด รับ 1378/1373 จุด

What happened around the world ?

• (*/+) US Stocks : ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นต่อ Dow Jones +0.83%, S&P500 +0.56% Nasdaq +0.39% โดย Sector ในดัชนี S&P500 ปรับขึ้นเกือบทุก Sector ยกเว้น ICT กลุ่มที่ปรับขึ้นหลักคือ Energy, Utilities, Consumer Discretionary ฯลฯ โดยหุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่นคือ หลักๆคือ กลุ่มเชื่อมโยง Crypto อาทิ Microstrategy -5.6%, Coinbase -3.9% ตามราคา Bitcoin ที่ลดลง และกลุ่ม Super Micro Computer -8.9%, AMD -4.8% ยกเว้น NVDIA +1.1% รับข่าว CEO เปิดตัว Blackwall B200" ชิป AI รุ่นใหม่ซึ่งมีความเร็วกว่าชิปรุ่นเดิม 30 เท่า ฯลฯ

•(*) US Econ : ตัวเลขบ้านสหรัฐยังผันผวนเดือนก่อนชะลอลงแรง แต่เดือน ก.พ.ตัวเลขฟื้นตัวอีกครั้ง อิง 1.)ยอดการเริ่มต้นสร้างบ้านเดือน ก.พ. +10.7%m-m สู่ระดับ 1.521 ล้านหลังดีกว่าตลาดคาดที่ 1.43 ล้านหลัง 2.)ยอดการอนุญาตก่อสร้างในเดือนเดียวกัน +1.9%m-m สู่ 1.518 ล้านหลังดีกว่าตลาดคาดที่ 1.49 ล้านหลัง

•(*) Fed Meeting : ผลประชุม Fed ทราบผลพรุ่งนี้เช้ามืดตอนตี 1 KCS และตลาดคาดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ 5.25-5.5% ตามเดิม (ตลาดให้โอกาสคงดอกเบี้ยสูง 99%) แต่ Key สำคัญที่ต้องติดตาม คือ Dot Plot เพื่อพิจารณาแนวโน้ม+ช่วงเวลา ในการลดอัตราดอกเบี้ย KCS ประเมินจากรายงานเศรษฐกิจสหรัฐในระยะหลังที่อ่อนตัว อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค , Retail sales ฯลฯ ทำให้เชื่อว่าภาพ Dot plot จะใกล้เคียงเดิม คือ คณะกรรมการส่วนใหญ่ยังมองการลดดอกเบี้ยลงในปีนี้ 3 ครั้งๆ ละ 25 bps ทำให้ดอกเบี้ยฯ สิ้นปีอยู่ที่ 4.5-4.75% หากออกมาตามที่คาดมองผลกระทบต่อตลาดหุ้นเป็นกลาง หรือ Sligthly positive

• (*)BOJ Meeting : ผลสรุปการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) Inline ตามตลาดคาด คือ 1.) ขึ้นอัตราดอกเบี้ยฯครั้งแรกในรอบ 17 ปี เป็น 0-0.1% จากเดิมที่ -0.1% 2.)ยกเลิกมาตรการ Yield Curve Control 3.)ดำเนินการซื้อสินทรัพย์ JGB ในวงเงินเดิม 3.)จะทยอยลดปริมาณการซื้อ Commercial Paper และ หุ้นกู้ภาคเอกชน (Corporate bond) ตามที่ KCS และ MUFG คาด ทั้งนี้คุณอุเอดะ ประธาน BoJ แถลงว่าหากนับจากนี้มีสัญญานเงินเฟ้อเร่งตัวสูงเกินไป มีโอกาสที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยได้อีก MUFG คาดว่า BOJ จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.1% ใน 4Q24 โดย KCS มองเป็นการเปลี่ยนกรอบจากเป้าหมายเงินเฟ้อเป็นการดำเนินนโยบายตามข้อมูลเศรษฐกิจ (Data Driven) ในแบบเดียวกับ Fed มองมีโอกาสสร้างความผันผวนให้กับ JPY เพิ่มขึ้น KCS ประเมินแนวต้านดัชนี Nikkei ในรอบนี้คือ 40,000-40,500 จุด

