AT THE OPEN (#ATO)
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ
Market Strategy
คาด SET Index แกว่งตามกรอบ 1380-1400 จุด ปัจจัยขับเคลื่อนวันนี้อยู่ที่การรายงาน GDP Growth 4Q66E ของบ้านเราซึ่ง Bloomberg Consensus คาดขยายตัว 2.5%YoY ซึ่งสูงกว่า สศค. คาดที่ 1.8%YoY พอสมควร หากออกมาต่ำคาดคาดอาจสร้าง Downside Risk ต่อการปรับลด GDP 67E ของหลายสำนักเศรษฐกิจตามมา แต่อีกด้านหนึ่งเปิดช่องต่อรัฐบาลในการใช้เป็นเหตุผลต่อการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ปัจจัยต่างประเทศมองผสมผสาน โดยฝั่งสหรัฐฯความกังวลเรื่องเงินเฟ้อฯและปรับลดดอกเบี้ยฯของ FED กลับมาทกดดันตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับลง -0.4% ถึง -0.8% หลังรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ม.ค. ขยายตัว 0.3%MoM มากกว่า Bloomberg Consensus คาด 0.1%MoM ทำให้ตลาดคาดว่าการปรับลดดอกเบี้ยฯครั้งแรกเลื่อนไปที่เดือน มิ.ย.67 ส่วนตลาดหุ้นจีนวันนี้เปิดทำการวันแรก ซึ่งเชื่อว่ามีโอกาสตอบรับเชิงบวกจากปัจจัยหนุนจากการรายงานตัวเลขการใช้จ่าย/เดินทางช่วงเทศกาลตรุษจีนมีสัญญาณฟื้นตัวดี ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ยังคงปรับขึ้น +0.74% จากความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ยังสูง กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

Market Summary
SET Index ดีดในช่วงแรกก่อนสุดท้ายปิดติดลบ 1 จุด หุ้นที่ปรับขึ้นหนุนตลาดมาจากกลุ่มพลังงาน นำโดย PTT 2.9ptt% จากการรายงานงบดีกว่าตลาดคาด PTTEP 2% และโรงกลั่น SPRC BCP จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น รวมถึงการรีบาวน์ของหุ้นในกลุ่ม ธ.พ. ปรับขึ้น 1% ส่วนกลุ่มที่ลงแรงกลุ่มอิเล็คฯ DELTA -4.9% หลังส่งสัญญาณการชะลอตัวของยอดขาย 1Q67 และกลุ่มปิโตรฯ IVL -4.1%

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ PTT SPA
PTT
ทิศทางผลประกอบการเราคาดกำไรจะเติบโต 16%/9% ในปี 68/69 โดยได้รับแรงหนุนจากราคาก๊าซทั่วโลกที่ลดลงและส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากบริษัทในเครือ
ราคาหุ้นจะสามารถ Outperform ตลาดได้โดยในระยะสั้นได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นและทรงตัวในระดับสูงจากความตึงเครียดในวันออกกลาง และทิศทางราคาก๊าซธรรมชาติอยู่ในแนวโน้มปรับลงเป็นบวกต่อธุรกิจก๊าซธรรมชาติ
Valuation ยังคงน่าสนใจที่ P/BV 0.87 เท่า ซึ่งเป็นส่วนลดที่สูงมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยปี 10 ปีที่ 1.2 เท่า และต่ำกว่า PTTEP ซึ่งเทรดที่ P/BV 1.17 เท่าอยู่มาก
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 40.00 บาท

SPA
กำไรดูดี
ทิศทางกำไรปี2567 จะเติบโตตามการท่องเที่ยวที่เชื่อว่ากลยุทธ์การขยายฐานนักท่องเที่ยวไปที่ตลาดยุโรป ตะวันออกกลางและกลุ่มลูกค้าภายในประเทศจะเห็นผลมากขึ้น นอกจากนี้ประสิทธิภาพการทำกำไรที่ดีขึ้นจาก Utilization Rate และการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยลดต้นทุนเป็นอีกหนึ่งปัจจัยช่วยขับเคลื่อนการเติบโต
ขณะที่กำไร 4Q66E มีโอกาสทำ All Time High ตามจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นและ1Q67E เชื่อว่าจะมี Momentum ที่ดีต่อตามตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้าสู่ High Season โดยเฉพาะการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาในช่วงตรุษจีน
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 14.30 บาท

KEY FACTOR
PPI สหรัฐฯ เดือน ม.ค. เป็นแนวโน้มขาลงต่อเนื่อง แต่สูงกว่าที่ตลาดคาด
ดัชนี PPI ของสหรัฐฯ เดือน ม.ค. +0.9% YoY และ +0.3% MoM สูงกว่าที่ตลาดคาด +0.6% YoY และ +0.1% MoMส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี และ 10 ปี กลับมาเร่งตัวแตะระดับ 4.64% และ 4.28% สูงใกล้เคียงกับจุดสูงสุดที่ทำไว้ 4.65% และ 4.31% ตามลำดับ นอกจากนี้ในระยะสัปดาห์จะมีการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ตอกย้ำว่าดอกเบี้ยขาลงน่าจะไม่เกิดขึ้นเร็วหรืออาจจะช้าไปเป็นครึ่งปีหลัง แต่อย่างไรก็ตามมุมมองตลาดปัจจุบันให้น้ำหนักการลดดอกเบี้ยเหลือเพียง 4 ครั้ง ดังนั้น ผลกระทบเชิงลบต่อ Risk sentiment น่าจะจำกัด

ตลาดหุ้นจีนกลับมาเปิดทำการหลังจากช่วงหยุดยาวตรุษจีน โดยในระหว่างสัปดาห์จะมีการประกาศดอกเบี้ย ซึ่ง Consensus คาดว่าจะปรับลดดอกเบี้ย LPR อายุ 5 ปี ลง 10 bps จาก 4.2% สู่ระดับ 4.1% แต่จะยังคงดอกเบี้ย LPR อายุ 1 ปี ที่ระดับ 3.45% คงโมเมนตัมการฟื้นความเชื่อมั่นและกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง

Eyes on
ในสัปดาห์ การรายงานงบ 4Q66, ตลาดหุ้นจีนกลับมาเปิดทำการหลังหยุดยาวตรุษจีน
19 ก.พ. GDP 4Q66 ของไทย
20 ก.พ. จีนกำหนดดอกเบี้ย LPR 1 ปี และ 5 ปี
22 ก.พ. รายงานการประชุม FOMC, S&P Global PMI สหรัฐฯ, HCOB PMI Eurozone

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