Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: TFG โค้งแรกกวาดรายได้ 1.38 หมื่นลบ.โต31% ชูทั้งปี 66ทำนิวไฮ หลังรุกขยายตลาดใน-นอก

2,430

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(11 พฤษภาคม 2566)-----TFG เปิดงบไตรมาส 1/66 กวาดรายได้กว่า 13,890 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% กำไรสุทธิ 425 ล้านบาท ฟากผู้บริหาร "นายวินัย เตียวสมบูรณ์กิจ" มั่นใจแนวโน้มรายได้ปี 66 เติบโตนิวไฮ หลังเปิดเกมรุกขยายตลาดใหม่ทั้งในและต่างประเทศ ลุยขยายสาขาค้าปลีก "ร้านไทยฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต" สำหรับจําหน่ายไก่-หมู สด เพิ่มเป็น 400 สาขา รองรับดีมานด์ลูกค้า จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว-ท่องเที่ยวฟื้น

 

นายวินัย เตียวสมบูรณ์กิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TFG) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 1/66 มีรายได้รวม 13,890 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 10,590 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 425 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายสุกร ไก่ และยอดขายในสาขาร้านค้าปลีก "ไทยฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต" ที่เพิ่มขึ้นถึง 240% ตามการขยายสาขา เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว

 

"แนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯวางเป้าหมายรายได้โตสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากการขยายตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มยอดขาย นอกเหนือจากโมเดลธุรกิจในส่วนของธุรกิจค้าปลีกที่เติบโตอย่างโดดเด่น และมีมาร์จิ้นสูง"

 

สำหรับแผนการลงทุนในปี 2566 บริษัทฯ จัดเตรียมงบไว้ราว 3,000-3,500 ล้านบาท เพื่อใช้ในการแผนขยายฟาร์มสุกรทั้งในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม และขยายร้านค้าปลีก

 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TFG กล่าวอีกว่า ในส่วนของธุรกิจค้าปลีก "ร้านไทยฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต" สำหรับจําหน่ายไก่และหมูสด ในปีนี้มีแผนเปิดสาขาใหม่เพิ่มเป็น 400 สาขา จากสิ้นปี 2565 อยู่ที่ 220 สาขา เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค สนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทฯเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค และทำให้รู้จักผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม TFG มากขึ้น ประกอบกับมาร์จิ้นของธุรกิจร้านค้าปลีกอยู่ในระดับสูง

 


บล.ทิสโก้ คงคำแนะนำ “ซื้อ” TFG
ราคาเป้าหมายใหม่ 6.00 บาท

 

บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” TFG จากราคาหุ้นปัจจุบันปรับลดลงสะท้อนราคาไก่และสุกรที่ลดลงใน 1Q23 แล้ว เราเชื่อว่าราคาไก่และสุกรจะเริ่มดีขึ้นและยืนระดับสูงมากกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต 7 ปี (2015-2021) ยกเว้นปี 2022 ที่ฐานสูง หลังจากดีมานด์ความต้องการบริโภคทั้งเนื้อสุกรและไก่ที่เพิ่มขึ้นหลังจากสถานการณ์โควิดผ่อนคลายและการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว และการปราบปรามลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน ประกอบกับการขยายธุรกิจร้านค้าปลีกของ TFG ที่มีอัตราทำกำไรมากกว่าเพิ่มขึ้น ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 6.00 บาท

 

--กำไรสุทธิ 1Q23 ลดลง YoY และ QoQ จากช่วง low season--
TFG ประกาศกำไรสุทธิ 1Q23 ที่ 425 ล้านบาท (-31% YoY, -62% QoQ) โดยหากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนและการบันทึกรายการชีวิภาค กำไรหลักจะอยู่ที่ 511 ล้านบาท (-21%YoY, -63%QoQ) เป็นไปตามที่เราคาด รายได้รวมอยู่ที่ 13,677 ล้านบาท (+32%YoY, -9%QoQ) เพิ่มขึ้น YoY จากการเปิดเมืองทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ demand การบริโภคและราคาที่เพิ่มขึ้น แต่ลดลง QoQ จากช่วง low season และราคาไก่และสุกรที่ลดลง โดย 1) ธุรกิจไก่ลดลง -8% YoY และ -26% QoQ จากการปรับช่องทางจำหน่ายไปสู่ร้านค้าปลีกมากขึ้น ประกอบกับราคาตลาดไก่ที่ลดลง (ราคาไก่ตลาด 1Q23 เฉลี่ยที่ 39 บาท/กก. +2% YoY, -9% QoQ) และ 2) ธุรกิจสุกรเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นแต่ราคาลดลง (ราคาสุกรตลาด 1Q23 เฉลี่ยที่ 90 บาท/กก. -5% YoY, -11% QoQ) สำหรับรายได้จากธุรกิจอื่นๆ เพิ่มขึ้น จากการเปิดสาขา TFG ที่เพิ่มขึ้น 1Q23 อยู่ที่ 234 สาขา จาก 4Q22 อยู่ที่ 220 สาขา อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 12.8% ลดลง จากต้นทุนอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้น

 


--ยังคงประมาณการเดิม คาดผลประกอบการปีนี้ลดลงและจะเพิ่มขึ้นในปีหน้า--
คาดแนวโน้มผลประกอบการ 2Q23F จะเพิ่มขึ้น QoQ จากช่วง high season และราคาไก่เริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นปัจจุบันอยู่ที่ 41.25 บาท/กก. (+6% QTD) ในส่วนราคาสุกรปัจจุบันอยู่ที่ 77 บาท/กก. (-15% QTD) เรายังคงประมาณการเดิมคาดกำไรสุทธิปี 2023-24F อยู่ที่ 2,867 ล้านบาท (-39%YoY) และ 3,130 ล้านบาท (+9%YoY) จากคาดรายได้ปี 2023F ธุรกิจไก่ลดลง 4%YoY จากคาดราคาขายไก่เฉลี่ยที่ 55 บาท/กก. และธุรกิจสุกรลดลง 9%YoY จากคาดราคาที่ 80 บาท/กก. โดยคาดปริมาณขายสุกรและไก่เพิ่มขึ้นปีละ 5% คาดธุรกิจค้าปลีกเติบโตจากการเปิดสาขาเป็น 380 และ 400 สาขา ตามลำดับ คาดอัตรากำไรขั้นต้นลดลงอยู่ที่ 13.5% และ 13.7% ตามลำดับ จากต้นทุนอาหารสัตว์ทั้งกากถั่วเหลืองและข้าวโพดที่เพิ่มขึ้น

 

ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” จากดีมานด์ความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดประเทศและการท่องเที่ยว ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 6 บาท อ้างอิง PER เฉลี่ย13X โดยราคาปัจจุบันมีระดับ PER23F ที่ 10X, Dividend Yield 23F อยู่ที่ 4.8%

 

ความเสี่ยง : โรคระบาด, ต้นทุนอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้น

----จบ---

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้