Market Wrap-Up

• SET วันที่ 29 พ.ย.66 ปิด -13.73 จุด อยู่ที่ 1,387.69 จุด มูลค่าการซื้อขาย 51,497 ลบ.ต่างชาติขาย 3,327 ลบ.สถาบันซื้อ 694 ลบ.พอร์ตโบรกซื้อ 228 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 457 ลบ. มียอดซื้อสุทธิในหุ้น AOT,PTT,TOP,TIDLOR,SCB และมียอดขายสุทธิ CPALL,CPAXT,BBL,GPSC,MTC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 5,125 ลบ. หุ้นที่มีปริมาณ Short สูงคือ HK01,BPP,SCI โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 21,934 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 316,024 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 6,169 ลบ.
• ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.04%, S&P500 -0.09%, Nasdaq -0.16% ได้แรงหนุนจากกลุ่มอสังหา ฯ, การเงินปรับขึ้น ขณะที่กลุ่มบริการสื่อสารปรับลดลง ส่วนรายงาน GDP สหรัฐ Q3/66 ครั้งที่ 2 +5.2% & ครั้ง 1 ที่ +4.9% QoQ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.45% ได้แรงหนุนจากเงินเฟ้อเยอรมัน พ.ย. เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด

 Market View

• ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ทรงตัว หลัง ปธ.เฟดสาขาริชมอนด์เผยไม่มั่นใจเงินเฟ้อสหรัฐ จะปรับลดลงสู่ระดับ 2% ซึ่งสวนทางกับความเห็นของ วอลเลอร์ คณะกรรมการเฟดที่คิดว่าระดับดอกเบี้ยปัจจุบันเพียงพอจะคุมเงินเฟ้อสหรัฐ ขณะที่รายงาน GDP สหรัฐ Q3/66 ครั้งที่ 2 +5.2% สูงกว่าครั้งแรกที่ 4.9% & Q2/66 +2.1% QoQ ได้แรงหนุนจากการลงทุนภาคเอกชน +1.3% และการใช้จ่ายภาครัฐ +5.5% แต่ปรับลดการใช้จ่ายผู้บริโภค +3.6% & ครั้งแรก +4% จากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่ง อาจส่งผลให้เฟดตรึงดอกเบี้ยต่อไป ค่ำวันนี้ติดตาม US PCE ต.ค. คาด 3.1% & ก.ย. 3.4% YoY และ US Core PCE ต.ค. คาด 3.5% & ก.ย. 3.7% YoY เป็นดัชนีที่เฟดใช้วัดเงินเฟ้อสหรัฐ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ได้แรงหนุน หลังรายงาน CPI เยอรมัน พ.ย. ชะลอตัวอยู่ที่ 3.2% & ต.ค. 3.8% YoY ส่งผลให้ Bond Yield เยอรมันอายุ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 2.4% ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ขณะที่ดัชนีหุ้นอิตาลี +1.1% หลัง Moody’s ปรับอันดับเครดิตอิตาลีอยู่ในระดับ Baa3 Outlook เสถียรภาพ โดยค่ำวันนี้ติดตาม CPI ยูโรโซน พ.ย. คาดชะลอตัวอยู่ที่ 2.8% & ต.ค. 2.9% YoY ฝั่งเอเชียวานนี้ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.56% หลังเหม่ยถวน เป็นแพลตฟอร์มส่งอาหารอันดับ 1 ของจีนได้ปรับลดแนวโน้มผลประกอบการ บ่งชี้การบริโภคจีนยังฟื้นตัวช้า นักลงทุนรอรายงาน Caixin PMI ภาคการผลิตจีน พ.ย. คาด 49.3 & ต.ค. 49.5 ยังอยู่ในโซนถดถอย สำหรับดัชนี SET วานนี้ -0.98% ปริมาณการซื้อขาย 5.1 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 3.3 พัน ลบ. รายย่อยซื้อ 2.3 พัน ลบ. สถาบันซื้อ 694 ลบ. ดัชนีปรับลดลงในช่วงบ่าย หลัง กนง.มีมติคงดอกเบี้ยที่ 2.5 % และได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยปีนี้ลงอยู่ที่ 2.4% & เดิม 2.8% YoY และปีหน้าคาดเติบโตที่ 3.2 % แต่หากรวม ม. Digital Wallet คาดจะเติบโตที่ 3.8% ลดลงจากเดิมคาดที่ 4.4% YoY เป็นผลโครงการที่ล่าช้าและเปลี่ยนรูปแบบ กอปรกับคาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติน้อยกว่าคาด จากปัจจัยส่งผลลบต่อหุ้น AOT,CPALL,CPAXT กระทบต่อดัชนี -5.49 จุด กอปร DELTA -5.81% จากความกังวลอาจถูกถอดออกจาก SET50 ในรอบต้นปีหน้า โดยรวมดัชนีถูกกดดันจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มอาเซียน

