Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: กนง.เคาะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.00% ต่อปี มีผลทันที

871

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ ( 28 กันยายน 2565 )----- บอร์ด กนง.มีมติเป็นเอกฉันท์ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.00% ต่อปี มีผลทันที ระบุการทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังเป็นแนวทางการดำเนินนโยบายที่เหมาะสม


นายปิติ ดิษยทัต เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ในวันที่ 28 กันยายน 2565 ว่าคณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 0.75 เป็นร้อยละ 1.00 ต่อปี โดยให้มีผลทันที

เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ตามแรงส่งของภาคท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนเป็นสำคัญ ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังอยู่ในระดับสูงจากการส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมาแม้แรงกดดันด้านอุปทานจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์มีแนวโน้มคลี่คลาย ในภาพรวมแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อใกล้เคียงกับที่ได้ประเมินไว้ก่อนหน้า คณะกรรมการฯ เห็นว่าการทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังเป็นแนวทางการดำเนินนโยบายที่เหมาะสม จึงเห็นควรให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี ในการประชุมครั้งนี้

เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องที่ร้อยละ 3.3 และ 3.8 ในปี 2565 และ 2566 ตามลำดับ ตามแรงส่งของภาคท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนเป็นสำคัญ โดยภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวได้ดีกว่าคาดจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังมีความทั่วถึงมากขึ้น ทั้งในมิติของสาขาธุรกิจโดยเฉพาะภาคบริการและในมิติของรายได้ที่เริ่มกระจายตัวดีขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจโลกที่ชะลอลงกว่าคาดส่งผลต่อภาคการส่งออก แต่ไม่ได้กระทบแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภาพรวม

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2565 และ 2566 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 6.3 และ 2.6 ตามลำดับ โดยมีแนวโน้มปรับลดลงตามราคาน้ำมันโลกและปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่ทยอยคลี่คลาย ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปี 2565 และ 2566 คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 2.6 และ 2.4 ตามลำดับ โดยโน้มสูงขึ้นจากการส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ ด้านค่าจ้างแรงงานปรับเพิ่มขึ้นในบางภาคธุรกิจและบางพื้นที่ที่ขาดแคลนแรงงาน แต่ยังไม่เห็นสัญญาณการปรับเพิ่มขึ้นในวงกว้าง นอกจากนี้ แรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปสงค์ยังมีจำกัดเนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังอยู่ระหว่างการฟื้นตัว สำหรับอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ระยะปานกลางยังยึดเหนี่ยวอยู่ในกรอบเป้าหมาย คณะกรรมการฯ จะติดตามความเสี่ยงเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการส่งผ่านต้นทุนที่อาจเพิ่มขึ้นหากผู้ประกอบการเผชิญกับแรงกดดันด้านต้นทุนหลายด้านพร้อมกัน

ระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพ ธนาคารพาณิชย์มีระดับเงินกองทุนและเงินสำรองที่เข้มแข็ง ความสามารถในการชำระหนี้ของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนปรับดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่ยังมีผู้ประกอบการ SMEs ในบางสาขาธุรกิจที่ฟื้นตัวช้าและครัวเรือนรายได้น้อยบางกลุ่มที่ยังอ่อนไหวต่อค่าครองชีพ คณะกรรมการฯ เห็นว่าควรดำเนินมาตรการปรับโครงสร้างหนี้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเห็นความสำคัญของการมีมาตรการเฉพาะจุดและแนวทางแก้ปัญหาหนี้อย่างยั่งยืนสำหรับกลุ่มเปราะบาง

ภาวะการเงินโดยรวมยังผ่อนคลาย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลทยอยปรับสูงขึ้น ในขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมของภาคเอกชนโดยรวมยังเอื้อต่อการระดมทุน ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบดอลลาร์ สรอ. ปรับอ่อนค่าเร็วและต่อเนื่องตามการแข็งค่าของดอลลาร์ สรอ. สอดคล้องกับสกุลเงินในภูมิภาค คณะกรรมการฯ จะติดตามพัฒนาการในตลาดการเงินและตลาดอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วงที่ค่าเงินบาทมีความผันผวนสูง

