สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(19 มกราคม 2567)-----บมจ.ณุศาศิริ (NUSA) เปิดเผยว่าฝ่ายบริหารของ บมจ.ณุศาศิริ ขอรายงานคดีที่มีนัยสำคัญต่อผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และผู้มีส่วนได้เสีย ดังนี้

ข้อ 1 บริษัท เค พีเอ็น เอนเนอยี (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดประขุมวิสามัญผู้ถือหุ้น บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัดไปเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 เวลา 9.00 น. ณ ห้อง Lotus Ballroom โรมแรมเมอเวนพิค โดยการจัดประชุมดังกล่าวเป็นไปตามคำขอบังคับดีตามคำพิพากษา คดีหมายเลขแดงที่ อ 1753/ 2566 เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 ของศาลอาญากรุงเทพใต้

ข้อ 2 การใช้สิทธิบังคับคดีของ บริษัท เค พีเอ็น เอนเนอยี (ประเทศไทย) จำกัด มีผลต่อผู้เกี่ยวข้องทั้งปวง เว้นแต่ (1) ศาลอุทธรณ์ หรือ ศาลฎีกามีคำพิพากษาเป็นอื่น หรือ (2) ศาลมีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับและได้รับอนุญาตจากศาล ทั้งนี้การที่ บริษัท เค พีเอ็น เอนเนอยี (ประเทศไทย) จำกัด สามารถจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น แสดงว่าศาลอาญากรุงเทพใต้ ไม่มีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับคดีแต่อย่างใด

ข้อ 3 ฝ่ายบริหารของ บมจ.ณุศาศิริ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายแล้ว มีความจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อเป็นการรักษาสิทธิผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ โดยสุจริตรวมถึงผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholders) โดยได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เป็นคดีหมายเลขดำที่ พ 101/2567 ลว. 18 มกราคม 2567 เพื่อขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนสัญญาทั้งปวงอันมีผลให้ บมจ.ณุศาศิริ เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด และผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด ในส่วนกังกล่าว เป็นผู้ถือหุ้นของ บมจ.ณุศาศิริ

ทั้งนี้ศาลมีคำพิพากษาตามคำขอคาดว่าจะส่งผล ดังนี้

ข้อ 3.1 ผลกระทบเมื่อมีคำพิพากษาของศาลชั้นต้น บริษัท ธนาพาวเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งได้รับหุ้นของบริษัทฯ จากธุรกรรมข้างต้น จำนวน 1,678,495,050 หุ้น ย่อมไม่มีสถานะการเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทตั้งแต่ต้น เนื่องจากไม่มีกรรมสิทธิในหุ้นของบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี้ โฮลดิ้ง จำกัด ดังนั้นบริษัทจะต้องปรับปรุงรายงานทางการเงิน คือ นำเงินลงทุนในหลักทรัพย์ของ บริษัท วินด์เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด ออกจากรายงานการเงินส่วนของสินทรัพย์ และ ลดจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่าย จำนวน1,678,495,050 หุ้น ในมูลค่าเท่ากัน

ข้อ 3.2 ผลกระทบต่อรายงานทางการเงินของบริษัทในอดีตที่ผ่นมา โดยบริษัทได้รับเงินปันผลจาก บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี้ โฮลดิ้ง จำกัด ในส่วนที่ได้มาจากสัญญาข้างตันจนถึงปัจจุบันมีมูลค่ของผลตอบแทนต่ำกว่าตันทุนทางการเงินของบริษัท ดังนั้นหากบริษัท เค พีเอ็น เอนเนอยี (ประเทศไทย) จำกัด จะใช้สิทธิทางศาลเพื่อเรียกคืนเงินปันผลดังกล่าวจากบริษัท ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม.406 ทางฝ่ายบริหารของบริษัทเชื่อมั่นว่าบริษัทไม่มีความจำเป็นต้องคืนเงินปันผลตามมาตรา 412 ด้วยเหตุผลที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น

บริษัทคาดว่าบริษัท เค พีเอ็น เอนเนอยี (ประเทศไทย) จำกัด น่าจะสามารถดำเนินการตามมติที่ประชุมวันที่ 17 มกราคม2567 ภายในระยะเวลา 37 วันทำการ การรายงานช้อมูลข้างตันทั้งหมดของบริษัท ส่งผลให้หน่วยงานใดที่เกี่ยวข้อง หากมีการกระทำการโดยประมาท เลิ่นเล่อ ต่อคำร้องขอใดๆ ของบริษัท ธนาพาวเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด หากในอนาคตศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนสัญญาทั้งปวงระหว่างบริษัทและบริษัท ธนาพาวเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด จะมีผลทำให้บริษัท ธนาพาวเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด ไม่ได้มีสถานะการเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทตั้งแต่ต้น หากปรากฎว่าผู้ถือหุ้นรายหนึ่ง รายใดได้รับผลกระทบจากการใช้สิทธิโดยไม่มีสิทธิแต่ต้น ฝ่ายบริหารจะให้ความสนับสนุนด้านข้อมูลเพื่อการดำเนินการตามสิทธิของผู้ถือหุ้นรายนั้นๆ ร้องขอ