Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

321

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 16 ม.ค.67 ปิด -5.30 จุด อยู่ที่ 1,401.72 จุด มูลค่าการซื้อขาย 39,472 ลบ.ต่างชาติขาย 834 ลบ.สถาบันขาย 927 ลบ.พอร์ตโบรกซื้อ 253 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 1,636 ลบ. มียอดซื้อสุทธิในหุ้น WHA,MTC,SCB,CPALL,PTT และมียอดขายสุทธิ PTTEP,TISCO,AOT,DELTA,BBL มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 4,734 ลบ. หุ้นที่มีปริมาณ Short สูงคือ MAJOR,PTTEP-R,MBK โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 671 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 66,929 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 4,208 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.62%, S&P500 -0.37%, Nasdaq -0.19% จากแรงขายกลุ่มธนาคาร -1.2%, Apple -1.2% จากข่าวลดราคาขาย Iphone 15 ในจีน และ Boeing -8% ส่วนเฟดนิวยอร์เผยดัชนีภาคการผลิต ม.ค. อยู่ที่ -43.7 & ธ.ค. -14.5 ต่ำสุดนับตั้งแต่ พ.ค. 63 ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.24% จากแรงขายกลุ่มอสังหา, สาธารณูปโภค และธนาคาร      

 Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง หลังคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ คณะผู้ว่าการเฟดคาดลดดอกเบี้ยในปีนี้ แต่จะลดแบบระมัดวังและไม่ลดดอกเบี้ยเร็วอย่างที่ตลาดคาดการณ์ไว้ 6 ครั้ง ส่งผลให้ US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.074% และ CME Fed Watch ได้ลดโอกาสจะลดดอกเบี้ยใน มี.ค. จากเดิมคาด 76.9% ลงมาอยู่ที่ 63.3% ส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐ ขณะที่ S&P500 Bank Index -1.2% หลัง Morgan Stanley รายงานกำไร Q4/66 ต่ำกว่าคาด นักลงทุนรอรายงานกำไร Q4/66 ของ บจ. ใน S&P500 ซึ่ง FACTSET คาดจะ +1.6% & Q3/66 +4.9% YoY ค่ำวันนี้ติดตาม ยอดค้าปลีก, ผลผลิตภาคอุต และดัชนีราคาบ้านสหรัฐ ม.ค. รวมถึงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด 2 ท่าน ส่วนตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลง หลังหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ECB และ ปธ.ธนาคารกลางเยอรมันเผยยังเร็วไปที่ ECB จะพิจารณาลดดอกเบี้ย ส่งผลให้ Euro Bond Yield ผันผวน และตลาดคาดมีโอกาสเพียง 24% ที่ ECB จะลดดอกเบี้ยใน มี.ค. ค่ำวันนี้ติดตาม CPI ยูโรโซน ธ.ค. คาด 2.9% & พ.ย. 2.4% YoY ฝังเอเชียวานนี้ดัชนีภูมิภาคปรับลดลง หลังมีความไม่แน่นอนว่า FED & ECB จะเริ่มลดดอกเบี้ยได้เมื่อไร ขณะที่วันนี้รอตัวเลขเศรษฐกิจจีน เช่น GDP จีน Q4/66 คาด 5.2% & Q3/66 4.9% YoY, ผลผลิตภาคอุต ฯ ธ.ค.คาด 6.7% & พ.ย. 6.6% YoY และยอดค้าปลีกจีน ธ.ค. คาด 8% & พ.ย.10.1% YoY สำหรับดัชนี SET วานนี้ -0.38% ปริมาณการซื้อขาย 3.94 หมื่น ลบ. สถาบันขาย 927 ลบ. ต่างชาติขาย 834 ลบ. รายย่อยซื้อ 1.5 พัน ลบ. จากแรงขายกลุ่มอิเล็ก ฯ -2.0% หลัง US Bond Yield ปรับขึ้น และกลุ่มค้าปลีก -0.9% หลัง ครม.เลื่อนประชุมบอร์ด Digital Wallet โดย ปปช.มีความเห็นต่อโครงการดังกล่าวต้องพิจารณาให้รอบครอบ อาจส่งผลให้เริ่มโครงการไม่ทันตามกำหนดเดิมใน พ.ค. ภาพรวมการซื้อขายชะลอตัว และนักลงทุนเลือกพักเงินในกลุ่มปลอดภัย เช่น ขนส่ง, รพ. ขณะที่กลุ่มรับเหมาก่อสร้างปรับขึ้นรับการประชุม ครม.สัญจรที่ ระนองในสัปดาห์ ซึ่งคาดจะมีการพิจารณาโครงการแลนด์ บริดจ์ ประเด็นต้องติดตาม คือ รายงานกำไร ธ.พาณิชย์ใหญ่ในช่วงปลายสัปดาห์นี้       