ภายใต้กรอบการดำเนินนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายเพื่อรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนและเต็มศักยภาพ และรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน คณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่มีความเสี่ยงจากเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น จึงเห็นควรให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไปเข้าสู่ระดับที่เหมาะสมกับการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพในระยะยาว และในกรณีที่แนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะข้างหน้าเปลี่ยนไปจากที่ประเมินไว้ คณะกรรมการฯ พร้อมที่จะปรับขนาดและเงื่อนเวลาของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้เหมาะสมต่อไป

 

 


BAY เผย เงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็วมาที่ 38.30 บาท/ดอลลาร์
หลัง กนง. ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็น 1.0%


กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อบ่ายวันนี้ โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็น 1.0% จากเดิม 0.75% ซึ่งเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่สองนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 เป็นไปดังที่ตลาดคาดการณ์

 

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในด้านการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน โดยประเมินว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวอยู่ที่ 3.3% ในปีนี้ อย่างไรก็ดี กนง. ปรับลดการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2566 เป็น 3.8% จากเดิมอยู่ที่ 4.2% โดยคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาประเทศไทยจะอยู่ที่ 9.5 ล้านคนในปี 2565 และ 21 ล้านคน ในปี 2566 ในส่วนของอุปสงค์ต่างประเทศ กนง. ประเมินว่า เศรษฐกิจโลกที่ชะลอลงกว่าคาดส่งผลต่อภาคการส่งออก แต่ไม่ได้กระทบแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภาพรวม ในด้านแรงกดดันด้านราคาสินค้า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นจากการส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะอยู่ที่ 2.6% โดยประมาณในปี 2565 และอยู่ที่ 2.4% ในปี 2566 ซึ่งนับเป็นการปรับขึ้นจากครั้งก่อน จากถ้อยแถลงของ กนง. ค่าแรงมีการปรับขึ้น แต่ยังคงไม่เห็นสัญญาณของการปรับขึ้นค่าแรงในวงกว้าง

เงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็วมาที่ 38.30 บาท/ดอลลาร์หลังการประกาศของ กนง. โดยค่าเงินบาทอ่อนค่าลงกว่า 15% แล้วในปีนี้ อันเป็นผลมาจากการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยและการคุมเข้มนโยบายอย่างแข็งกร้าวของเฟด โดย กนง. มีความเห็นว่าการอ่อนค่าของเงินบาทนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง สืบเนื่องมาจากการแข็งตัวของค่าเงินดอลลาร์ แต่อย่างไรก็ดี ค่าเงินบาทยังคงมีการเคลื่อนไหวที่สอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ของประเทศในภูมิภาค กนง. ย้ำว่าจะยังคงติดตามพัฒนาการของตลาดการเงินอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีความผันผวนรุนแรง

 

คณะกรรมการกนง. มีกำหนดการประชุมรอบถัดไปในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ถ้อยแถลงของ กนง. ครั้งนี้ตอกย้ำท่าทีการปรับนโยบายสู่สภาวะปกติแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม เราเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกอยู่บ้างที่ กนง. มีมติเอกฉันท์ในการประชุมรอบนี้ คณะกรรมการมีความเห็นว่าเศรษฐกิจนั้นจะยังคงฟื้นตัวต่อไปท่ามกลางความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น โดย กนง. มีความพร้อมในการปรับขนาดและกรอบเวลาของการดำเนินนโยบายแต่ละขั้นตอนตามที่เห็นสมควร กรุงศรีคาดว่าในการประชุมรอบหน้าจะมีการปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีก 0.25% และอาจจะมีการปรับขึ้นอีกครั้งละ 0.25% อีก 2 ครั้งในไตรมาส 1 ของปี 2566 ซึ่งในเบื้องต้นเราน่าจะได้เห็นการปรับอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 1.75% ในกรอบระยะเวลาดังกล่าว

 

 

 

----จบ---

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

สถานบันเทิงครบวงจร By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ยินดี สภาผู้แทนราษฎร ที่ได้ลงมติ รายงานผลการศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร...

รอดเท่ากับไม่เทรด By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง มองไม่ค่อยเห็น ผู้ชนะในเกมหุ้น แต่นักลงทุนที่รอด ชัวร์ๆ นั่นคือ หยุดเทรด ไม่เทรด ไม่ซื้อขาย ...

มัลติมีเดีย

NER กางปีก..รับราคายางพาราพุ่ง - สายตรงอินไซด์ - 18 มี.ค.67

NER กางปีก..รับราคายางพาราพุ่ง - สายตรงอินไซด์ - 18 มี.ค.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้