**คาดกำไรปีนี้ลดมาก,ปันผลลดลง**
กำไร 1H66 ลดลง 34% y-o-y และเป็นเพียง 41% จากประมาณการเดิม ปันผลครึ่งปี ลดลง 11% y-o-y
ปัจจัยลบที่เผชิญคือ การก่อสร้างล่าช้า,ธนาคารปล่อยกู้เข้มงวด และลูกค้าเผชิญอัตราดอกเบี้ยที่สูง
ลดประมาณการปีนี้และปีหน้าลงถึงปีละ 13% สะท้อนสมมุติฐานรายได้ที่ลดลงและค่าใช้จ่ายการตลาดเพิ่มขึ้น
คงคำแนะนำเชิงลบคือ เต็มมูลค่า ราคาพื้นฐานใหม่ และเงินปันผลน้อยลง คาดกำไรปีนี้และปีหน้า -25%/+3%

นับได้ว่าผลการดำเนินงาน 1H66 ด้อยลง เป็น 441 ล้านบาท ลดลงถึง 34% y-o-y และเป็นเพียง 41% จากประมาณการกำไรเดิมที่ 1,088 ล้านบาท ด้านเงินปันผลระหว่างกาลในรอบครึ่งปีเป็น 0.27 บาท ลดลง 11% y-o-y เทียบกับเงินปันผล 1H65 ที่ 0.305 บาท ทั้งนี้รายได้จากการขาย 1H66 เป็น 2,468 ล้านบาท ปรับลง 23% y-o-y อัตรากำไรขั้นต้นน้อยลงเป็น 23.2% เทียบกับ y-o-y ที่ 26.5% รวมทั้งสัดส่วนค่าใช้จ่ายขาย-บริหารเทียบกับรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 16.4% เทียบกับ y-o-y ที่ 13.4% ทั้งนี้การเปิดขายโครงการใหม่มากขึ้นจึงยังผลให้ค่าใช้จ่ายทางการตลาดเพิ่มสูงขึ้น

ปัจจัยลบที่เผชิญอยู่มีหลายประเด็น การก่อสร้างล่าช้าในมูลค่าราว 200-300 ล้านบาท ในงวด 2Q66 จากที่บริษัทตั้งเป้าหมายไว้,ธนาคารปล่อยกู้เข้มงวด เพราะกังวลปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพ จนทำให้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อ (Rejection Rate) ของบริษัทสูงมากกว่า 30% เลยทีเดียว และลูกค้าเผชิญอัตราดอกเบี้ยที่สูงซึ่งภาคธนาคารได้มีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

ยอดขายรอโอน (Backlog) ล่าสุดเป็น 1.2 พันล้านบาท ซึ่งจะสามารถทยอยเป็นรายได้ในงวด 2H66F และ 1Q67F จากการประเมินพบว่า หากให้รับรู้เป็นรายได้ในงวด 2H66F เป็น 800 ล้านบาท เมื่อรวมกับรายได้ในงวด 1H66 ที่ 2,468 ล้านบาท ก็จะเป็นการรับประกันคาดการณ์รายได้ปีนี้ในสัดส่วนที่เพียง 58% จากประมาณการรายได้ทั้งปี 66F จึงควรมีการปรับลดประมาณการในส่วนรายได้ลง ดังนั้นจากเดิมประมาณการรายได้เป็น 5,598 ล้านบาท (-10% y-o-y) ให้ลดลงเป็น 4,976 ล้านบาท (-20% y-o-y) หรือมีการปรับลดลงในอัตรา 11% นั่นเอง ส่วนประมาณการรายได้ปี 67F ยังให้มีการเพิ่มในอัตรา 3% y-o-y

ลดประมาณการกำไรปีนี้และปี หน้าลงถึงปี ละ 13% สะท้อนสมมุติฐานรายได้ที่ลดลง ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น และค่าใช้จ่ายการตลาดก็มีส่วนเพิ่มขึ้นจากการเปิดขายโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง และเมื่อนำกำไรมาเปรียบเทียบกับ y-o-y อัตราการเปลี่ยนแปลงเป็น -25%/+3% ถือว่าคาดการณ์กำไรปีนี้จะปรับลงมาก สำหรับการเปิดขายโครงการใหม่ในปี 65 เป็น 12 โครงการ มูลค่าขาย 8,540 ล้านบาท ส่วนในปีนี้ในรอบ 9M66 เป็น 9 โครงการที่มูลค่าขาย 8,540 ล้านบาท ส่วนใน 4Q66F อาจจะเปิดขายอีก 1 โครงการ

คงคำแนะนำเชิงลบคือ เต็มมูลค่า (Fully Valued) ราคาพื้นฐานใหม่น้อยลงเป็น 7.17 บาท ตามการปรับลดประมาณการ และประเมินด้วย P/E ปี 66F ที่ 7.0 เท่า ส่วนคาดการณ์เงินปันผลปีนี้น้อยลงเป็น 0.43 บาท ลดลงถึง 33% y-o-y จากปี 65 ที่ 0.64 บาท และคิดเป็นอัตราผลตอบแทนปันผลคือ 5.0% สำหรับยอดขาย (Presales) ปีนี้บริษัทตั้งเป้าไว้ที่ 8.6 พันล้าน ก็มีโอกาสจะบรรลุเป้าหมายได้ แต่ก็จะต้องเผชิญกันอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่สูง และในที่สุดก็จะต้องนำมาขายใหม่ (Re-Sell)

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : sombata@th.dbs.com : Tel. 02 857 7835