*Still pressured by sluggish fee income*
สินเชื่อเดือนส.ค.66 เติบโตต่อ โดย +0.8%MoM, +10.7%YoY และ +6.6%YTD โดยเป็นการขยายตัวในทุกประเภทของสินเชื่อ (รายย่อย, รายใหญ่ และ SME)
เงินฝากขยายตัว แต่เงินกู้ยืมลดลง สำหรับเงินฝากเดือนส.ค.66 เติบโต +2.2%MoM, +15.8%YoY และ+8.6%YTD โดยเป็นการเพิ่มในส่วนเงินฝากประจำ แต่ เงินกู้ยืมหดตัว -5.1%MoM, -17.9%YOY และ -22.7%YTD จากการปรับโครงสร้างด้าน เงินทุนและหุ้นกู้ครบอายุ สัดส่วน LDR (รวมเงินกู้ยืม) สิ้นส.ค.66 อยู่ที่ 102.8%
คาดกำไรสุทธิ 3Q66F จะทรงตัว QoQ แต่ยังโตได้ +4.6%YoY เป็ น 1.9 พันล้าน บาท ซึ่งการเติบโต YoY มาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (สินเชื่อโตแกร่ง แม้ NIM จะแคบ ลง) รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสูงขึ้น (3Q65 มีขาดทุนจาการตีมูลค่ายุติธรรมตราสาร การเงิน) รวมถึงตั้งสำรอง ECL ลดลง YoY ส่วนกำไรที่ทรงตัว QoQ เพราะคาดว่าจะตั้งสำรอง ECL สูงขึ้นตามการเติบโตของสินเชื่อ
ยังคงโฟกัสสินเชื่อ high yield แม้จะมีความเสี่ยงเรื่อง NPL สูงกว่า แต่การมีสำรอง สะสมที่สูงมากถึง 224% ของNPL ณ สิ้นมิ.ย.66 ทำให้การตั้งสำรอง ECL (credit cost) ยังอยู่ในระดับตํ่าได้
คงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 108 บาท อิงกับ P/BV ปีนี้ที่ 2.3 เท่า (Mean+2SD) ทั้งนี้ TISCO เป็นธนาคารที่มี ROE สูงที่สุดในกลุ่ม และจ่ายปันผลสูง ที่ราคาปัจจุบัน คาด DY ปีนี้ 7.7%
นักวิเคราะห์ : ธนินี สถิรเรืองชัย : thaninees@th.dbs.com : Tel. 02 857 7837