News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

18 มี.ค. 2567 08:58:05 257

Market Wrap-Up

SET วันที่15มี.ค.67 ปิด -8.89จุด อยู่ที่ 1,386.04 จุด มูลค่าการซื้อขาย49,752 ลบ.ต่างชาติขาย2,177ลบ.สถาบันขาย90ลบ.พอร์ตโบรกซื้อ444ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่2,392 ลบ. มียอดซื้อสุทธิในหุ้นPTTEP,PTT,CPF,BDMS,SCCและมียอดขายสุทธิADVANC,KBANK,BTS,AOT,BBLมูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ4,329ลบ. หุ้นที่มีปริมาณ Short สูงคือTHANI,LPN,DITTO-Rโดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะShortใน Index Futures จำนวน 18,216สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 15,788สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน3,736ลบ.
ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.49%, S&P500 -0.65%, Nasdaq -0.96%จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี -1.3% นำโดย Adobe -13.7%, MSFT -2.1% และเซมิคอน ฯ -0.5% หลัง ม.มิชิแกนเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรํฐ เบื้องต้น มี.ค. ลดลงอยู่ที่ 5 &ก.พ. 76.9 และคาดการณ์เงินเฟ้อสหรัฐ 1 ปี ข้างหน้าอยู่ที่ 3% ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.32% จากแรงขายกลุ่มอสังหา ฯ -2% แต่ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทเลคอม +1.5% จากหุ้นโวดาโฟน +5.7%
Market View
DJIA -0.02%, S&P500 -0.10%, Nasdaq -0.70% WoWหลังรายงาน US CPI ก.พ. ปรับขึ้นอยู่ที่ 2% &ม.ค. 3.1% จากเงินเฟ้อจากพลังงาน +2.3% และค่าที่พักอาศัย +0.4% (คิดเป็นสัดส่วน 1/3 ของเงินเฟ้อสหรัฐ) กอปรกับ US PPI ก.พ. ก็ปรับขึ้นอยู่ที่ 1.6% &คาด 1.1% YoY บ่งชี้เงินเฟ้อสหรัฐยังลดลงยาก ส่งผลให้ตลาดคาดเฟดจะยังดอกเบี้ยในมี.ค. และมีโอกาส 55.2% เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ใน มิ.ย. สัปดาห์นี้ติดตามผลการประชุมเฟดวันที่ 20 มี.ค. รวมถึง Fed Dot Plot ว่ายังคงคาดการณ์ดอกเบี้ยสหรัฐปีนี้ที่ 4.625% หรือไม่
Stoxx600+0.31% WoWได้แรงหนุนจากCAC-40 ฝรั่งเศส , DAX เยอรมันทำจุดสูงสุดใหม่ได้แรงหนุนจาก CPI เยอรมัน ก.พ. ลดลงอยู่ที่ 5% &ม.ค. ที่ 2.9% YoY และ CPI ฝรั่งเศส ก.พ. ลดลงอยู่ที่ 2.9% &ม.ค. ที่ 3.1% YoY ส่งผลให้ ECB มีโอกาสลดดอกเบี้ยใน มิ.ย.
MSCI Asia Pacific X Japan -0.07% WoWจากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดเอเชียเหนือ ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.28% WoWแม้ว่า ธ.กลางจีนจะคงดอกเบี้ย MLF 1 ปี ที่ 5% ส่วนดัชนีนิเกอิ -2.4% WoWหลังสหภาพการค้าญี่ปุ่นปรับขึ้นค่าจ้างเฉลี่ย +5.28% สูงสุดในรอบ 30 ปี ส่งผลให้ตลาดคาด BOJ จะยกเลิก ม.ดอกเบี้ยติดลบในการประชุม 19 มี.ค.
SET -0.03% WoWปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 42,227หมื่น ลบ. +5.16% WoWต่างชาติขาย 5 ลบ. สถาบันขาย 1,876ลบ.รายย่อยซื้อ 1,615 ลบ.ภาพรวมเผชิญแรงขายในวันศุกร์ตามภูมิภาคนำโดยกลุ่มอิเล็กฯ หลังตัวเลข CPI และ PPI สหรัฐฯออกมาสูงกว่าคาด อย่างไรก็ตาม ดัชนีบ้านเรายังมีแรงพยุงซื้อในกลุ่มขนส่ง/ท่องเที่ยว ตามตัวเลขนักท่องเที่ยว YTD ที่ยังอยู่ในระดับที่ดี และกลุ่มรับเหมา/สินค้าHardline ที่เกี่ยวข้องจากความคาดหวังผ่านงบประมาณปี67 โดยปัจจัยในประเทศสัปดาห์นี้ ติดตามสภาฯพิจารณางบประมาณปี67(20-22มี.ค.67)

