ภาวะตลาด : SET Index วานนี้วันแกว่งในช่วง 1382-1391 จุด ปิดตลาดที่ 1382.46 (-3.48 จุด) ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของวันและอยู่บนเส้น SMA10 ทั้งนี้นักลงทุนระวังการซื้อขายก่อนการประชุมเฟด 19-20 มี.ค. ประกอบกับค่าเงินบาทอ่อนกดดัน
ปัจจัยต่างประเทศ
• ยูโรโซน : อัตราเงินเฟ้อทั่วไป & พื้นฐานก.พ.เป็นไปตามตลาดคาด โดยดัชนี CPI ทั่วไปเพิ่ม 2.6%YoY (เพิ่ม 0.6%MoM) และดัชนี CPI พื้นฐานเพิ่ม3.1%YoY (เพิ่ม 0.7% MoM)…นักวิเคราะห์คาดว่า ECB อาจเริ่มปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิ.ย.นี้
+ ญี่ปุ่น : วานนี้ (19 มี.ค.) BOJ ปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 17 ปีโดยปรับขึ้นจาก -0.1% เป็น 0-0.1% และยุตินโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
+/-กำลังการกลั่นน้ำมันรัสเซียอาจลดลง 3.5-6 แสนบาร์เรล/วันหลังถูกโดรนยูเครนโจมตี และอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่ากำลังการกลั่นจะกลับมา...
ปัจจัยนี้หนุนราคาน้ำมันให้ปรับขึ้น ซึ่งเป็น Sentiment บวกกับ PTTEP รวมถึง PTT ขณะที่โรงกลั่นน่าจะมีกำไรสต็อกใน 1Q24F หุ้นเด่น TOP, BCP
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
+ ล่าสุดราคากากถั่วเหลืองและข้าวโพดลดลง -20%YoY, -31%YoY…คาดกำไรสุทธิกลุ่มอาหารสัตว์ & อาหารส่งออกครบวงจรจะดีขึ้นเทียบ YoY หุ้นที่อยู่ในข่าย ได้แก่ LEE, BTG, CPF, GFPT, TFG, TU เป็นต้น
+ จำนวนนทท.ต่างชาติเข้าไทยสะสมช่วง 1 ม.ค.-17 มี.ค.24 เท่ากับ 8.07 ล้านคน สร้างรายได้ 3.9 แสนลบ. 5 อันดับแรกเป็นจีน 1.5 ล้านคน มาเลเซีย1.0 ล้านคน, รัสเซีย 0.54 ล้านคน, เกาหลีใต้ 5.0 ล้านคน, อินเดีย 4 ล้านคน...นับเป็นบวกกับหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว หุ้นเด่น AOT, AAV, LHHOTEL
ปัจจัยติดตาม : โครงการดิจิตอลวอลเล็ต & แลนด์บริดจ์, สถานการณ์ตะวันออกกลาง, ประชุม BOJ, ประชุมเฟด 19-20 มี.ค., ดัชนี PMI ภาคผลิตและบริการเบื้องต้นเดือนมี.ค.ของประเทศขนาดใหญ่ (สหรัฐ, ยูโรโซน, อังกฤษ, ญี่ปุ่น), พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯปี 67 วาระ 2-3 วันที่ 20-22 มี.ค.นี้
กลุยทธ์: เลือกซื้อเก็งกำไรตามค่าบวก /หรืออ่อนตัวแต่ไม่หลุด 1375-1373...ระยะสั้นการอ่อนตัวไม่ควรหลุด 1375-1373 อีก จึงจะยังเป็นการแกว่งตัวขึ้นและมีแนวต้าน 1396 หรือ 1400-1405 และถ้ายืนเหนือ 1400-1405 ได้ต่อเนื่อง จะกลับเป็นการแกว่งขึ้นแทนรีบาวด์เพื่อลง หุ้นเด่นทางเทคนิควันนี้เป็น CK, STEC
หุ้นพื้นฐานแนะนำลงทุน : MINT ตั้งเป้ากำไรจากการดำเนินงานเติบโต 15-20% ต่อปีในช่วงปี 24-26 หนุนโดย 1) การรีแบรนด์ให้เกิดมูลค่าเพิ่มสูงสุด ในปีนี้ตั้งเป้า RevPar เพิ่มเลขสองหลัก, 2) ลดภาระหนี้สินและดอกเบี้ยจ่าย, 3) ขยายธุรกิจภายใต้สัญญารับจ้างบริหาร & สิทธิบริหารจัดการห้องชุด ลดความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ คาดกำไรสุทธิปี 24F-25F เติบโต 48% และ 15% ตามลำดับ แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 39 บาท
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@th.dbs.com : Tel 02 587 7829