• BAY : การรวมบัญชีบิดเบือนผลประกอบการ

กำไรสุทธิ 3Q23 ของ BAY อยู่ที่ 8.1 พันล้านบาท (คงที่ yoy แต่ -4% qoq) เป็นไปตามคาด แต่สูงกว่า Bloomberg consensus 4% มีประเด็นสำคัญดังนี้

• การรวมบัญชี Home Credit Philippines และ SHB Vietnam ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ใน 3Q โดย BAY ได้รวมบัญชีทั้งสองรายการเข้าด้วยกันในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม/ต้นเดือนมิถุนายน และผลกระทบใน 2Q เกิดขึ้นเพียงเดือนเดียวเท่านั้น การควบรวมกิจการครั้งนี้มีส่วนสำคัญที่แข็งแกร่งทั้งรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) และรายได้ที่ไม่ใช้ดอกเบี้ย (Non- NII) รวมถึง credit cost ที่เพิ่มขึ้น ที่สำคัญเนื่องจากธนาคารไม่เปิดเผยผลการดำเนินงานทางการเงินของทั้งสองบริษัท จึงเป็นเรื่องยากที่จะประเมินผลการดำเนินงานหลักสำหรับไตรมาสดังกล่าว
• คุณภาพสินทรัพย์ดูอ่อนตัวลง qoq ยอดคงค้างของเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Gross NPL) เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 8% เป็น 5.9 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อส่วนบุคคล (เช่น สินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันและบัตรเครดิต) ขอย้ำอีกครั้งว่าการดูว่าเพิ่มขึ้นนี้มาจากไหน (เช่น ในประเทศหรือต่างประเทศ) เป็นเรื่องยาก
• ค่าใช้จ่ายดำเนินการที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก (+16% qoq) ส่วนหนึ่งเกิดจากการด้อยค่าของ NPA นอกเหนือจากการใช้จ่ายด้านไอที และค่าใช้จ่ายทางการตลาด

เราทราบว่าขณะนี้การดำเนินงานในต่างประเทศมีอิทธิพลอย่างมากต่อผลการดำเนินงานของ BAY ผลกระทบอาจใหญ่ขึ้นในไตรมาสหน้าเมื่อ BAY รวมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของอินโดนีเซีย (5% ของรายได้ทั้งหมด อิงจากข้อมูลปี 2021) แต่เนื่องจากขาดข้อมูล การประเมินผลการดำเนินงานของ BAY จึงทำได้ยากขึ้น ส่งผลให้มีส่วนลดจากตลาดมากขึ้นในที่สุด ทั้งนี้ เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ BAY โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 37.00 บาท