วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกสลับลบ จากตลาดขาดปัจจัยบวกใหม่ ประกอบกับผลการด่าเนินงานที่ประกาศออกมา หลายบริษัทรายงานงบต่่ากว่าที่ตลาดคาด ท่าให้มีแรงขายในหุ้นหลายบริษัทโดยมีแรงขายหุ้นกลุ่มค้าปลีก อาหาร และขนส่ง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,362.59 จุด-4.83 จุด -0.35% มูลค่าการซื้อขาย 40,326 ลบ.Program Trading -495.84 ลบ. ต่างชาติ -583.30ลบ. TFEX +28,335 สัญญา ตราสารหนี้+1,396.97 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ มูดีส์ อินเวสเตอส์ เซอร์วิส (Moody's Investors Service) ปรับเพิ่มการคาดการณ์ GDP ของอินเดียสู่ระดับ 6.8% จากเดิม 6.1%เนื่องจากอินเดียมีแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในไตรมาสล่าสุด และคาดว่าแนวโน้มดังกล่าวจะด่าเนินต่อไปในปีนี้
+ บิตคอยน์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะลุระดับ 67,000 ดอลลาร์หรือมากกว่า 2,400,000 บาท ท่าสถิติสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2564
+ กลุ่มฮามาสยืนยันเดินหน้าเจรจาในกรุงไคโรของอียิปต์เพื่อบรรลุข้อตกลงหยุดยิง แม้ว่าอิสราเอลตัดสินใจไม่เข้าร่วมการเจรจาก็ตาม
+ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่าธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ หรือศูนย์กลางข้อมูลในไทยก่าลังขยายตัวและไทยเป็นหนึ่งในหมุดหมายส่าคัญของการลงทุนในธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ โดยไทยต้องการเป็น ฮับดาต้าเซ็นเตอร์ของภูมิภาค คาดว่าไทยจะสามารถดึงดูดการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์มูลค่า 7,800 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 2.7 แสนล้านบาทในช่วงปี 67-70

ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 97.55 จุด หรือ -0.25% และดัชนีS&P500 ปิดลดลงเล็กน้อยหลังการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนขณะที่นักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายก่อนการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐ และก่อนนายเจอโรม พาวเวล ประธาน เฟด แถลงนโยบายการเงินต่อสภาคองเกรสสหรัฐในสัปดาห์นี้
- สัญญาน้่ามันดิบ WTI ลดลง 1.23 ดอลลาร์ หรือ -1.54% ปิดที่78.74 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่กลุ่มโอเปกพลัสมีมติขยายเวลาลดก่าลังการผลิตน้่ามันโดยสมัครใจไปจนสิ้นไตรมาส 2/2567 เพื่อพยุงราคาน้่ามันในตลาด
- เจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนแถลงในการประชุมสองสภาประจ่าปีของจีนว่าเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการว่างงานในกลุ่มคนวัยหนุ่มสาวเป็นประเด็นที่น่ากังวลอย่างยิ่ง และก่าลังหารือเกี่ยวกับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจส่าหรับปีนี้
- สภาพัฒน์แถลงภาวะสังคมไทยใน 4Q66 และภาพรวมปี 2566 ว่าแม้สถานการณ์ครัวเรือนไทยจะเริ่มขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงแต่พบว่าสินเชื่อส่วนบุคคลยังขยายตัวถึง 15.6% โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินเชื่อจ่าน่าทะเบียนที่เพิ่มขึ้นถึง 40.2% สะท้อนให้เห็นการขาดสภาพคล่องของครัวเรือนที่รุนแรง ขณะเดียวกันหนี้เสียของสินเชื่อส่วนบุคคลยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนต่อสินเชื่อรวมถึง 4%เพิ่มขึ้นจากเพียง 2.4% เมื่อปลายปีก่อน

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยนักลงทุนยังจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธาน เฟด แถลงนโยบายการเงินต่อสภาคองเกรสสหรัฐในสัปดาห์นี้ ขณะที่ราคาน้่ามันดิบที่ปรับตัวลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดกรอบดัชนีวันนี้ที่1,355-1,370 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
• ฟรีวีซ่าไทย-จีน : AOT AAV MINT CENTEL ERW SPA SKY
• FTSE Large Cap. : เข้า – ออก CPF HMPRO IVL SCGP FTSE Mid Cap. : เข้า CPF HMPRO IVL SCGP ออก -FTSE Small Cap. : เข้า – ออก KEX RABBIT RAM SAMART WORK ใช้ราคาปิด 15 มี.ค.
• BTC ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง : JTS ZIGA BROOK TTA