Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : HMPRO คงคำแนะนำซื้อ ลดราคาเป้าหมายเหลือ 15 บาท

372

 


Home Product Center (HMPRO TB)
คาดกำไร 4Q66 อ่อนแอแต่จะฟื้นใน 1Q67

ลดราคาเป้าหมายเหลือ 15 บาท แต่ยังคงคำแนะนำ ซื้อ
เราปรับลดประมาณการกำไรปี 66/67 ลง 6%/9% เพื่อสะท้อน SSSG ที่อ่อนแอกว่าคาดในปี 66 อย่างไรก็ตาม เราคงคำแนะนำ ซื้อ เนื่องจากคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวใน 1Q67 พร้อม valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจ เราคาดว่า HMPRO จะได้รับอานิสงส์จากมาตรการ E-receipt การเร่งเปิดสาขาในปี 66 และยอดขาย private label ที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ หุ้น HMPRO ซื้อขายที่ P/E ปี 67 ที่ 20.5 เท่า หรือต่ำกว่าค่าเฉลี่ย -2 SD ราคาเป้าหมายลดลงเหลือ 15 บาท (จาก 18 บาท) แต่ยังมีอัพไซด์อยู่ 42%


ลดประมาณการกำไรเนื่องจาก SSSG ปี 66 อ่อนแอ
เราปรับลดประมาณการกำไรสำหรับปี 66/67 ลง 6%/9% เพื่อสะท้อน SSSG ที่อ่อนแอกว่าที่ประเมินไว้ในปี 66 ทั้งนี้ จากการบริโภคและการชะลอซื้อสินค้าใน 4Q66 เราปรับลดประมาณการ SSSG ปี 66 ของ Home Pro ลงเหลือ 0% จาก 5% และของ Mega Home เป็น -3% จาก -2% เราคาดว่า SSSG ปี 67 จะฟื้นเป็นที่ +3% สำหรับทั้ง Home Pro และ Mega Home ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มจะดีขึ้น 18 bps YoY เป็น 26.3% ในปี 66 และ 7bps YoY เป็น 26.4% ในปี 67 จากสัดส่วนสินค้า private label ที่เพิ่มขึ้น เราประเมินกำไรสุทธิปี 66 เพิ่มขึ้น 3% YoY เป็น 6.40 พันล้านบาท และเพิ่มขึ้น 6% YoY เป็น 6.79 พันล้านบาทในปี 67

 

กำไรมีแนวโน้มลดลง 1% YoY ใน 4Q66
เราประเมินกำไร 4Q66 ของ HMPRO (ประกาศวันที่ 27 ก.พ.) เพิ่มขึ้น 7% QoQ เป็น 1.64 พันล้านบาท ผลจากปัจจัยตามฤดูกาล แต่ลดลง 1% YoY เนื่องจาก SSSG ที่อ่อนแอและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เราคาดว่า SSSG จะอยู่ที่ -9% เทียบกับ -3.6% ใน 3Q66 และ +2.9% ใน 4Q65 เนื่องจากผู้บริโภครอใช้สิทธิ์ตามมาตรการ E-receipt ใน 1Q67 นอกจากนี้ SSSG ของ Mega Home มีแนวโน้มอ่อนแอที่ -8% เราคาดว่ายอดขายใน 4Q66 จะลดลง 1% YoY เนื่องจากการขยายสาขาอาจช่วยบรรเทาผลกระทบจาก SSSG ที่อ่อ่นแอได้ส่วนหนึ่ง อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 9bps YoY เป็น 26.2% ใน 4Q66 เนื่องจากสัดส่วนสินค้า private label เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากการเปิดสาขาใหม่

 

Valuation น่าสนใจ
จากการปรับประมาณการกำไร ส่งผลให้ราคาเป้าหมายอิงวิธี DCF ของเรา (7.3% WACC, G. 3%) ลดลงเหลือ 15 บาท จาก 18 บาท โดยหุ้นซื้อขายที่ P/E ปี 67 ที่ 20.5 เท่า หรือต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอยู่ -2 SD โดยมีอัพไซด์ 42% เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายใหม่ เราคาดว่ากำไร 1Q67 จะฟื้นตัวสอดคล้องไปกับมาตรการ E-receipt และรับผลบวกเต็มที่จากสาขาใหม่ 10 แห่งที่เปิดในปี 66 ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะสูงขึ้นเนื่องจากสัดส่วนยอดขายสินค้า private label ที่เพิ่มขึ้น


Suttatip Peerasub
suttatip.p@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1430

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

TMILL ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผู้ถือหุ้นโหวตรับปันผลอัตรา 0.07 บาทต่อหุ้น

TMILL ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผู้ถือหุ้นโหวตรับปันผลอัตรา 0.07 บาทต่อหุ้น

ไปไม่ไกล By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ วันนี้ ภาพรวมหุ้นไทย คงวิ่งไม่ไกล ไม่แรง ด้วยทั่วโลก จับตา ประธานเฟด แถลงผลประชุม 1พ.ค.67 ...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้