• (*/+) EU Econ : รายงานตัวเลข ดัชนีความอ่อนไหวทางเศรษฐกิจ (ZEW Economic sentiment) ปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 2 เดือน อยู่ที่ 33.5 จุด ทำจุดสูงสุดตั้งแต่ต้นปี 2022 และดีกว่าตลาดคาด KCS ประเมินศทางเศรษฐกิจยุโรปที่เป็นทิศทางขาขึ้น มองบวกหุ้นทีมีรายได้ในยุโรป อาทิ XO (70%ของรายได้รวม), MINT(50%) SHR(40%), IVL (22%) CRC(6%) เน้นลงทุน MINT, IVL

• (*) US Bond & Dollar : แนวโน้มระยะสั้นชะลอการขึ้น อายุ 10 ปีพลิกปรับลง -4 bps และปิดที่ 4.30% เช่นเดียวกับ 2 ปี พลิกปรับลง -5 bps อยู่ที่ 4.68% ขณะที่ Dollar Index แนวโน้มยังแข็งค่าต่อขึ้นมา 103.47 +/- จุด

•(*/+) Oil : ราคาน้ำมันดิบยังเป็นขาขึ้นระยะสั้น Brent +0.56%d-d ปิดที่ US$ 87.38/barrel (สูงสุดในรอบ 4 เดือน), น้ำมันดิบ West Texas +0.89%d-d ปิดที่ US$ 83.47/barrel แรงหนุนมาจากเดิมคือ ฝั่ง Supply ทั้งผลกระทบของโรงกลั่นของรัสเซียถูกโจมตีจากยูเครนในสัปดาห์ก่อน และยอดส่งออกน้ํามันดิบจากอิรักและซาอุดิอาระเบียแนวโน้มลดลง โดยรวมเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นพลังงาน อาทิ PTT, PTTEP, TOP

•(*/-)Sugar : น้ำตาล -2.35%d-d ปิดที่ 21.64US$/lb มองเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นเครื่องดื่ม เน้น ICHI

•(*)Bitcoin : ราคา Bitcoin -5.35%d-d ปิดที่ 63,749.5 USD ถูก Take profit ยังไม่มีปัจจัยกดดันต่อราคาที่มีนัยยะ แต่ราคาที่ลงเป็นจิตวิทยาลบต่อหุ้นที่เชื่อมโยง Cryptocurrency อาทิ JTS, BROOK, ZIGA, TTA ยังคงคำแนะนำตามเดิมคือ Trading หุ้นในกลุ่มนี้ แรงหนุนราคา Bitcoin ช่วงที่เหลือของเดือน มี.ค. คือ ประเด็น Bitcoin Halving (ความยากในการขุด Bitcoin จะเพิ่มขึ้น หรือรางวัลในการขุด Bitcoin จะลดลง) จะเกิดขึ้นในเดือน เม.ย.24

 

What happened in Thailand ?

• (*) SET: SET Index ปิดลบตามต่างประเทศ -0.25% ปิดที่ 1382.46 จุด กลุ่มถ่วง คือ กลุ่มถ่วง คือ กลุ่มชิ้นส่วนฯ (DELTA, HANA) มองถูกกดดันจาก US Bond Yield ปรับขึ้นต่อเนื่องติดต่อกัน 6 วัน กลุ่มขนส่ง (AOT) รายงานนักท่องเที่ยวต่างชาติสัปดาห์ล่าสุดอ่อนตัวลง กลุ่มหนุน คือ กลุ่มธนาคาร (SCB, BBL, KBANK) หนุนจาก US Bond Yield ปรับขึ้นต่อเนื่องติดต่อกัน 6 วัน กลุ่มพลังงาน (GPSC, PTT) กลุ่มโรงไฟฟ้าหนุน Upside ใหม่ที่จะเข้ามาระยะกลาง-ยาว จากแผน PDP ปี 2024 คาดมีผล ก.ย. 24 กลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันที่ขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน

