•    AMATA : กำไรรายไตรมาสผิดคาดจากอัตรากำไรจากยอดขายที่ดินที่อ่อนแอ
กำไรหลักเพิ่มขึ้น QoQ, YoY
กำไรสุทธิรายไตรมาสอยู่ที่ 313 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64% QoQ ลดลง 52% YoY กำไรสุทธิรายไตรมาสต่ำกว่าประมาณการของเรา 10% และสูงกว่าประมาณการ Bloomberg consensus 6% สำหรับไตรมาสนี้ บริษัทรายงานกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ส่งผลให้กำไรหลักอยู่ที่ 272 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52% QoQ และ 18% YoY  อีกทั้ง อัตรากำไรต่อไตรมาสค่อนข้างอ่อนแอที่ 34% ส่วนใหญ่มาจากการขายที่ดินที่มีอัตรากำไรต่ำ แม้ว่าจะมีสัดส่วนที่ดินจากชลบุรีสูงขึ้น โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายที่ดินอยู่ที่ 45% เทียบกับ 69% ในไตรมาสก่อนหน้า ทั้งนี้ บริษัทจะมีการประชุม SET ในวันที่ 30 สิงหาคม

ยอดจองดีขึ้นจากระยองใน 1H
ใน 1H23 มีการยอดจองรวม 682 ไร่ โดยชลบุรีอยู่ที่ 66 ไร่ ระยองที่ 533 ไร่ และ TCR ที่ 70 ไร่ กับเวียดนามที่ 13 ไร่ การโอนที่ดินอยู่ที่ 213 ไร่ โดยมีชลบุรี 102 ไร่ ระยอง 98 ไร่ และเวียดนาม 13 ไร่ ณ สิ้น 2Q บริษัทมี backlog มูลค่า 7.99 พันล้านบาท โดยเป็นจำนวน 6.1 พันล้านบาทจากประเทศไทย สำหรับไตรมาสนี้ บริษัทรายงานอัตรากำไรจากค่าสาธารณูปโภคที่ลดลงเนื่องจากกฎระเบียบของรัฐบาลเวียดนาม ส่งผลให้ต้นทุนค่าสาธารณูปโภคโดยรวมสูงขึ้น

คงคำแนะนำ ”ซื้อ” สำหรับ AMATA โดยมีมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 26.00 บาท จากการประเมินมูลค่า
มูลค่าที่เหมาะสมอิง PE ย้อนหลัง 5 ปี การผสมผสานระหว่างความไม่แน่นอนทางการเมืองและการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีกครั้งอาจทำให้ประเทศไทยดึงดูดการลงทุนได้ยาก อย่างไรก็ตาม ภาคส่วนต่าง ๆ ที่ประเทศไทยวางแผนจะดึงดูดนั้นเน้นที่แรงงานฝีมือมากกว่า รวมถึงความก้าวหน้าด้านโครงสร้างพื้นฐานและเครือข่ายโลจิสติกส์ ดังนั้น เรายังคงคาดหวังการไหลเข้าของการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์มายังประเทศไทย ท่ามกลางอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นสำหรับยานยนต์อิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้งการจัดตั้งองค์กรทางการเมืองในระยะเวลาอันใกล้น่าจะสนับสนุนกระแสการลงทุนและสร้างความเชื่อมั่น

Market Insight
     E- mail :tiscoresearch@tisco.co.th