***ปริมาณขายเพิ่มขึ้นต่อ***
งวด 4Q23F ถูกกระทบจากราคานํ้ามันดิบลดลงและค่าใช้จ่ายด้อยค่า เราคาดการณ์กำไรสุทธิ 4Q23F ไว้ที่ 15.3 พันล้านบาท ลดลง -2%YoY และ -15%QoQ โดยมาจาก 1) ราคานํ้ามันดิบดูไบลดลง -1%YoY และ -4%QoQ, 2) Unit cost สูงขึ้น +9%QoQ เป็น 29 US$/boe และ 3) มีค่าใช้จ่ายด้อยค่า 116 ล้านUS$
อย่างไรก็ดี ถ้าพิจารณา Norm profit พบว่าจะทรงตัว QoQ ที่ 18.8 พันล้านบาท เพราะปริมาณขายเพิ่มขึ้น +2%QoQ
ขณะที่ราคาขายทุกผลิตภัณฑ์เฉลี่ยลด -1%QoQ เป็น 48.32 US$/boe
คาดปริมาณขายโตเฉลี่ย 5% ต่อปี ถึงปี 2028F ทั้งนี้บริษัทมีแผนลงทุน 32.6 พันล้านUS$ ในช่วงปี 2024-2028โดย
จะใช้ลงทุนสำรวจและผลิตในแหล่งมาเลเซียและโมซัมบิกราว 20.8 ล้านUS$ และที่เหลือใช้ในการดำเนินงาน บริษัท
ตั้งปริมาณผลิตเติบโตเฉลี่ย 5% ต่อปี (จาก 6.36 แสนบาร์เรลต่อวันในปี 2023 เป็น 8.8 แสนบาร์เรลต่อวันในปี 2028
ราคานํ้ามันดิบคาดว่าจะผันผวนใน 1Q24F เราคาดว่ากลุ่มนอกโอเปกจะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นแต่ขณะเดียวกันกลุ่มโอเปกพลัสก็มีแผนลดการผลิตลง แม้ว่าแองโกลาจะออกจากการเป็นสมาชิกโอเปก และมีการปิดแหล่งผลิต Sharara ของลิเบียที่มีกำลังผลิต 3 แสนบาร์เรล/วันหลังเป็นเป้าของกลุ่มผู้ประท้วง
คงคำแนะนำซื้อ PTTEP โดยให้ราคาพื้นฐาน 198 บาท (DCF) ทั้งนี้ PTTEP ได้รับประโยชน์โดยตรงจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นจากสงครามอิสราเอลและปาเลสไตน์, ระดับน้ำมันสำรองของโลกอยู่ในระดับตํ่า, ความต้องการใช้น้ำมันสูงในช่วงฤดูหนาว และได้รับผลกระทบจากมาตรการที่มีเป้าหมายลดราคาพลังงานของรัฐบาลจำกัดกว่าผู้ประกอบการรายอื่นๆ เช่น PTT, PTTGC, โรงไฟฟ้า ฯลฯ
นักวิเคราะห์ : ดุลเดช บิค : duladethb@th.dbs.com : Tel. 02 857 7833