• (*/-) Flow : เงินทุนต่างชาติไหลออก ขายหุ้น -522 ล้านเหรียญฯ แต่แทบทั้งหมเดเป็นรายการ Big Lot หุ้น AWC-F มูลค่า 1.79 หมื่นล้านบาท (-498 ล้านเหรียญฯ) หากไม่รวมเป็นการขาย -24 ล้านเหรียญฯ ขายพันธบัตร -114.2 ล้านเหรียญฯ TFEX สถานะ Net Long 100 สัญญา เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อย 36 +/-บาท

• (*/+) TH Tourism: นักท่องเที่ยวต่างชาติ 11-17 มี.ค. ลดลง -7.7%w-w มาอยู่ที่ 6.45 แสนคน เรามองการอ่อนตัวสัปดาห์ล่าสุด ไม่น่ากังวล โดยเกิดชาวมาเลเซีย (และคาดรวมถึงตะวันออกกลาง) ลดลงจากการเข้าสู่เทศกาลถือศีลอด นักท่องเที่ยวจีนยังเด่นจากมาตรการฟรี วีซ่าเร่งขึ้น +6.2%w-w สู่ 1.3 แสนคน + สูงกว่าค่าเฉลี่ย YTD (ไม่รวมสัปดาห์ตรุษจีน) ที่ 1.24 แสนคน มองภาพการฟื้นตัวระยะถัดไปจะเห็นชัดเจนหลังผ่านช่วงถือศีลอด ทั้งนี้ อิงภาพนักท่องเที่ยว MTD มี.ค. อยู่ที่ 1.68 ล้านคน และ YTD นักท่องเที่ยวอยู่ที่ 8.07 ล้านคน ยังเชื่อว่านักท่องเที่ยวปี 24F จะสูง 36 +/- ล้านคน มี Upside 3-7% จากคาดการณ์ตลาดปัจจุบัน

ภาพรวมนักท่องเที่ยว w-w ที่อ่อนลง เรามองมีโอกาสส่งผลให้หุ้นภาคบริการพักตัวระยะสั้น แต่หากมององค์ประกอบนักท่องเที่ยวต่างชาติที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะจีน เรามองจิตวิทยาบวกต่อหุ้นอิงกำลังซื้อนักท่องเที่ยวจีน อาทิ AOT, AAV, MINT, SPA, SAFE, CPALL, CPAXT, BJC ขณะที่ชุดหุ้นหลักที่เราแนะนำทยอยสะสม ให้เน้นที่ AOT, MINT, CPALL, BJC

• (*/+) Casino: รมช.คลัง รับเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานบันเทิงครบวงจร ดันกาสิโนถูกกฎหมาย เข้าสภาเรียบร้อยรอพิจารณาร่างกฎหมายในวันที่ 28 มี.ค. 24 หากไม่มีอะไรติดเตรียมเสนอเข้าครม.หลังจากนั้น มองจิตวิทยาบวกสร้างความคาดหวังเชิงบวกต่อภาคบริการ ทั้งการท่องเที่ยวและเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศคึกคักขึ้น บวกต่อหุ้นภาคบริการ เน้น AOT, MINT, CPALL, BJC

• (*/+) FDI: กระแส FDI กลับมาคึกคักมากขึ้นระยะหลัง 1) CALB ผู้ผลิตแบตเตอรี่ Top 5 ของจีน ตั้งบริษัทในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ บ. ซี แอล บี ประเทศไทย (จำกัด) โดยอยู่ระหว่างวางแผนก่อสร้างโรงงานในประเทศไทย 2) อีซูซุ มีแผนจะผลิต ดีแมคซ์ อีวี ที่โรงงานประเทศไทยในปี 2025 และยังมีแผนที่จะผลิตแบตเตอรี่ในประเทศไทย จิตวิทยาบวกต่อกลุ่มนิคม อาทิ WHA AMATA