Daily Strategy

  • ประเมินดัชนี SET มีโอกาสปรับลงสู่แนวรับ 1,390 – 1,395 แนวต้าน 1,410 หลังยังไม่ชัดเจน ธ.กลางหลักจะเริ่มลดดอกเบี้ยเมื่อไร และรอรายงกำไรกลุ่มธนาคาร แนะนำพักเงินในกลุ่มปลอดภัย เช่น INTUCH, BDMS, GULF/กลุ่มปันผล AP,SPALI,SAT,AH และเก็งกำไร AUCT,TKN,COCOCO มีสัญญาณบวกทางเทคนิค
  • COCOCO* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 11.60 บาท) บริษัทคาดรายได้ปีนี้เติบโต 30%YoY เป็นไปตามทิศทางของคำสั่งซื้อที่เพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง (ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าว กะทิ น้ำมะพร้าว) โดยฐานลูกค้าของ COCOCO มาจากต่างประเทศ 90 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีปัจจัยหนุนหลักๆ มาจากการขยายกำลังการผลิตน้ำมะพร้าวบรรจุกล่อง ในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมาได้เริ่มติดตั้งเครื่องจักรใหม่ตามแผนที่โรงงานราชบุรี (สิ้นปี 65 กำลังการผลิต 34 หมื่นตัน/ปี สิ้นปี 66 กำลังการผลิต 1.1 แสนตัน/ปี) ทำให้กำลังการผลิตใหม่เพิ่มจาก 1.1 แสนตัน/ปี เป็น 2.18 แสนตัน/ปี ในปี 67-69 เพื่อรองรับการขยายตลาดจีน ทั้งนี้จาก Consensus ตลาดคาดกำไรปี 66-67 ที่ 511 ล้านบาท +117%YoY และ 727 ล้านบาท +49%YoY
  • AUCT* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 13.20 บาท) ผลประกอบการ 3Q66 มีกำไรสุทธิ 94 ล้านบาท ดีขึ้น +44%QoQ, +40%YoY หนุนจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณรถเข้าสู่ลานประมูล เป็นผลจากสถาบันการเงินและความเข้มข้นในการติดตามยึดหลักประกัน ประกอบกับการปรับขึ้นค่าดำเนินการรถยนต์ตั้งแต่ ส.ค.65 ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นเป็น 2% ส่วนแนวโน้ม 4Q66 คาดยังเติบโตต่อเพราะเป็นช่วง High Season ของธุรกิจ ที่ปกติสถาบันการเงินจะเร่งระบายรถยึดก่อนเปลี่ยนปีปฏิทิน (ราคารถจะตก) ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 66 ที่ 366 ล้านบาท +46%YoY และปี 67 ที่ 383 ล้านบาท +5%YoY

 

 

Daily Key Factors

Oil Update(0) WTI ก.พ.-$0.28 อยู่ที่ $72.40/บาร์เรล, Brent มี.ค. +$0.14 อยู่ที่ $78.29/บาร์เรล ถูกกดดันจาก Dollar Index แข็งค่า ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบแพงขึ้น โดยยังต้องติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลาง

 

Gold Update(-) Comex Gold ก.พ. -$21.40 อยู่ที่ $2,030.20/ออนซ์ หลัง Dollar Index แข็งค่า +0.74% อยู่ที่ 103.357 และ US Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.064% หลังนายวอลเลอร์ คณะผู้ว่าการเฟดเผยจะไม่ลดดอกเบี้ยเร็วอย่างที่ตลาดคาดไว้

 

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ
+88.83 ล้านดอลลาร์สหรัฐ   ขายหุ้นไทย -23.56 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโด ฯ +104.15 ซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +8.24 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 35.44 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.053 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -36 จุด อยู่ที่ 1,324

(+) BitCoin เช้านี้ +1.39% อยู่ที่ 43,192 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

11 ม.ค.     หอการค้าไทย ร่วมกับม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

ตลท. แถลงสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์ 

สัปดาห์ที3  ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

สัปดาห์ที4  ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์

สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม   

สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนี

ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

 

ต่างประเทศ

15 ม.ค.     US วันหยุด-วันรำลึกมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์

17 ม.ค.     CN ดัชนีจีดีพี (GDP) ของจีน (ปีต่อปี) (ไตรมาส 4)

EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (ธ.ค.)

                US ดัชนียอดขายปลีก (เดือนต่อเดือน) (ธ.ค.)

18 ม.ค.     US ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (ม.ค.)

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

19 ม.ค.     US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) (ธ.ค.)

 

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตัวรับความหวังเศรษฐกิจจีนเริ่มดีขึ้น ลุ้น Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย 

(1)กลุ่มการอุปโภคบริโภค  ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT, HMPRO, ILM, CPN, CRC, MC, KAMART, CBG, ICHI, RBF 

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัวจากฐานต่ำปี66  AAI, ITC, TU, COCOCO, SAPPE, DELTA, KCE, EPG, NYT, SJWD 

(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT, CENTEL, ERW, SPA, SISB, WPH 

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC, TIDLOR 

(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ เริ่มลดลง BGRIM, GPSC 

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA, SUSCO

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio January 2024: MENA*, TU*, ITC*, RBF*, CBG*

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

หุ้นใหญ่ฟื้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองเห็นหุ้นใหญ่หลายตัว ฟื้นตัว เนื้อตัวเต็มไปด้วยแสง สีเขียว ตามตลาดสหรัฐบวก ....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้