Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

344

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 17 ม.ค.67 ปิด -21.07 จุด อยู่ที่ 1,380.65 จุด มูลค่าการซื้อขาย 56,707 ลบ.ต่างชาติขาย 5,749 ลบ.สถาบันซื้อ 103 ลบ.พอร์ตโบรกขาย 540 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 5,534 ลบ. มียอดซื้อสุทธิในหุ้น KBANK,TU,RBF,BCH,SCGP และมียอดขายสุทธิ PTTEP,SCC,PTT,AOT,CPN มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 7,662 ลบ. หุ้นที่มีปริมาณ Short สูงคือ TCAP-R,WORK,KKP โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 26,749 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 84,958 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 1,142 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.25%, S&P500 -0.56%, Nasdaq -0.59% กลุ่มอสังหา -1.87%,สาธารณูปโภค -1.52% และกลุ่มเทคโนโลยี เช่น Amazon, Nvidia, Tesla ปรับลดลง หลังรายงานยอดค้าปลีกสหรัฐ ธ.ค. 0.6% สูงกว่าคาด 0.4% ส่งผลให้เฟดอาจตรึงดอกเบี้ยสูงนาน ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -1.13% กลุ่มสินค้าหรูหรา, รถยนต์, เหมืองแร่ & โลหะปรับลดลง ซึ่งเป็นกลุ่มที่พึ่งพาอุปสงค์จากจีน      

 Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง หลังยอดค้าปลีกสหรัฐ ธ.ค. 5.6% สูงกว่า พ.ย. 4.0% YoY และ NAHB เผยดัชนีเชื่อมั่นผู้สร้างบ้าน ม.ค. +7 จุด อยู่ที่ 44 สูงสุดนับตั้งแต่ ก.ย. 66 บ่งชี้การเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่ง ส่งผลให้เฟดอาจตรึงดอกเบี้ยสูงต่อไป ซึ่ง CME Fed Watch ชี้มีโอกาส 53.8% & เดิม 60% คาดเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยใน มี.ค. และ US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.1% นักลงทุนรอฟังความเห็นของ ปธ.เฟดสาขานิวยอร์ค จอห์น วิลเลี่ยมส์ (สายกลาง) ก่อนเข้าช่วง Blackout Period ก่อนการประชุมเฟดวันที่ 31 ม.ค. นี้ ค่ำวันนี้ติดตามตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขเริ่มสร้างบ้านสหรัฐ ธ.ค. ส่วนตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ หลัง ปธ.ECB คริสติน ลาการ์ด เผย ECB กำลังดำเนินมาตรการเพื่อกดดันให้เงินเฟ้อลงสู่ระดับเป้าหมาย 2 % แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งสวนทางกับตลาดคาดว่า ECB จะลดดอกเบี้ยปีนี้ 1.50% ขณะที่ ONS อังกฤษเผย CPI ธ.ค. ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.0% & พ.ย. 3.9% YoY เป็นผลจากอากรบุหรี่ และตั๋วเครื่องบินปรับขึ้น ส่งผลให้ตลาดคาด BOE มีโอกาส 60% จะเริ่มลดดอกเบี้ยในช่วงกลางปีนี้ และอาจช้ากว่า ธ.กลางอื่นๆ ทางฝั่งดัชนีภูมิภาคเอเชียวานนี้ปรับลดลง หลัง GDP จีน Q4/66 +5.2% & Q3/66 +4.9% YoY แต่ต่ำกว่าคาดที่ +5.3% กอปรมีสัญญาณการบริโภคชะลอตัวจากภาวะเงินฝืด, การลงทุนภาคเอกชนชะลอตัว และปัญหาหนี้ภาคอสังหา ฯ คาดจะส่งผลให้เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวช้า และกระทบลบต่อเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าในเอเชีย สำหรับดัชนี SET วานนี้ -1.5% ปริมาณการซื้อขาย 5.6 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 5.7 พัน ลบ. พอร์ตโบรกขาย 540 ลบ. รายย่อยซื้อ 6.1 พัน ลบ. ดัชนีถูกกดดันจากกลุ่ม Big Cap เช่น วัสดุก่อสร้าง, บรรจุภัณฑ์, ปิโตรเคมี และขนส่ง ซึ่งเป็นกลุ่ม Global Play ที่พึ่งพาอุปสงค์จากจีนที่ปีนี้คาดชะลอตัวต่อเนื่อง กอปรกับ US & Euro Bond Yield ปรับขึ้นจากความไม่แน่นอนว่าจะเริ่มลดดอกเบี้ยได้ใน มี.ค. หรือไม่ ส่งผลให้ Dollar Index แข็งค่าขึ้น สวนทางกับค่าเงินบาทอ่อนค่าวานนี้ปิดที่ 35.52 บาท/ ปัจจัยลบกดดันให้ Fund Flow ชะลอตัว ส่วนปัจจัยในประเทศรอความชัดเจน ม.ดิจิทัล วอลเล็ต และรายงานกำไรกลุ่มธนาคาร