• (*/+) Cabinet: มติ ครม. วานนี้อนุมัติให้กรมทางหลวง เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน - สระบุรี - นครราชสีมา จำนวน 14 ตอน ตามปริมาณงานและวงเงินค่างานจริง วงเงิน 1.74 พันล้านบาท เพิ่มเติมจากที่เคยอนุมัติ 4.97 พันล้านบาท เพื่อรองรับงานในส่วนที่ต้องปรับรูปแบบก่อสร้าง โดยบางส่วนครอบคลุมช่วง CK STEC ชนะประมูล

• (*/+) To Monitor: 20-21 มี.ค. ติดตามขั้นตอน ส.ส. พิจารณาร่างงบประมาณ 2024 วาระ2 และ 3 มองหนุนมีภาพแรงเก็งกำไรกลุ่มได้ประโยชน์ต่อเนื่อง อาทิ รับเหมาก่อสร้าง+ICT เน้น STEC, BE8 หุ้นในกลุ่มเหล็ก และค้าปลีกที่จำหน่ายเหล็ก อาทิ GLOBAL, DOHOME

 

 

 

Daily Strategy : ILM, STEC, BE8

ระยะสั้น วันนี้มองภาพตลาด "ฟื้นตัว" มอง SET มีโอกาสฟื้นตัวได้ ตามจิตวิทยาลงทุนต่างประเทศ สหรัฐฯ ยังปรับขึ้น มองผลบวก US Bond Yield ที่เร่งขึ้นมาก่อนประชุม Fed สะท้อนภาพตลาดมองภาพระมัดระวังระดับหนึ่งแล้ว ขณะที่ Asia ลุ้นเม็ดเงิน Outflows ที่มีโอกาสไหลออกจากญี่ปุ่นบ้าง หลังยุตินโยบายการเงินผ่อนคลาย โดยไทยมีภาพความคืบหน้างบประมาณปี 2024 กำลังจะคืบหน้าหนุน มองหุ้นนำ 1) กลุ่มได้ประโยชน์งบรัฐ (STEC, BE8) 2) กลุ่มภาคบริการเด่น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่แข็งแกร่ง (AOT, MINT, CPALL, BJC) 3) กลุ่มน้ำมัน+โรงกลั่น ราคาน้ำมันยังแกว่งขึ้นต่อ 4) หุ้นอิงยุโรป (MINT, IVL) ที่มีรายงานดัชนีความอ่อนไหวทางเศรษฐกิจ (ZEW Economic sentiment) ปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 2 เดือน อยู่ที่ 33.5 จุด ทำจุดสูงสุดตั้งแต่ต้นปี 2022 และดีกว่าตลาดคาด

 

หุ้นได้ประโยชน์ภาคผลิตโลกผ่านจุดต่ำสุด (IVL, PTTGC, HANA, SJWD, MENA, WICE)
หุ้นภาคบริการได้ประโยชน์มาตรการภาครัฐฯ บริโภค ท่องเที่ยว (CPALL, CPAXT, BJC, AOT, AAV, MINT, TKN)
กลุ่มได้ประโยชน์ที่วงจรดอกเบี้ยพลิกเป็นขาลงนับจากปี 2024 (GULF, GPSC, CPALL, TRUE, MINT, BBIK, BE8, PLANB)
กลุ่ม Dividend Plays (AP, MC, SC, SIRI)
กลุ่มได้ประโยชน์จากการเข้าสู่ฤดูร้อน (ICHI, CPALL, CPAXT, AOT, AAV, MINT)
กลุ่มได้ประโยชน์ค่าระวางเรือ Container เริ่มปรับตัวลดลง (TU, GFPT, STA ,NER STGT, HANA)
หุ้นอิงกระแสจีนแถลงเป้าหมาย GDP > ตลาดคาด และลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ (IVL, PTTGC, DOHOME, GLOBAL)

• MAR24 Best Picks: CPALL, BJC, IVL, ICHI, MINT, MTC, OSP

• 1Q24/2024 Stock Picks : GPSC, IVL, PTTGC, CPALL, AOT, AMATA, SCGP, SCC, MINT Mid-Small Cap Play : SJWD, DOHOME, BE8, SPA, PLANB

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้