Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

319

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 21 ธ.ค.66 ปิด +4.47 จุด อยู่ที่ 1,404.84 จุด มูลค่าการซื้อขาย 38,760 ลบ.ต่างชาติซื้อ 479 ลบ.สถาบันขาย 118 ลบ.พอร์ตโบรกขาย 117 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 387 ลบ.มียอดซื้อสุทธิในหุ้น BBL,AOT,BDMS,KCE,JMART และมียอดขายสุทธิ IVL,SCC,PTTEP,PTTGC,CPALL มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 4,167 ลบ.หุ้นที่มีปริมาณ Short สูงคือ BJC,BAFS,KKP โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 7,676 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 283,053 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 979 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.87%, S&P500 +1.03%, Nasdaq +1.26% ได้แรงหนุนจากกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย, เซมิคอนดักเตอร์ หลังรายงาน GDP สหรัฐ Q3/66 ครั้งสุดท้ายอยู่ที่ 4.9% & คาด 5.1% QoQ ซึ่งคาดเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยในปีหน้า ตลาดหุ้นยุโรป -0.21% จากแรงขายกลุ่มรถยนต์ , อสังหา ฯ แต่ได้แรงหนุนจากกลุ่มเฮลธ์แคร์  

 Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับขึ้น หลังรายงาน US GDP Q3/66 +4.9% & ครั้งก่อนที่ +2% QoQ เป็นผลจากการปรับลดของการใช้จ่ายผู้บริโภคครั้งก่อนคาดที่ 3.6% ลงมาอยู่ที่ 3.1% ซึ่งการใช้จ่ายผู้บริโภคคิดเป็น 2/3 ของ GDP สหรัฐ ขณะที่เฟดสาขาแอตแลนตาคาด GDP สหรัฐ Q4/66 จะชะลอตัวอยู่ที่ +2.7% โดยปีหน้าเฟดคาด GDP สหรัฐจะชะลอตัวอยู่ที่ 1.4% YoY จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ CME Fed Watch ชี้โอกาส 71.3% เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยในการประชุม 20 มี.ค. 67 ซึ่งเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลง หลังรองประธาน ECB เผยยังเร็วเกินไปที่จะพิจารณาลดดอกเบี้ย โดยตลาดคาด ECB มีโอกาสเริ่มลดดอกเบี้ยในช่วง เม.ย. 67 หลังเงินเฟ้อยูโรโซน พ.ย. ลดลงอยู่ที่ 2.4% เช่นเดียวกับ BOE คาดมีโอกาสลดดอกเบี้ยในช่วง มี.ค. 67 หลังเงินเฟ้ออังกฤษ พ.ย. ลดลงอยูที่ 3.9% ต่ำสุดในรอบ 2 ปี ทางฝั่งเอเชียดัชนีนิเกอิวานนี้ -1.59% หลังค่าเงินเยนแข็งค่าส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มส่งออก กอปรกับหุ้น Toyota ปรับลดลงจากปัญหาระบบถุงลดนิรภัยของบริษัทลูก Daihatsu ส่งผลให้ต้องระงับการส่งออกรถยนต์หลายรุ่น ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.57% ได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน,  AI, ธุรกิจท่องเที่ยว โดยยังรอ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลจีน ปัจจัยต่างประเทศค่ำวันนี้ติดตาม US PCE พ.ย. คาด 2.8% & ต.ค. 3.0% YoY สำหรับดัชนี SET วานนี้ +0.32% ปริมาณการซื้อขาย 3.87 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 479 ลบ. สถาบันขาย 118 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 117 ลบ. ได้แรงหนุนจากกลุ่มอิเล็ก ฯ และโรงไฟฟ้าที่ได้ประโยชน์จาก US Bond Yield 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 3.892% กลุ่มขนส่งปรับขึ้นนำโดย AOT ได้แรงหนุนจากปริมาณเที่ยวบินในช่วง High Season และกลุ่มค้าปลีกก็ปรับขึ้นรับ ม.E-Receipt ในช่วงต้นปีหน้า ขณะที่กลุ่มปิโตร ฯ -4.0% จากความกังวลต่อต้นทุนการผลิตอาจสูงขึ้น หากโรงแยกก๊าซของ ปตท.ต้องปรับสูตรไปใช้ระบบ Gas Pool ซึ่งต้นทุนจะสูงขึ้นกว่าเท่าตัวเมือเทียบกับการใช้ราคาก๊าซของอ่าวไทย ภาพรวมคาดดัชนี SET จะได้แรงหนุนจากเม็ดเงินกองทุน TESG และการทำ Window Dressing  .

Daily Strategy

  • ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,395 – 1,400 แนวต้าน 1,410 – 1,420 คาดได้แรงหนุนจากการทำ Window Dressing ในสัปดาห์หน้า แนะนำทยอยซื้อกลุ่มค้าปลีก CPALL,CRC,CPN,COM7/ กลุ่มอาหาร SNNP,SAPPE,GFPT,TFG/ ธนาคาร SCB,TTB / โรงไฟฟ้า GULF,GPSC, BGRIM / รพ. BH,BDMS
  • MTC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 49.00 บาท) บริษัทรายงานกำไร 3Q66 ดีขึ้น QoQ, YoY เป็นไปตามสินเชื่อที่ขยายตัวสูง +21%YoY เป็นผลจากการขายสาขาจนถึง 7,365 สาขาสูงกว่าเป้าทั้งปี ด้าน Cost of fund สูงขึ้นตามทิศทางดอกเบี้ย แต่ยังสามารถบริหารจัดการ Credit cost อยู่ในระดับใกล้เคียงเดิม หนุนให้อัตรากำไรสุทธิดีขึ้นต่อเนื่อง ส่วนแนวโน้ม 4Q66 สินเชื่อยังเติบโตได้ดีเน้นเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อมีหลักประกันและเพิ่มตุณภาพของพอร์ตเพื่อคุม NPL เกิดใหม่ ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าสินเชื่อทั้งปีโต 20% และคุม NPL ต่ำกว่า 5% น่าจะทำได้ ทั้งนี้หากอิง Consensus จะเห็นกำไรชะลอตัวในปี 66 ราว -5%YoY ก่อนจะกลับมาเติบโตในปี 67 ที่ 5.85 พันล้านบาท +20%YoY
  • WHA (ซื้อเก็งกำไร/ ราคาเป้าหมาย 80 บาท) ประเมินผลการดำเนินงาน 4Q66 โดดเด่นจาก 1.การรับรู้รายได้จากการขายที่ดิน โดยเฉพาะในส่วนของผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์EV (WHA วางเป้ายอดขายที่ดินปี66 ที่ 2,750 ไร่) 2.การรับรู้รายได้จากการขายทรัพย์สินให้กับกองทรัสต์ WHART ที่ราว 3,567 ลบ. ส่วนการดำเนินงานในช่วงถัดๆไปยังคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการย้ายฐานผลิตจาก จีน/ญี่ปุ่น เข้ามาในใทยและเวียดนามมากขึ้น ขณะที่ภาพระยะสั้น WHA ยังจะมี Sentiment บวกจาก 1.การยุติข้อพิพาทอนุโตตุลาการระหว่าง เก็คโค่-วัน กับ AVRA International DMCC กรณียกเลิกซื้อถ่านหิน 2.WHA ได้SET ESG Ratings AAA เข้าข่ายการลงทุนของกองทุน TESG

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ไต่เส้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองดูหุ้นไทยไต่เส้น แถว 1370 +/- แบบพยาบามฝ่าด่าน 1380 จุด โดยเช้านี้ พี่ DELTA..

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้