Today’s NEWS FEED

News Feed

ผู้ถือหุ้น NUSA รวมตัวร้อง “ดีเอสไอ” เหตุจ่อขายทรัพย์สินบริษัทล็อตใหญ่ 1.1 หมื่นล้าน เชื่อหลายธุรกรรมไม่โปร่งใส จนขาดทุน 8 ปีรวด

304

 

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(26 ธันวาคม 2566)-----ผู้ถือหุ้นรายย่อย NUSA สุดทน รวมตัวร้อง “ดีเอสไอ” ตรวจสอบมติคณะกรรมการขาย ทรัพย์สินบริษัทออก 1.1 หมื่นล้านบาท แทบหมดบริษัท แต่ไม่รายงานหรือจัดประชุมผู้ถือหุ้น เข้าข่ายปกปิดธุรกรรมสำคัญ หลอกลวงนักลงทุน วอนหน่วยงานรัฐจัดการโดยเร็ว ก่อนเกิดความ เสียหายเกินเยียวยาแก่นักลงทุนรายย่อยเกือบ1หมื่นคนเชื่อหลายธุรกรรมที่ถูกเรียกชี้แจงมีส่วน ทำบริษัทขาดทุนรวด 8 ปี รวมขาดทุนสะสมกว่า 3 พันล้านบาท

 

นายเสรี หัตถะรัชต์ ตัวแทนกลุ่มผู้ถือหึ้นรายย่อยที่ได้รับความเสียหายจากการลงทุนใน บริษัท ณุศาศิริ จากัด (มหาชน) หรือ NUSA เปิดเผยหลังนำผู้ถือหุ้นรายย่อยรวม 30 คน เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อกรม สอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า นักลงทุนรายย่อยรวมตัวกันมาขอความช่วยเหลือจากดีเอสไอ ให้ตรวจสอบ การดาเนินการที่เชื่อว่าไม่โปร่งใสของคณะกรรมการ NUSA ที่อนุมัติให้ผู้บริหารขายทรัพย์สินของบริษัท ออกไป 6 รายการเป็นเงินกว่า 1.1หมื่นล้านบาทหรือเกือบ70%ของทรัพย์สินทั้งหมดบริษัท 1.6 หมื่นล้านบาทซึ่งจะกระทบต่อบริษัทอย่างมหาศาล โดยไม่ได้แจ้ง หรือจัดการประชุมให้ผู้ถือหุ้น ในฐานะเจ้าของบริษัทตัวจริงได้ รับทราบหรืออนุมัติเชื่อว่าเป็นการปกปิดธุรกรรมอันมีสาระสำคัญในการดาเนินงานอาจจะเข้าข่ายหลอกลวงนักลงทุน ละเมิดสิทธิ์ผู้ถือหุ้น และยังเข้าข่ายผิดพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535


“ถ้าหน่วยงานรัฐไม่ช่วยยับยั้งการกระทาดังกล่าวโดยเร็ว หากเกิดความเสียหาย จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง เพราะมีผู้ถือหุ้นรายย่อยใน NUSA เกือบ 1 หมื่นราย ในจำนวนนี้มีผู้ถือหุ้นมากมายที่เข้ามาลงทุนใน NUSAเพราะเชื่อตามที่ฝ่ายบริหารนาเสนอว่าบริษัทจะเข้าสู่ธุรกิจพลังงานจะมีรายได้ที่มั่นคงนักลงทุนก็คล้อยตามเพราะช่วงไวรัสโควิด-19ระบาดธุรกิจพลังงานแทบไม่ได้รับผลกระทบจึงพากันเข้ามาลงทุนแต่มาวันนี้กลับมีมติขายธุรกิจพลังงานทิ้งทั้งหมดโดยไม่แจ้งผู้ถือห้นุ แบบนี้เข้าข่ายหลอกลวงนกัลงทุนหรือไม่”

นายเสรี กล่าวว่า นอกจากขายทรัพย์สินออกไปครั้งมโหฬาร กลุ่มนักลงทุนรายย่อยก็ไม่เชื่อมั่นในกระบวนการขายทรัพย์สิน ว่าจะเป็นไปอย่างโปร่งใสหรือไม่ เพราะจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา มักถูกหน่วยงาน กำกับดูแลทั้งผู้ตรวจสอบบัญชี สานักงานคณะกรรมการกากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เรียกชี้แจงบ่อยครั้งเช่น กรณีล่าสุดที่ผู้บริหาร NUSA นำโครงการ อสงัหาฯของบริษัทไปขายให้กับบริษัทที่มีญาติตัวเองเป็นกรรมการในราคาต่ำกว่าตลาดพอถูกตลท.เรียก ชี้แจงก็อ้างว่าทำไปเพราะเข้าใจคลาดเคลื่อนโดยสุจริตทั้งที่เป็นผู้บริหารมานานมาอ้างแบบนี้ฟังขึ้น หรือไม่


“เรื่องใหญ่สุดที่จนวันนี้ บริษัทก็ยังตอบคำถามได้ไม่ชัดเจน คือ การเข้าซื้อธุรกิจโรงแรม Panacee Grand Hotel Roemerbad ในประเทศเยอรมนี จ่ายเงินไปแล้ว 711 ล้านบาท จากทั้งหมด 740 ล้านบาท ผู้รับ เงินไม่ใช่เจ้าของโรงแรม มันผิดปกติหรือไม่ ภายหลังมาประกาศเปลี่ยนจากซื้อธุรกิจโรงแรม ไปซื้อหุ้นบริษัทที่เป็น เจ้าของโรงแรมแทน ทั้งที่จ่ายเงินไปแล้ว ผลลัพธ์ตอนนี้ NUSA เลยได้หุ้นบริษัทเยอรมัน ที่มีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน 407 ล้านบาท คือได้บริษัทที่หนี้ท่วมเข้ามา ส่วนตัวโรงแรมที่ได้มา ก็ยังเปิดบริการไม่ได้ เลยไม่มีรายได้ เรื่องนี้สร้างความเสียหายแก่บริษัท และผู้ถือหุ้นอย่างร้ายแรง”

 

นายเสรี กล่าวอีกว่า เชื่อว่าการดำเนินธุรกรรมหลายรายการที่ผ่านมาอาจเข้าข่ายไม่โปร่งใส จนถูก เรียกชี้แจงบ่อยครั้ง และเชื่อว่าเหตุการณ์เหล่านั้น อาจมีส่วนทำให้ NUSA ขาดทุนติดต่อกันยาวนานถึง 8 ปี มี ผลขาดทุนสะสมมากกว่า3พันล้านบาทสร้างความเสียหายแก่ผู้ถือหุ้นมาโดยตลอดดังนั้น เพื่อความชอบ ธรรม กลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยของ NUSA จะเดินหน้าร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อรักษา ผลประโยชน์ของตนในฐานะผู้ถือหุ้น ภายใต้กรอบกฎหมายอย่างถึงที่สุด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

หุ้นขึ้นยาก By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง มองตลาดหุ้นไทย ดูท่า แลทาง น่าจะขึ้นยาก หุ้นขึ้นยาก ถ้าใช้เวลานาน คงไม่พ้นทางลง....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้