สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(28 กุมภาพันธ์ 2567)-------ซีพีเอฟ ปิดยอดขายปี 2566 ที่ 585,844 ล้านบาท ต้นทุนและราคาสุกรฉุดผลการดำเนินงาน
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ รายงานผลการดำเนินงานปี 2566 โดยมีรายได้จากการขาย 585,844 ล้านบาท เป็นส่วนของกิจการที่ลงทุนในต่างประเทศร้อยละ 62 กิจการที่ขายในประเทศไทยร้อยละ 32 และรายได้จากการส่งออกจากประเทศไทยร้อยละ 6 โดยรายได้จากการขายรวมลดลงร้อยละ 4.6 จากปีก่อน ซึ่งเป็นผลหลักจากราคาสุกรที่อยู่ในระดับต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้นมาก และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่นำมาใช้ในการแปลงค่างบการเงินของบริษัทย่อยต่างประเทศ
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร กล่าวถึงผลการดำเนินงานว่า ปี 2566 ที่ผ่านมาเป็นปีที่ท้าทายอย่างมาก ต้นทุนด้านต่างๆ ทั้งวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต ค่าพลังงาน และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งในเรื่องกำลังซื้อที่ยังอ่อนตัวในหลายประเทศที่ส่งผลให้เกิดภาวะเนื้อสัตว์ล้นตลาดในหลายประเทศ ทำให้ระดับราคาสินค้าไม่สามารถสะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะราคาสุกรในประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบจากการนำเข้าเนื้อสัตว์ผิดกฎหมายที่กดดันราคาอยู่ในระดับที่ต่ำมาก อีกทั้ง ราคาสุกรในประเทศจีนที่ลดลงจากภาวะล้นตลาดทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทร่วมในประเทศจีนไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2566 จึงไม่เป็นไปตามเป้าหมาย มีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 5,207 ล้านบาท โดยบริษัทได้มีการปรับแผนการดำเนินงานให้ความสำคัญด้านประสิทธิภาพและการใช้กำลังการผลิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีแผนกลยุทธ์ระมัดระวังในการลงทุนขยายงานและค่าใช้จ่ายให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและความพึงพอใจของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
คุณประสิทธิ์กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2567 ว่า กำลังซื้อที่ยังไม่มีแนวโน้มการเติบโตที่ชัดเจนในหลายประเทศ และการนำเข้าสุกรที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย ยังคงเป็นความท้าทายของอุตสาหกรรม ผลจากการปรับแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ประกอบกับแนวโน้มราคาวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตอาหารสัตว์ในตลาดโลกที่อ่อนตัวลง รวมทั้ง การจำหน่ายเงินลงทุนบางส่วนในประเทศจีนในปีที่ผ่านมา ทำให้เชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานของบริษัทปี 2567 นี้จะดีขึ้นจากปีที่ผ่านมาแน่นอน