วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงในช่วงแรก แต่มีแรงซื้อกลับท าให้ดัชนีปรับตัวในแดนบวก มีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มขนส่ง อย่าง AOT ที่ปรับตัวลงมาแรงในช่วงก่อน ธนาคาร ค้าปลีก เป็นต้น รวมถึงหุ้นกลุ่มเดินเรือที่มีแรงเก็งกำไรเข้ามา ภาวะตลาดมูลค่าการซื้อ-ขาย เบาบาง เนื่องจากคาบเกี่ยววันหยุด ส่งผลให้ดัชนี SET Indexปิดตลาดที่ 1,383.54 จุด +3.23 จุด +0.23% มูลค่าการซื้อขาย 35,519 ลบ. Program Trading +525.34ลบ. ต่างชาติ +979.07 ลบ. TFEX +3,542 สัญญา ตราสารหนี้-3,701.69 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลส ารวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS)พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 617,000 ต าแหน่ง สู่ระดับ 8.733 ล้านต าแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2564และต่ ากว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 9.300 ล้านต าแหน่ง
+ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลข JOLTS นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค. 2566 และให้น้ าหนัก 65% ที่เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. 2567
+ ไฉซิน/เอสแอนด์พี โกลบอล เซอร์วิสรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3เดือนที่ 51.5 ในเดือนพ.ย. จาก 50.4 ในเดือนต.ค. แต่ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาว

ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 79.88 จุด ลดลง -0.22% ขณะที่ดัชนีNasdaq ปิดในแดนบวก หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับ สมัครงานลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟด อาจจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.ปีหน้า
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 72 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 72.32ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอุปสงค์น้ำมัน รวมทั้งความไม่ แน่นอนเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกพลัส
- หัวหน้าสำนักประธานาธิบดีของยูเครนกล่าว ยูเครนอาจพ่าย แพ้สงครามกับรัสเซียหากสหรัฐเลื่อนการให้ความช่วยเหลือ ออกไป ด้านเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระบุว่า งบช่วยเหลืยูเครนจากสหรัฐกำลังจะหมดลง
- มูดี้ส์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำ ได้ปรับลดแนวโน้ม อันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลจีนลงสู่เชิงลบจากมีเสถียรภาพ โดยระบุถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงในระยะกลาง และ ความเสี่ยงจากวิกฤตครั้งใหญ่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน
- รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 1 ม.ค.-3ธ.ค.2566 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยสะสมแตะระดับ 25 ล้าน คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว1,067,513 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 27 พ.ย.-3 ธ.ค.2566 มี นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย จำนวนทั้งสิ้น 594,034 คน ลดลง6.15% จากสัปดาห์ก่อนหน้า 38,902 คน เฉลี่ยวันละ 84,862คน

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวน โดยแรงหนุนจากตลาดคาดการณ์ว่าเฟด อาจจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.ปีหน้า หลังตัวเลขการเปิดรับสมัครงานสหรัฐลดลงแตะระดับต่ าสุดในรอบ 2 ปี ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงต่อเนื่องกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดกรอบดัชนีในวันนี้ 1,375-1,390 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
• Easy E-Receipt : BJC CPALL CPAXT CRC CPN COM7 SPVI CPW JMART HMPRO DOHOME GLOBAL ZENM AU TNP KK
• หุ้นที่มี ESG สูง และอยู่ใน SET50 : ADVANC CPALL CPF CRC OR PTTEP TOP
• ยอดส่งออกเดือน ต.ค. เติบโต : ITC AAI CH PDJ NRF XO