มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
SETมีโอกาสอิงทางลง :หลังวานนี้ตลาดหุ้นปรับตัวลงแรงนำโดยหุ้นใหญ่อย่าง DELTA รับความกังวลอาจหลุดการคำนวณในดัชนี ใหม่S50FF ที่ ใช้การคำนวณ Free float เข้ามาพิจารณาด้วย โดย DELTA มี 2 เกณฑ์ที่ยังน่ากังวล คือ 1)ต้องมี Turnover Ratio มากกว่า2% ในเดือน ต.ค. และ พ.ย. และ 2) ต้องไม่ติด Cash Balance หรือ Trading Alert ในเดือน ต.ค. และ พ.ย. เนื่องจากได้ติดเกณฑ์ดังกล่าวมาครบแล้ว คือ ห้ามเกิน 3 ครั้งในเดือน เม.ย. มิ.ย. และ ก.ค. ซึ่งตลาดคาดTurn over ในเดือนนี้อาจไม่ถึง 2% อาจเห็นการทยอยขายเพื่อลดความเสี่ยง และอาจขายออกมา ต่อในวันนี้ นอกจากนี้หุ้นค้าปลีกมีประเด็นเฉพาะตัวที่อาจจะกดดันราคาได้ต่อเนื่อง ด้าน กนง.คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.5%ตามตลาดคาด พร้อมปรับลดคาดการณ์ การเติบโตของ GDP ในปี 66 และ 67 ลงเหลือ +2.4% และ+3.8% จากคาดการณ์เดิมที่ +2.8% และ 4.4%(รวมเงินดิจิทัล) ตามลำดับ โดยอิงเหตุผลหลักคือ ภาคการท่องเที่ยว และ ส่งออกฟื้ นตัวช้ากว่าที่คาด หลังเศรษฐกิจจีน และวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์ โลกที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ มองเป็นแรงกดดันต่อกลุ่มท่องเที่ยว อาหาร และ ค้าปลีก ด้านปัจจัยหนุนคาดมาจากสองประเด็นคือ 1) ราคาน้ำมันดิบWTIปรับตัวขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ77.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หนุนกลุ่มพลังงานต้นน้ำ2) กกพ.มีมติขึ้นค่าไฟอีก4.68 บาทต่อหน่วย คาดหนุนกลุ่มโรงไฟฟ้า ขณะที่ช่วงท้ายตลาดอาจมีความผันผวนมากขึ้นจากการปรับน้ำหนักดัชนีMSCI ซึ่งจะใช้ราคาปิดในวันนี้โดยคาดACE KEX ASK ONEE RAM SABUY TTA TFG และ VIBHA อาจเผชิญแรงขายหลังหลุดค านวณ MSCI Global Small Cap Index ขณะที่ BGRIM EGCO และ RATCH ถูกโยกจาก Global Standard ไปเข้าค านวณใน Small Cap เน้น selective play และจับตาตัวเลขเงินเฟ้อPCE สหรัฐ กันต่อ

กลยุทธ์การลงทุน :1) กนง.คงดอกเบี้ย: SAWAD KTC MTC SIRI TIDLOR 2) พลังงาน: BCP PTTEP TOP GULF GPSCBGRIM RATCH EGCO 3) Selective: BTGCPF TNR TU KBANK ADVANC CBG WHAUP

แนวรับ-ต้าน
1,380 –1,395

ปัจจัยบวก
+ S&P คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ BBB+ และคงมุ มมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ ระดับมีเสถียรภาพกอปรกับคาดศก.ไทยจะฟื้นตั วและเติบโตอย่างรวดเร็วจาก2.5% ในปี 66 เป็ น 4.2% ในปี 67
+ สศค.เผยดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตศก.ภูมิภาคเดือนพ.ย. ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นศก.ใน 6 เดือนข้างหน้าที่มีแนวโน้มดีขึ้น โดยเฉพาะภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคคะวันออกเฉียงเหนือ จากปัจจัยสนับสนุนในภาคบริการเป็นสำคัญ
+ กกพ. มีมติรับทราบและเห็นชอบให้ปรับขึ้นค่าFt ขายปลีก 69.07สต.ต่อหน่วย สู่ 4.68 บาทต่อหน่วย โดยจะใช้สำหรับงวด ม.ค. -เม.ย. 67 นี้เป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้ า

ปัจจัยลบ
- โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เผยยอดขายตลาดรถยนต์ ในเดื อนต.ค. มียอดขาย 58,963 คัน ลดลง 8.8% y-y ปั จจัยหลักเป็นผลมาจากสภาพศก. ที่ยังไม่ สามารถขับเคลื่อนได้ อย่างลื่นไหล ผู้บริโภคยังคงชะลอการตัดสินใจซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยมีอุปสรรคสำคัญคือความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ
- กสิกรไทยคาดหนี้ครัวเรือนสิ้นปี66 แตะ 16.5 ล้านล้าน โดยคิดเป็นสัดส่วน 90-91% ต่อ GDP หลังมาตรการรัฐช่วยดึงหนี้ เข้าสู่ระบบแนะจับตาการแก้มาตรการหนี้ของภาครัฐต่อ

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธีรดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
กิตติ บัวบึง – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #038313
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ภัทรดนัย จตุรพร – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์