AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ผ่านพันสี่มีไปต่อ
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ
Market Strategy
คาด SET Index คาดวันนี้ขึ้นทดสอบแนวต้าน 1400 1415 จุด ปัจจัยแวดล้อมต่างประเทศเป็นบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้แรงหนุนจาก NVIDIA ปรับขึ้น 16% จากรายงานผลประกอบการที่ดีกว่าตลาดคาด ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคฯฟื้นแรงสะท้อนได้จาก NASDAQ ที่ปรับขึ้น 3% มากกว่า S&P500 2% และ Dow jones 1% นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น 1.2%จากความไม่สงบในตะวันออกกลางเป็นแรงหนุน

วานนี้ ตลท. เตรียมปรับเกณฑ์เข้มงวด Short Selling มากขึ้น ผ่าน 1) Market Cap ขั้นต่ำจากเดิม 5 พันล้านบาทเป็น 7.5 พันล้านบาท 2) Turnover ต่อเดือนมากกว่า 2% 3) หุ้นที่ราคาลงมากกว่า 10% ใช้ Uptick Rule 4) กำหนด Daily Limit และเปิดเผยข้อมูล Outstanding ซึ่งทาง ตลท. จะมีการจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นต่อไป ประเมินการยกระดับเกณฑ์ข้างต้นผลระยะกลาง-ยาวจะช่วยลดความ ผันผวนที่ผิดปกติของราคาหุ้น ขณะที่ผลบวกระยะสั้นช่วยเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับมา อีกด้านอาจทำให้มีการ Cover Short โดยเฉพาะหุ้นที่ปริมาณ Shot Sales สูงที่ราคา Underperform ตลาดและไม่เข้าเกณฑ์เงื่อนไขหุ้นที่สามารถ Short Selling ได้ ตามเกณฑ์ใหม่นี้ (EPG DOHOME และ AEONTS)

Market Summary
SET Index ปรับขึ้นต่อ 8.86 จุด จากแรงหนุนของหุ้นกลุ่ม Big Cap ที่นำโดย การรายงานงบ 4Q66ของ BDMS ที่ดีกว่าตลาดคาดหนุนราคา 5.26% การรีบาวน์ของ ADVANC 2% และการฟื้นตัวของ EA +4% จากมาตรการสนับสนุนการใช้ EV ในเชิงพาณิชย์ ส่วนหุ้นที่ปรับลงกดดันหลักมาจาก DELTA -1% และการถูก Sell on Fact ของ BH -1.7% นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3.4 พันล้านบาท

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ KTB MOSHI

MOSHI งบ 4Q66 ดูดีและปีนี้ยังน่าจะดี
รายงานกำไรสุทธิ 4Q66 ที่ 151 ล้านบาท (+28% YoY, +86% QoQ) สูงกว่าตลาดคาดราว 12% แรงหนุนมาจาก SSSG ขยายตัวและประสิทธิภาพการทำกำไรอยู่ในเกณฑ์ที่ดีทั้ง GPM ได้แรงหนุนจากเพิ่มกลุ่มสินค้า high margin (กลุ่ม PET Accessories และสินค้าตกต่างบ้าน) และรวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายสะท้อนผ่านมายัง SG&A/sales ลดลงจากงวดก่อน
ส่วนทิศทางผลประกอบการปี 2567 Consensus คาดเติบโตราว 27% จากยอดขายยังคงเติบโตจากการขยายสาขาและกำลังซื้อทั้งในประเทศและนักท่องเที่ยวดีขึ้นรวมถึงการเพิ่มสินค้าHigh Margin
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 58.00บาท

KTB ลุ้นปันผลออกมาดี หนุนราคาหุ้น
หากประเมินจาก ธ.พ.ที่ทยอยประกาศจ่ายปันผลในช่วงก่อนหน้าอย่าง SCB และ TTB ที่มีแนวโน้มเพิ่ม Dividend Payout Ratio ขึ้น โดยถ้า KTB (จ่ายปันผลปีละครั้ง) ทำไปแนวทางเดียวกันเชื่อว่าราคาหุ้นจะตอบสนองในเชิงบวก
นอกจากนี้ในระยะสั้นยังมีปัจจัยบวก 2 ประการจาก 1) การส่งสัญญาณของ ธปท. ที่จะยังไม่มีการจัดประชุมนัดพิเศษเพื่อพิจารณาดอกเบี้ยฯ ลดความกังวลเรื่องลดดอกเบี้ยฯ เร็วกว่าเดิม (กระทบ NIM)) และ 2) งบประมาณภาครัฐฯปี 2567 ที่เชื่อว่าจะผ่านและเริ่มเบิกจ่ายช่วง 2Q67 เป็นต้นไป ซึ่ง KTB จะได้ประโยชน์จากการปล่อยสินเชื่อโครงการรัฐฯ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 22.00 บาท

KEY FACTOR
ตลาดหุ้นจีนยังสร้าง sentiment เชิงบวกต่อตลาดเอเชีย Shanghai Composite ปรับตัวขึ้นแรง +1.27% รวมทั้งสิ้นปรับตัวขึ้น 10.6% ในช่วง 7 วันทำการที่ผ่านมา จากการออกมาตรการพยุงหุ้นและกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทยอยมีมาต่อเนื่อง ล่าสุดมีกฎห้ามนักลงทุนสถาบันฯ Net Selling ช่วง 30 นาที ตอนตลาดเปิดและปิด
ตลาดหุ้นไทยได้อานิสงค์บวกจากปัจจัยดังกล่าว และแรงหนุนจากการออกมาตรการเข้มงวดการ Short Selling หนุน SET Index ยืน 1,400 จุด ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อต่อเนื่องอีก 3.4 พันล้านบาท (สองวันทำการซื้อสุทธิ 9.7 พันล้านบาท) ซึ่งมีโอกาสที่จะยังคงโมเมนตัมเชิงบวกในรอบการฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง
ปัจจัยอื่นๆ เดือน ก.พ. ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯยืนระดับ 51.5 สูงกว่าคาด 50.7 และสูงสุดในรอบ 1 ปีส่วนภาคบริการ 51.3 ต่ำกว่าคาดที่ 52.3

Eyes on
ในสัปดาห์ การรายงานงบ 4Q66
23 ก.พ. ส่งออกไทยเดือน ม.ค.

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