สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(14 พฤษภาคม 2566)--------บริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน)WAVE เปิดเผยว่า
ในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้ 103.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 47.68 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 85 รายได้หลักมาจากธุรกิจสถาบันสอนภาษาอังกฤษ Wall Street English ซึ่งสามารถเปิดการเรียนการ สอนอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งคอร์สแบบเรียนที่โรงเรียน (On-site) และ ออนไลน์ (Online) ปัจจุบันกลุ่มลูกค้ากลับมาใช้บริการ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับบริษัทมีการส่งเสริมทางการตลาด เพื่อเพิ่มยอดขายในช่วงที่นักเรียนปิดภาคเรียน ทําให้ ภาพรวมของรายได้ของธุรกิจสอนภาษากลับมาเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด
นอกจากนี้ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 ทางบริษัทยังมีรายได้รับล่วงหน้า (Cash Sale) จากนักเรียนที่ซื้อคอร์สเรียน ล่วงหน้าเพิ่มขึ้นจํานวน 66.59 ล้านบาท หรือ คิดเป็นร้อยละ 53.56 จาก 111.15 ล้านบาท เป็น 177.74 ล้านบาท เมื่อ เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในงบการเงินเมื่อนักเรียนมาใช้บริการ
ทั้งนี้ บริษัทมีกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจผ่านระบบแฟรนไชส์ ในปี 2566 มีเป้าหมายที่จะขยายอีก 3 สาขาแฟรนไชส์ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โดยในเดือนเมษายนบริษัท ได้ลงนามในสัญญา MOU
กับ Sub-Franchisee 2 ราย เพื่อ ร่วมมือทําแฟรนไชส์ในพื้นที่ ชลบุรี ประเทศไทย และ เวียงจันทร์ ประเทศลาวเรียบร้อยแล้ว คาดว่าในปี 2566 จะสามารถหา นักลงทุนที่มีศักยภาพในการทํา Franchise ธุรกิจสถาบันสอนภาษาอังกฤษเพิ่มได้อีกตามเป้าหมาย ซึ่ง Franchising Model จะทําให้เกิดการขยายฐานธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว สามารถเพิ่มยอดขายและกําไรให้กับบริษัทได้มากขึ้น โดยบริษัทวางแผนที่จะขยายแฟรนไชส์รวมทั้งสิ้น 8 สาขารวม 21 สาขา ภายในปี 2568
ต้นทุน
บริษัทมีต้นทุนจํานวน 64.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.86 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 18 โดยเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่าย เฉพาะส่วนที่ผันแปรตามยอดขาย อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากสัดส่วนต้นทุนต่อรายได้ ในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 สัดส่วน ลดลงร้อยละ 35 จากเดิมร้อยละ 97 คงเหลือร้อยละ 62 จากความสามารถการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงต้นปี 2566 ส่งผลให้กลุ่มบริษัทมีกําไรขั้นต้น 39.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.82 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2,165 และมีสัดส่วนกําไรขั้นต้นต่อรายได้ เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 จากเดิมร้อยละ 3 เป็นร้อยละ 38 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
บริษัทมีค่าใช้จ่ายจํานวน 51.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.67 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน และ ค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจสถาบันสอนภาษาอังกฤษเป็นหลัก เพื่อสร้างยอดขายซึ่งเป็นไปตามแผน งบประมาณที่กลุ่มบริษัทวางไว้ อย่างไรก็ตาม สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารต่อรายได้ลดลงร้อยละ 14 จากเดิมร้อยละ 64 คงเหลือร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ต้นทุนการเงิน
ในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 กลุ่มบริษัทมีต้นทุนการเงินลดลง 3.15 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 75 จากเดิม 4.22 ล้านบาท เป็น 1.06 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เกิดจากการที่บริษัทนําเงินจากการเพิ่มทุนไปชําระหนี้สถาบัน การเงินในไตรมาส 4 ปี 2565 ทําให้บริษัทมีต้นทุนการเงินที่ลดลง
กําไรสุทธิ
สําหรับงวดไตรมาส 1 ปี 2566 กลุ่มบริษัท มีผลขาดทุนสําหรับงวดจํานวน 11.43 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส เดียวกันของปีก่อน มีผลกําไรสําหรับงวดจํานวน 6.68 ล้านบาท
ทั้งนี้ หากไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว (One-time item) จํานวน 1 รายการ จากการตัดจําหน่ายกิจการ บริษัท เจฟเฟอร์ เรสโตรองต์ จํากัด ในรายการ “กําไรจากการดําเนินงานที่ยกเลิก” 53.13 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 จะมีผลขาดทุน 46.46 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี 2566 จะขาดทุนลดลง 35.04 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 75 แสดงให้เห็นถึงผลการดําเนินงานที่ดีขึ้น