Daily Strategy

  • ประเมินดัชนี SET เช้านี้มีโอกาสรีบาวน์จากภาวะขายมากเกินไป โดยมีแนวรับ 1,370 – 1,375 แนวต้าน 1,385 – 1,390 แต่การฟื้นตัวยังจำกัด ระหว่างรอการประชุม FED & ECB แนะนำพักเงินกลุ่มปลอดภัย & ปันผลสูง เช่น INTUCH, BH, AP, DMT, SAT / เก็งกำไรหุ้นที่มีสัญญาณบวกทางเทคนิค เช่น TKN, CBG, PRM, BSRC, SUN
  • ICHI* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 19.80 บาท) แนวโน้มกำไร 4Q66 ลดลง QoQ จากที่เป็นช่วง Low season แต่จะเติบโตได้ YoY ต่อเนื่องจากยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ดีขึ้น ส่วนแนวโน้มปี 67 ผู้บริหารคาดรายได้โต +10%YoY เป็น 8 พันล้านบาท โดยในช่วง 1Q67-2Q67 คาดเห็นกำไรโตได้ทั้ง QoQ, YoY หนุนจากการเข้าสู่ฤดูร้อน ประกอบแรงกดดันราคาน้ำตาลและ PET Resin ที่ปรับลดลง นอกจากนี้ผู้บริหารมองตลาดชาเขียวพร้อมดื่มในประเทศไทยยังสามารถเติบโต พร้อมทำการตลาดสินค้ากลุ่มอื่นในกลุ่ม Healthy Trend กลุ่มเครื่องดื่มน้ำอัดลม รวมถึงธุรกิจรับจ้างผลิต เพื่อเดินหน้าสู่ยอดขาย 1 หมื่นล้านบาท ภายใน 2 ปี (ปี 68) ปัจจุบันอัตราการใช้กำลังผลิตโดยเฉลี่ยยังอยู่ในระดับสูง และมีแผนเพิ่มไลน์การผลิต +13% เป็น 1,700 ล้านขวด ในช่วง 4Q67-1Q68 ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 66-67 ที่ 1.07 พันล้านบาท +66%YoY และ 1.15 พันล้านบาท +8%YoY
  • TKN* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 12.50 บาท) กำไรสุทธิ 9M66 อยู่ที่ 576 ลบ.,+84%YoY ฟื้นตัวดีตามรายได้ขายที่+27%YoY ซึ่งนอกจากจะมีแรงหนุนจากการบริโภคฟื้นตัว PostCovid-19 ในไทย/จีนแล้ว ยังมีปัจจัยเพิ่มเติมจาก การขยายช่องทางจำหนายในสหรัฐฯผ่านทาง COSTCO ด้านการดำเนินงานช่วงถัดไป ผู้บริหารวางเป้ารายได้ปี67 จะเติบโต +10-15% โดยตลาดตปท. เช่น จีน อินโดนีเซีย และ สหรัฐฯ ยังมีการเติบโตที่ดี สัดส่วนยอดขายตปท.ที่ 66% สัดส่วนยอดขายไทยอยู่ที่ 34%(จาก 9M66 ที่สัดส่วนตปท. และ ไทยอยู่ที่  64% และ 36%) ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี66 และ ปี67 ของ TKN* ที่ 730 ลบ. (+68%YoY) และ 814 ลบ.(+11%YoY)

 

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI ก.พ.+$0.16 อยู่ที่ $72.56/บาร์เรล, Brent มี.ค. +$0.41 อยู่ที่ $77.88/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากข่าวแหล่งผลิตน้ำมันที่รัฐนอร์ท ดาโคตา ลดกำลังการผลิต 50% จากภาวะอากาศหนาวเย็น แต่ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากอุปสงค์จากจีนคาดชะลอตัว หลัง GDP จีน Q4/66 ต่ำกว่าคาด

 

Gold Update(-) Comex Gold ก.พ. -$23.70 อยู่ที่ $2,006.50/ออนซ์ หลัง Dollar Index แข็งค่า +0.09% อยู่ที่ 103.450 และ US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.10%

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ
-229.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ   ขายหุ้นไทย -161.87 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด ฯ -68.51 ซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +1.13 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีทรงตัวอยู่ที่ 35.44 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.10 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -16 จุด อยู่ที่ 1,308

(-) BitCoin เช้านี้ -1.16% อยู่ที่ 42,590 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

11 ม.ค.     หอการค้าไทย ร่วมกับม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

ตลท. แถลงสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์ 

สัปดาห์ที3  ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

สัปดาห์ที4  ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์

สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม   

สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนี

ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

 

ต่างประเทศ

15 ม.ค.     US วันหยุด-วันรำลึกมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

17 ม.ค.     CN ดัชนีจีดีพี (GDP) ของจีน (ปีต่อปี) (ไตรมาส 4)

EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (ธ.ค.)

                US ดัชนียอดขายปลีก (เดือนต่อเดือน) (ธ.ค.)

18 ม.ค.     US ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (ม.ค.)

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

19 ม.ค.     US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (ธ.ค.)

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตัวรับความหวังเศรษฐกิจจีนเริ่มดีขึ้น ลุ้น Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย 

(1)กลุ่มการอุปโภคบริโภค  ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT, HMPRO, ILM, CPN, CRC, MC, KAMART, CBG, ICHI, RBF 

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัวจากฐานต่ำปี66  AAI, ITC, TU, COCOCO, SAPPE, DELTA, KCE, EPG, NYT, SJWD 

(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT, CENTEL, ERW, SPA, SISB, WPH 

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC, TIDLOR 

(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ เริ่มลดลง BGRIM, GPSC 

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA, SUSCO

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio January 2024: MENA*, TU*, ITC*, RBF*, CBG*

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

หุ้นใหญ่ฟื้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองเห็นหุ้นใหญ่หลายตัว ฟื้นตัว เนื้อตัวเต็มไปด้วยแสง สีเขียว ตามตลาดสหรัฐบวก ....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้