Daily Strategy

ประเมินดัชนีSET Index เคลื่อนไหวทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,380-1,375 แนวต้าน 1,400-1,405 ทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าและ US Bond Yield ที่ปรับขึ้นเป็นปัจจัยกดดัน fund flow ก่อนการประชุม Fed ในสัปดาห์นี้ แนะนำซื้อหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า+สภาพอากาศร้อน เช่น เกษตร อาหาร เครื่องดื่ม STA, NER, HTC, PLUS, SAPPE, TACC, XO และเก็งกำไร CK, STEC, GLOBAL (พิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 67) GPI, MGC (งาน Motor Show 2024)
TACC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 7.35 บาท) งวด 4Q66 รายงานกำไรสุทธิ 59 ล้านบาท +13%QoQ, +33%YoY หากตัดรายการด้วยค่าเงินลงทุน กำไรปกติดีกว่าที่ตลาดคาด ส่วนภาพรวมในปี 66 บริษัทมีรายได้รวม 7 พันล้านบาท +12%YoY และมีกำไรสุทธิ 207 ล้านบาท -12%YoY ทั้งนี้ในปี 67 คาดกำไรปกติจะฟื้นตัว โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ +10%YoY หนุนจากการเติบโตตาม 7-Eleven ทั้งในและต่างประเทศ การออกสินค้าใหม่ตามฤดูกาล และขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้ง B2B และ B2C ขณะที่ส่วนแบ่งขาดทุนจาก TCI (ธุรกิจกัญชง) จะหมดไปหลังทำรายการขายเสร็จ ซึ่งปกติมีผลขาดทุนอยู่ปีละ 10 ล้านบาท จากแนวโน้มที่ผ่านช่วงแย่ไปแล้ว รวมถึงการตัดขายธุรกิจไม่ทำกำไรออกไป จะทำให้ฐานะทางการเงินดีขึ้น ตลาดคาดกำไรปี 67-68 ที่ 231 ล้านบาท +12%YoY และ 253 ล้านบาท +10%YoY
AMATA (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 28.00 บาท) สำหรับภาพการดำเนินงานกลุ่มนิคมฯในปี67 เราคาดว่าจะยังมีแรงหนุนจากการตั้งฐานการผลิตกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมไปถึงการย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทย โดยทางผู้บริหารวางเป้าขายที่ดินปีนี้ที่ราวไม่เกิน 2,000 ไร่(จากปี66 1,854 ไร่) ส่วน backlog สิ้นปี66 ยังแข็งแกร่งที่ 14,285 ลบ.(ไทย 1.2 หมื่นลบ. ที่เหลือเวียดนาม) ทั้งนี้ เบื้องต้น ทางฝ่ายวิเคราะห์ประเมินกำไรสุทธิของ AMATA ปี67 ที่ระดับ 2,006 ลบ.(+6%YoY) โดยนอกจากการขายที่ดินแล้ว คาดว่ารายได้ฝั่งสาธารณูปโภคจะแรงมีหนุนตามค่าFt และอากาศร้อน นอกจากนี้ AMATA ยังจะมี story จากการ Spinoff AMATA U (กลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภค) ในปีนี้

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI เม.ย. -$0.22อยู่ที่ $81.04/บาร์เรล Brent พ.ค. -$0.08อยู่ที่ $85.34/บาร์เรลโดย WTI +4.07% WoW, Brent +4.02% WoWได้แรงหนุนจากสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐลดลงมากกว่าคาด กอปร Opec, IEA คาดภาวะตลาดน้ำมันโลกปีนี้จะตึงตัว ส่วนปัจจัยเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์สูงขึ้น หลังยูเครนส่งโดรนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันเรสนอฟท์ของรัสเซีย

Gold Update(-) Comex Gold เม.ย.$-6.0อยู่ที่ $2,161.50 /ออนซ์โดยสัญญาทองคำ -1.1% WoWได้แรงหนุนจาก Dollar Index แข็งค่าอยู่ที่ 103.432และ US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.308% หลังเงินเฟ้อสหรัฐลดลงได้ยาก

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIPสัปดาห์ที่ผ่านมาซื้อสุทธิ
+419.36ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -0.14 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +475.13 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -55.63 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 35.9 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่4.328 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +14จุด อยู่ที่ 2,377

(-) BitCoinเช้านี้-1.37% อยู่ที่ 67,416ดอลลาร์สหรัฐ

Economic Calendar

ในประเทศ

13 มี.ค. ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

29 มี.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที4 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์

กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

สัปดาห์ที5 สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม

สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนี

ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

ต่างประเทศ

18 มี.ค. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI (ก.พ.)

20 มี.ค. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

21 มี.ค. US การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ FOMC

US การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (มี.ค.)

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (มี.ค.)

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตัวรับความหวังเศรษฐกิจจีนเริ่มดีขึ้น ลุ้น Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย

(1)กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, HMPRO*, ILM*, CPN*, CRC, MC*, KAMART*, CBG*, ICHI*, RBF*

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัวจากฐานต่ำปี66 AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, SAPPE*, DELTA, KCE*, EPG*, NYT*, SJWD*

(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*

(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ เริ่มลดลง BGRIM*, GPSC*

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA, SUSCO*

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

Today Fundamental Research: -

Monthly Portfolio March 2024: GFPT*, BDMS, BSRC*, CPALL, AAV*