Daily Strategy

• วาง Filter แนวรับดัชนีที่ 1,380 – 1,385 กรณียืนไม่ได้ ดัชนีมีโอกาสปรับลดลงทดสอบแนวรับเดิมที่ 1,366 – 1,370 อีกครั้ง แนะนำทยอยซื้อ GULF,GPSC,BGRIM รับข่าว กกพ.ปรับขึ้นค่า FT งวด ม.ค. – เม.ย. 67 ที่ 4.68 บาท และได้ปัจจัยหนุนจาก US Bond Yield ลดลง
• AAI* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 4.90 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 3Q66 อยู่ที่ 118 ล้านบาท (-39%YoY, +350%QoQ) ทั้งนี้หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 130 ล้านบาท กำไรปกติจะฟื้นตัว +22%QoQ ยืนยันภาพผลประกอบการที่ผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้ว สอดคล้องกับการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงที่เริ่มฟื้นตัวและต้นทุนปลาทูน่าลดลง แนวโน้ม 4Q66 คาดยอดขายดีขึ้นต่อเนื่อง QoQ จากสต๊อกสินค้าเก่าของลูกค้าเริ่มหมด และมีคำสั่งซื้อจากลูกค้ารายใหม่มากขึ้น ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นจะดีขึ้นจากราคาทูน่าที่ลดลง และสัดส่วนธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีมาร์จิ้นดีกว่ามีรายได้มากขึ้น ขณะที่แนวโน้มในปี 67 จะกลับมาเติบโตทั้งรายได้และกำไรหลังจากชะลอตัวในปีนี้
• GFPT* (ซื้อเก็งกำไร/ ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 13.30 บาท) กำไรสุทธิ 3Q66 อ่อนตัว QoQ YoY จาก Volume ขายที่ลดลง ขณะที่ราคาเนื้อสัตว์ในประเทศอ่อนตัวแรง QoQ YoY อย่างไรก็ตาม คาดว่า ในช่วง 4Q66 ผลประกอบการมีโอกาสฟื้นตัวได้ดี QoQ จาก 1.ต้นทุนการเลี้ยงที่คาดว่าจะอ่อนตัวตามราคาข้าวโพด และ ถั่วเหลือง 2.ราคาไก่ที่เริ่มเห็นการปรับตัวขึ้นจาก Q3 เข้าสู่เทศกาลเฉลิมฉลอง และ อานิสงค์การปราบสุกรเถื่อนในไทยที่ต่อเนื่อง 3.ตัวเลขส่งออกไก่ของไทย เดือนต.ค.66 +1.1%MoM และในส่วนของ YoY แม้จะยัง -1.6%YoY แต่ gap ของการหดตัวแคบขึ้นมาก จากเดือน ก.ย.66 ที่ -10.8%YoY ทั้งนี้ตลาดคาดว่าในปี66 และ67 กำไรสุทธิของ GFPT* จะอยู่ที่ระดับ 1,309 ลบ.(-36%YoY) และ 1,438 ลบ.(+10%YoY) ตามลำดับ

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th