AT THE OPEN (#ATO)
SET Index แกว่ง Sideway/Sideway Up
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่ประโยชน์จาก TESG

Market Strategy
คาด SET Index แกว่ง Sideway/Sideway Up ตามกรอบ 1385-1400 จุด วานนี้ BP ประกาศระงับการขนส่งน้ำมันผ่านทะเลแดงจากกังวลต่อการโจมตีของกลุ่มฮูติในเยเมน หนุนให้ราคาน้ำมันดิบ Brent วานนี้ปรับขึ้น 1.8% ซึ่งเป็นบวกต่อ PTTEP และกลุ่มโรงกลั่น TOP BCP รวมถึงกลุ่มเดินเรือ RCL และ PSL ที่ยังได้กระแสเก็งกำไรหลังจากก่อนหน้าบริษัทที่ให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือรายใหญ่ อาทิ Maerck Hapag-Lloyd และ MSC ได้หยุดการเดินเรือผ่านบริเวณนี้ แต่อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์ยังยืดเยื้อมองเป็นความเสี่ยงต่อทิศทางเงินเฟ้อฯที่ลงได้ช้า จากการส่งผ่านต้นทุนมายังผู้บริโภค
ตลท.ประกาศหุ้นเข้าคำนวณ SET50 ใน 1H67 หุ้นเข้าคือ KCE หุ้นที่ออกคือ TIDLOR ด้าน DELTA INTUCH และ TLI ที่ก่อนหน้านี้เคยถูกคาดหมายว่าเสี่ยงหลุดโผจาก SET50 แต่ไม่หลุด น่าจะทำให้ราคาหุ้นตอบสนองในเชิงบวก โดยราคาหุ้น DELTA/INTUCH/TLI ที่เปลี่ยนแปลงทุกๆ 1% หนุน SET Index 0.9/0.2/0.1 จุด (รายละเอียด SET100/SETESG ติดตามหน้า 3)
ประเด็นติดตามวันนี้ 1) การประชุม BOJ ต่อการส่งสัญญาณดำเนินนโยบายการเงินในระยะถัดไป 2) การประชุม ครม. ต่อความคืบหน้าพิจารณาค่าแรง ค่าไฟฯกลยุทธ์ยังชอบหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเม็ดเงิน TESG

Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 0.17% ด้วยมูลค่าการซื้อขายกลับมาเบาบาง 3.1 หมื่นล้านบาท โดยที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิ 666.36 ล้านบาท กลุ่มที่ Outperform ตลาดคือกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ +3.53% หนุนจาก DELTA ที่ปรับขึ้น +3.9% บนการเก็งกำไรว่าจะไม่หลุดการคำนวณในดัชนี SET50 Index รอบ 1H67 ตามด้วยกลุ่มปิโตรฯ +1.08% และกลุ่มอสังหาฯที่ +0.86% แรงขับเคลื่อนมาจาก CPN +1.5%

ATO Daily Stock Picks
แนะนำ CPN, SCB

SCB ปันผลจูงใจ
คาดผลประกอบการปี 2566/67F ขยายตัว 15%YoY และ 8%YoY หนุนจากทิศทาง NIM ที่ปรับขึ้น โดยเราคาดปี 2567 อยู่ที่ 3.78% ดีขึ้นจากปี 2566 ที่ 3.67% และ Credit Cost ที่คาด 1.85% ในปี 2567 ลดลงจากปี 2566 ที่อยู่ระดับ 1.9%
ในมุม Valuation ซื้อขายบน PBV67F ที่ 0.7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีที่ -1 S.D. นอกจากนี้การจ่ายเงินปันผลในระดับสูงโดยปี 2566/67 ในช่วง 7.5%-8.1% จะเป็นปัจจัยที่ช่วยจำกัด Downside ของราคาหุ้น
SCB ได้รับ ESG Rating ที่ AA จึงมีโอกาสได้แรงหนุนจากกองทุน TESG เช่นกัน
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 120.00 บาท

CPN มาตรการรัฐฯสนับสนุน
ทิศทางกำไร 4Q66F คาดขยายตัว 34%YoY ตามทิศทางรายได้ แต่ชะลอลง -11%QoQ จากค่าใช้จ่ายทำการตลาดเพื่อรองรับการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยและกิจกรรมทางการตลาดสำหรับสูงการค้า
กำไรปี 2567 คาดขยายตัว 5% ปัจจัยหนุนจากการเปิดตัวโครงการใหม่ มาตรการ Easy-e-Receipt และต้นทุนค่าไฟที่ลดลง ขณะที่ราคาไม่แพงเพราะซื้อขายอยู่บน Forward PER ปี 67 ที่ 19 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 25 เท่า
CPN มี ESG Rating ที่ระดับ AA และถูกคำนวณในดัชนี SET ESG จึงเชื่อว่ามีโอกาสได้แรงหนุนจากกองทุน TESG ที่จะทยอยเข้าสัปดาห์นี้
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 75.00 บาท

KEY FACTOR
วันนี้ตลาดหุ้นไทยน่าจะให้น้ำหนักปัจจัยในประเทศ
1) ผลการประกาศหุ้นเข้าออกดัชนี SET50 (หุ้นเข้า KCE หุ้นออก TIDLOR) ซึ่งหากพิจารณาเทียบกับคาดการณ์ของ MST (กรณี base case) พบว่าหุ้นที่ i) ดีกว่าคาด (คาดว่าจะหลุด แต่ไม่หลุด หรือ คาดว่าจะไม่เข้า แต่เข้า) ประกอบด้วย INTUCH DELTA TLI ii) หุ้นที่แย่กว่าคาด (คาดว่าจะเข้าแต่ไม่เข้า หรือ คาดว่าจะไม่หลุด แต่หลุด) ประกอบด้วย TIDLOR ซึ่งหากเทียบผลตอบแทน %MTD เทียบกับ Sector พบว่าหุ้นที่น่าสนใจประกอบด้วย KCE และ TLI (ที่ผลออกมาดีกว่าคาด แต่ราคาหุ้น underperform กลุ่ม)
การประชุม ครม. ซึ่งจะมีการเสนอวาระพิจารณา i) ชุดมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพ ii) การเสนออนุมัติค่าไฟฟ้างวด ม.ค. – เม.ย. 67 ซึ่งจะไม่เกิน 4.2 บาท/หน่วย iii) ตรึงราคาดีเซลที่ 30 บาท/ลิตร iv) ลดภาษีไวน์-สุราชุมชน ซึ่งความชัดเจนที่เกิดขึ้นน่าจะช่วยให้ sentiment ตลาดหุ้นไทยในภาพรวมดีขึ้น

EYES ON
19 ธ.ค. การประชุม BOJ
20 ธ.ค. ตัวเลขภาคอสังหาฯสหรัฐฯ, ความเชื่อมั่นผู้บริโภค Eurozone, การกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีน

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